ตอนที่ 2
น้ำตาลบอกขณะสายตาจับจ้องอยู่กับผ้าพันแผล มือเรียวค่อยๆ บรรจงพันผ้าอีกครั้งจนรอบหลังมือของมาร์เซโล่อย่างตั้งอกตั้งใจ
“เสร็จแล้วค่ะ”
น้ำตาลเหลือบมองหน้าพี่เขย ตอนนั้นจึงได้รู้ว่าสายตาแข็งกระด้างของมาร์เซโล่ดูอ่อนโยนลงมาก เขากำลังจ้องมองเรือนร่างของหล่อนด้วยความลืมตัว
อาจจะเป็นเพราะว่าตอนนั้นทรวงอกอวบใหญ่เป็นทรงสวยของน้ำตาลกำลังกระเพื่อมไหวอยู่ภายใต้ชุดนอนบางๆ ขณะหล่อนก้มๆ เงยๆ พันแผลให้เขา
เรือนร่างและผิวพรรณซึ่งเอิบอิ่มเปล่งปลั่งไปด้วยเลือดเนื้อวัยสาวสะพรั่งของน้ำตาลทำให้หัวใจของหนุ่มใหญ่อย่างมาร์เซโล่ถึงกับเต้นไม่เป็นจังหวะ
“เสร็จแล้วค่ะพี่มาร์ค”
น้ำตาลบอก เสียงของหญิงสาวทำให้พี่เขยสะดุ้ง
“ขอบใจมาก”
มาร์เซโล่ยอมรับว่าอารมณ์ของเขาแปรปรวนจนตัวเองก็ตามไม่ทัน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าความใกล้ชิดกับน้องเมียแสนสวยคนนี้ จะทำให้เลือดในกายของเขาสูบฉีดพลุ่งพล่านรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านๆ มา เขากับหล่อนยังไม่เคยมีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกันมากถึงเพียงนี้... กระทั่งถึงวันนี้ วันที่น้ำผึ้งผู้เป็นพี่สาวของน้ำตาลได้จากเขาไปแล้ว
“พี่มาร์คนอนนะคะ... ดึกแล้ว”
น้ำตาลมองไปที่เตียงนอนกว้าง หล่อนบอกเหมือนเหมือนกับพี่เขยคนนี้เป็นเด็กๆ ที่ต้องเอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษ
“พี่จะนอนตรงนี้สักเดี๋ยว”
มาร์เซโล่บอกพลางทำท่าว่าจะเอนศีรษะพิงพนักด้านหนึ่งของโซฟา
“เดี๋ยวตาลเอาหมอนมาให้นะคะ”
น้องเมียหยัดร่างบอบบางขึ้นจากโซฟา เดินไปหยิบหมอนสีขาวที่วางอยู่บนเตียงมาให้เขา ก่อนจะปิดไฟแล้วก้าวเงียบเชียบออกมาจากห้องของพี่เขย ปล่อยให้มาร์เซโล่มองตามเรือนร่างเอิบอิ่มที่ก้าวลับออกไปจากประตูห้องของเขาด้วยหัวใจเต้นแรง
วันรุ่งขึ้น
“พี่มาร์คยังไม่ลงมาอีกหรือคะป้านวล”
ใบหน้าสะสวยชะโงกเข้ามาในครัว น้ำตาลเอ่ยถามสตรีสูงวัยในทันที เมื่อมองไม่เห็นร่างสูงใหญ่ของพี่เขยนั่งอยู่ในห้องรับแขก ปกติเวลานี้เขาจะต้องลงมากินข้าว
“คุณมาร์คยังไม่ลงมาเลยค่ะ”
ป้านวลตอบ หล่อนทำงานบ้านให้กับมาร์เซโล่มานานหลายปี ทุกวันนี้ป้านวลเป็นทั้งแม่ครัวและหัวหน้าคนรับใช้ มาร์เซโล่ให้ความไว้วางใจราวกับว่าหล่อนเป็นญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง สมกับที่ป้านวลรับใช้เขาด้วยความซื่อสัตย์ตลอดมา
