พี่เขยคลั่งรัก

65.0K · จบแล้ว
กาสะลอง
57
บท
130.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“ปล่อยนะพี่มาร์ค... ฮือๆ ตาลเจ็บ” หญิงสาวร้องอุทธรณ์ ที่ว่าให้ปล่อยหมายถึงช่วยคลายริมฝีปากจากปลายหัวนมของหล่อนเสียทีเถอะ เขาดูดจนแดงไปหมดแล้ว “ปล่อยก็ได้... ” มาร์เซโล่เหลือบตาขึ้นมองใบหน้าซ่านสยิวของน้องเมีย เขายอมคลายริมฝีปากออกมาจากยอดปทุมนุ่มลิ้นอย่างแสนเสียดาย น้ำตาลรู้สึกโล่งใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ที่พี่เขยหื่นยอมหยุดเฟ้นฟอนทรวงอกของหล่อน หญิงสาวนึกว่าเขาจะยอมปล่อย เมื่อเห็นว่าร่างกำยำของพี่เขยขยับออกจากลำตัวน้อยๆ ของหล่อน แต่แทนที่มาร์เซโล่จะแก้มัด เขากลับวางมือลูบไล้ต้นขาของหล่อนด้วยสีหน้าหื่นยิ่งกว่าเดิม “ถ้าไม่อยากให้ดูดข้างบน... งั้นพี่จะดูดข้างล่างก็แล้วกัน.” มาร์เซโล่หัวเราะหึๆ รีบขยับลงไปนั่งคุกเข่าตรงปลายเท้าของน้องเมียเพื่อบอกให้รู้ว่าเขาไม่ได้พูดเล่น จากนั้นมือซุกซนก็เลิกชายชุดนอนขึ้นมากองเอาไว้ที่หน้าท้องแบนราบของหญิงสาว

นิยายปัจจุบันประธานพลิกชีวิตนางเอกเก่งรักหวานๆรักแรกพบเศรษฐีโรงแรม/มหาลัยโรแมนติก

ตอนที่ 1

“พี่เขยจอมเถื่อน”

ผู้เขียน

กาสะลอง

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ.2537

ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือหรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้น

ขณะที่หญิงสาวนำลังจะหลับตา หลังจากทิ้งร่างบอบบางลงนอนบนเตียงนอนได้เพียงครู่สั้นๆ เสียงคล้ายกระจกแตกกระจายหรือคนกำลังทุบตีขว้างปาข้าวของอะไรสักอย่างก็ดังลั่นออกจากห้องนอนของผู้เป็นเจ้าของบ้านที่อยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าว ทำให้คนเป็นน้องเมียซึ่งกำลังนอนอยู่ในห้องข้างๆ ต้องสะดุ้ง รีบลุกขึ้นจากเตียงตอน แล้วก้าวยาวๆ ออกมาจากห้องด้วยความตกใจ

“พี่มาร์ค”

หญิงสาวเคาะประตู ทว่าเมื่อคนข้างในไม่เปิดรับหล่อนจึงตัดสินใจผลักบานประตูเข้ามาได้ง่ายๆ เพราะว่าเจ้าของห้องไม่ได้ล็อคประตูเอาไว้

สภาพที่เห็นทำให้หล่อนตกใจมาก โลหิตสีแดงฉานอาบอยู่ที่หลังมือของมาร์เซโล่ ร่องรอยแตกร้าวเป็นวงกว้างของบานกระจกข้างผนังใกล้กับตู้เสื้อผ้าเป็นหลักฐานยืนยันได้เป็นอย่างดีว่ามาร์เซโล่ใช้กำปั้นชกกระจกจนเลือดแดงอาบหลังมืออย่างที่เห็น

“หยุดนะพี่มาร์ค”

หญิงสาวปรี่เข้าไปรั้งแขนของพี่เขยเอาไว้ เมื่อเห็นว่าเขาทำท่าว่าจะตะบันกำปั้นเข้าใส่กระจกอีกครั้ง ปกติหล่อนและผู้คนในบ้านเรียกชื่อมาเซร์โล่สั้นๆ ว่า ‘มาร์ค’ จนติดปาก

“ปล่อย... อย่ามายุ่งกับพี่”

เจ้าของบ้านพยายามสะบัดแขนข้างที่ถูกมือเรียวกอดเอาไว้แน่น เพื่อจะหยุดเขาน้ำตาลต้องใช้ทั้งตัวกอดแขนของมาร์เซโล่ เขาคงไม่รู้ว่าหล่อนต้องใช้เรี่ยวแรงทั้งตัวเพื่อจะรั้งแขนกำยำของเขาไว้ได้ เพราะว่ามาร์เซโล่เป็นหนุ่มลูกครึ่งที่ตัวใหญ่ยักษ์เหลือเกิน เมื่อเทียบกับสาวไทยรูปร่างบอบบางอย่างหล่อน

