8 วางแผนปลูกข้าวโพด
แม้ว่าเสียใจต่อการเสียชีวิตอย่างโหดร้ายของลูกสาวกับลูกเขยก็ตาม เมื่อได้ยินตาสอนพูดอย่างนั้น ยายแววเตือนสติโดยยกเรื่องกรรมขึ้นมาอ้าง ซึ่งก็ทำให้ตาสอนนั่งเงียบ พยัคฆ์กำมือทั้งสองข้างเข้าหากัน สูดลมหายใจแรงๆ พยายามรวบรวมความรู้สึกไม่ให้คิดเรื่องการตายของผู้ใหญ่กำเนิดทั้งสอง ก้องมองด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าพยัคฆ์จะเครียด
“ผมจะลืมเรื่องการตายของพ่อแม่ครับ”
“ดีแล้วลูก ยายดีใจนะที่พยัคฆ์บอกว่าจะมาอยู่ด้วย ยายกับตาก็อ่อนแรงลงทุกที ไร่ก็มากมายไม่มีใครดูแล เอ็งกับเพื่อนช่วยกันทำเถอะนะ แล้วแบ่งผลกำไรกัน”
“ขอบคุณครับยาย ผมกับเจ้าก้องจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด”
“ผมขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นหลานยายด้วยคนนะครับ”
“จ้ะ ก้องเป็นคนดี รักเพื่อน ยายเชื่อว่าชีวิตจะมีแต่ความสุข ความเจริญ ขออย่างเดียวอย่ายุ่งเกี่ยวกับสิ่งไม่ดี มันจะทำให้เราวิบัติ”
ก้องนิ่งเงียบ ไม่กล้าที่จะพูดออกมาเพราะรู้ว่าสิ่งที่ยายแววบอกสอนนั้นคือสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ยายแววเห็นดังนั้นจึงให้สองหนุ่มไปจัดห้องซึ่งมีอยู่แค่เพียงห้องเดียว ส่วนนางกับตาสอนนอนตรงระเบียงด้านนอกคอยเฝ้าบ้านในเวลากลางคืน
พยัคฆ์เป็นคนขยัน ไม่ย่อท้อต่อความลำบาก ไม่ถือตัวเองว่าเรียนจบสูงกว่าทุกคนในหมู่บ้าน ในแต่ละวันจะขลุกอยู่ในไร่คลุกดินคลุกทราย โดยมีก้องอยู่เคียงข้าง
ลำดับแรกชายหนุ่มสำรวจดูสภาพภูมิอากาศกับลักษณะของดิน พืชผักที่ปลูกเป็นประจำ รวบรวมสถิติของผลผลิตในแต่ละปี ตาสอนกับเพื่อนบ้านเป็นผู้ให้ข้อมูล ความจริงจังในการทำงาน ตาสอนมองหลานชายด้วยความชื่นชม
“ตาครับ ปีนี้คิดว่าจะปลูกอะไรดี”
ชายหนุ่มถามความคิดเห็นจากผู้เป็นตาในขณะรับประทานอาหารมื้อเย็นที่มีกับข้าวง่ายๆ น้ำพริกปลาช่อน ผักสดและปลาทอด เพียงแค่นี้ทุกคนรู้สึกอร่อยเพราะฝีมือการทำกับข้าวของยายแววนั้นเด็ดขาดมาก
ตาสอนกำลังเปิดข้าวใส่ปากมีอันต้องหยุดชะงัก มองหลานชายที่กำลังรอคำตอบ ส่วนก้องยังคงเอร็ดอร่อยกับน้ำพริกถ้วยโต
“ตาว่าจะลงข้าวโพดกับถั่วเขียว”
“ข้าวโพดเหลืองใช้สำหรับเลี้ยงสัตว์หรือครับ”