“คุณตาลจะทานข้าวเลยมั้ยคะ... โจ๊กหรือข้าวต้มดีคะ”
ป้านวลรีบถาม สุ้มเสียงของหล่อนบ่งบอกถึงความเป็นผู้ใหญ่ใจดี
“โจ๊กก็ได้ค่ะ... ไม่ต้องเยอะนะคะป้านวล”
หญิงสาวกล่าว
“อุ๊ย... หุ่นบางๆ อย่างคุณตาลนี่ยังทานได้อีกเยอะค่ะ ไม่ต้องกลัวอ้วนหรอกนะคะ เป็นผู้หญิงต้องมีเนื้อมีหนัง สมัยนี้ผู้ชายชอบผู้หญิงเจ้าเนื้อนิดๆ อวบๆ เทรนด์อวบกำลังมานะคะ ยุคนี้ผู้ชายชอบเนื้อนมไข่เต็มไม้เต็มมือดีค่ะ... อิอิ”
ป้านวลเอ่ยขึ้นมาอย่างมีอารมณ์ขัน แกจดจำเรื่องนี้มาจากรายการบันเทิงหลังข่าวที่ชอบดูประจำ น้ำตาลซึ่งอยู่ในชุดแต่งกายด้วยเครื่องแบบนักศึกษาฟังแล้วก็ได้แต่อมยิ้ม
ขณะที่หญิงสาวกำลังนั่งทานโจ๊กได้เพียงครู่สั้นๆ ตักโจ๊กใส่ปากได้เพียงไม่กี่คำ ร่างสูงใหญ่ของผู้เป็นเจ้าของบ้านก็ปรากฏกายขึ้นที่หน้าประตูห้องรับแขก
“พี่มาร์ค”
น้ำตาลอุทาน สายตาของหล่อนจับจ้องมองเรือนร่างสุดสมาร์ทของพี่เขยด้วยความรู้สึกชื่นชมไม่เคยเปลี่ยน นับตั้งแต่วันแรกที่มีโอกาสเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้
น้ำตาลยอมรับว่าชอบแอบมองพี่เขยคนนี้บ่อยๆ มาร์เซโล่มีความเป็นชายชาตรีในทุกกระเบียดนิ้ว ความสง่าของเขาทำให้สูทราคาแพงที่มาร์เซ่โล่สวมใส่ไม่ได้โดดเด่นเกินไปกว่ารูปร่างสูงใหญ่เกินร้อยแปดสิบเซนติเมตรและใบหน้าหล่อเหลาซึ่งทำให้สะดุดตาทุกครั้งที่มอง
“ยังไม่ไปเรียนอีกหรือ”
มาร์เซโล่ถามเรียบๆ มือใหญ่ขยับเนคไทที่คอของตัวเองไปพลาง
พี่เขยถามเพราะเห็นว่าตอนนั้นเป็นเวลาสายมากแล้ว
“วันนี้น้ำตาลมีสอบตอนบ่ายค่ะพี่มาร์ค สอบเป็นวันสุดท้ายก็จะจบแล้วค่ะ”
หญิงสาวบอกให้เขารู้ ร่างสูงใหญ่ทรุดลงนั่งบนเก้าอี้อีกตัวที่ว่างอยู่ข้างๆ หล่อน
“เผลอเดี๋ยวเดียวจะเรียนจนแล้วหรือนี่... เร็วจัง”
มาร์เซโล่ทำหน้าตกใจ เพราะว่าวันๆ เขาเอาแต่ยุ่งอยู่กับงานจนแทบไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัว ใครๆ ก็รู้ว่าเขาเป็นคนขยันทำงาน บ้างานมาแต่ไหนแต่ไร
หลังจากเรียนจบปริญญาโททางด้านวิศวะโยธามาจากเยอรมัน มาร์เซโล่ก็กลับมาช่วยงานของครอบครัวซึ่งทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมานานหลายปี แต่ก็ยังคงเป็นได้แค่บริษัทเล็กๆ