“จะทำร้ายตัวเองทำไมคะพี่มาร์ค... หยุดเถอะนะคะน้ำตาลขอร้อง”

น้ำตาลพยายามให้สติพี่เขย หล่อนรู้ว่าตลอดระยะเวลาสามเดียวหลังจากพี่สาวของหล่อนจากเขาไป มาร์เซโล่ก็เอาแต่เศร้าโศกเสียใจ บางวันก็ซึมเศร้าแทบไม่เป็นอันกินอันนอน

“ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ที่เป็นคนซื้อรถใหม่ให้... พี่สาวเธอก็คงไม่ตาย”

เสียงของมาร์เซโล่ขมขื่นจนคนเป็นน้องเมียรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่ฝังแน่นอยู่ภายในใจเขา

พี่เขยคนนี้เอาแต่ลงโทษตัวเองว่าเป็นคนทำให้ ‘น้ำผึ้ง’ ซึ่งเป็นภรรยาสุดที่รักของเขาและยังเป็นพี่สาวร่วมสายโลหิตของหล่อนต้องมาจบชีวิตเพราะอุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดคิด

“มันเป็นอุบัติเหตุนะคะพี่มาร์ค”

เมื่อเห็นว่าจะรั้งไม่อยู่ วงแขนน้อยๆ ของน้ำตาลจึงกอดร่างของเขาเอาไว้แน่น

หล่อนร้องไห้ พี่เขยก็ร้องไห้ สุดท้ายมาร์เซโล่ก็กอดร่างของน้ำตาลเอาไว้แน่นไม่ต่างกัน แนบแน่นจนหญิงสาวรับรู้ได้ถึความอบอุ่นที่แผ่ลามออกมาจากเนื้อตัวกำยำของเขา กลิ่นสุราที่คละเคล้ากลิ่นกายของพี่เขยทำให้หัวใจของน้ำตาลเต้นแรง

กระทั่งเมื่อสติคืนกลับมา สำนึกในความเหมาะสมระหว่างความเป็น ‘พี่เขย’ กับ ‘น้องเมีย’ ซึ่งเป็น ‘ผู้หญิง’ กับ ‘ผู้ชาย’ ทำให้น้ำตาลเป็นฝ่ายขืนกายออกมาจากอ้อมอกของพี่เขยด้วยท่าทางเกร็งๆ

“ตาลจะทำแผลให้พี่มาร์คนะคะ”

หล่อนบอกพลางจูงมือพี่เขยให้มาทรุดร่างสูงใหญ่ลงนั่งบนโซฟาที่ตั้งอยู่กลางห้อง

มาร์เซโล่จ้องมองเรือนร่างบอบบางในชุดนอนผ้าซาตินลายลูกไม้พลิ้วบางที่ก้าวออกไปจากห้องโดยไม่สนใจโลหิตสีแดงที่ยังไหลซึมออกมาจากหลังมือ

เพียงอึดใจสั้นๆ น้ำตาลก็เดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมกับผ้าพันแผลและยาล้างแผล

“ตาลจะทำแผลให้ค่ะ”

น้องเมียกล่าวพลางทรุดร่างลงนั่งหมิ่นๆ ที่ขอบโซฟา ร่างสูงใหญ่ที่นอนเหยียดยาวยื่นแขนออกมาให้หญิงสาวจัดการล้างแผลโดยไม่รู้สึกเจ็บแสบแต่อย่างใด

ท่าทางของมาร์เซโล่ในเวลานี้ดูราวกับคนไร้ความรู้สึก ด้วงตากระด้างไม่ยี่หระต่อความเจ็บปวดจากบาดแผลที่หลังมือเลยสักนิด เพราะเขารู้ดีว่ามันน้อยนิดเหลือเกิน... เมื่อเทียบกับความ ‘เจ็บในใจ’ ที่ต้องสูญเสียภรรยาสุดที่รักให้กับอุบัติเหตุซึ่งไม่มีใครคาดฝัน

“พี่มาร์คอยู่นิ่งๆ นะคะ”

น้ำตาลเหลือบมองหน้าพี่เขยแวบหนึ่ง หลังจากใส่ยาที่หลังมือแล้วพันด้วยผ้าพันแผล ใบหน้าของมาร์เซโล่ยังนิ่งงันเหมือนคนไร้ความรู้สึก กระทั่งเสียงของน้องเมียดังขึ้นมาอีกครั้ง

“ดีที่แผลไม่ลึกค่ะ”