“ตาไม่รู้หรอกว่าเขาใช้เลี้ยงอะไร มีหน้าที่ปลูกเพียงอย่างเดียว”
“ส่วนใหญ่แล้วข้าวโพดชนิดนี้เอาไปเลี้ยงสัตว์ คือเป็นส่วนผสมในอาหารสัตว์ครับ ผมสังเกตดูแถวนี้ไม่มีใครปลูกข้าวโพดหวานเลย ถ้าอยากกินทำยังไงครับตา”
“อยากกินก็ไปซื้อที่ตลาดสิ”
ตาสอนตอบโดยไม่ต้องคิดมากเพราะเคยทำอย่างนี้ทุกครั้งที่เข้าไปซื้อของในตลาดซึ่งยังจำรสชาติหอมหวานของข้าวโพดต้มพันธุ์นี้ได้ดี พยัคฆ์รู้แล้วว่าจะต้องทำอะไรต่อไปกับพื้นที่เพาะปลูกที่มีอยู่ 20 ไร่ หากว่าแบ่งออกเป็นส่วนๆ ปลูกพืชผักหลายๆ อย่างจะทำให้มีรายได้หลายทาง
“ผมคิดว่าจะปลูกข้าวโพดหวาน”
“ใครจะซื้อ ส่วนใหญ่คนที่นี่ปลูกข้าวโพดเหลือง พอฝักแห้งเราก็เก็บไปสีแล้วขายให้กับเถ้าแก่ที่มารับซื้อถึงที่”
ตาสอนแย้งขึ้น ไม่เห็นด้วยที่หลานชายจะปลูกข้าวโพดพันธุ์ซูเปอร์สวีท กลัวว่าจะขายไม่ได้และไม่มีใครปลูกกัน ความคิดแหวกแนวของพยัคฆ์ทำให้ตาสอนเป็นห่วง
“เราหาลูกค้าเอง ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางให้เขากดราคา”
“ลูกค้าที่ไหนวะ เจ้าพยัคฆ์”
“ไม่ยากหรอกก้อง เราจะไปถามแม่ค้าในตลาดทั้งที่นี่และที่อื่น รวมทั้งพวกที่ทำซุ้มขายของข้างทาง เราขายเป็นฝัก คัดไว้หลายขนาด เงินดีกว่าข้าวโพดเหลืองเสียอีก”
“ความคิดดีว่ะแล้วจะเอาพันธุ์ที่ไหนวะ”
“เราไปขอคำปรึกษาจากศูนย์วิจัยข้าวโพดโดยเฉพาะว่าจะปลูกอย่างไร ดูแลแบบไหนแล้วเราซื้อเมล็ดพันธุ์จากที่นั่นเลย เริ่มแรกก็ไม่ต้องปลูกเยอะหรอก เมื่อเห็นว่าไปได้ดีจึงขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นในครั้งต่อไป”
พยัคฆ์เป็นคนหัวก้าวหน้า มีความคิดแตกต่างจากชาวไร่ทั่วไป พยายามศึกษาหาข้อมูลต่อพืชที่จะปลูก ให้มีรายได้มากกว่าเดิม ตาสอนภาคภูมิใจในตัวหลานชายคนนี้มาก คิดว่าจะต้องเป็นเถ้าแก่ในอนาคต
“เอ็งจะทำอะไรก็ตามใจนะ ตาเชื่อมั่นในตัวเอ็ง”
“ยังมีอีกครับตาที่ผมอยากทำมาก”
“นอกจากปลูกข้าวโพดหวานขายฝักสดแล้วเอ็งจะทำอะไรอีก”
“ข้าวโพดอ่อนที่เราเอามาทำกับข้าวนั่นแหละ ผมเห็นในตลาดขายใส่ถุงเล็กๆ มีแค่ไม่กี่ฝัก เทียบราคาแล้วแพงพอสมควร ผมจะปลูกขายเหมือนกัน”
“ตาทำไม่เป็นหรอก ว่าให้มันเป็นฟักอ่อนตลอดเวลาน่ะ เขาทำกันแบบไหน?”
“นั่นสิพยัคฆ์ ยายปลูกข้าวโพดมาตั้งแต่สาวจนหัวหงอก แก่เกือบจะลงโลงอยู่แล้ว ยังไม่รู้วิธีทำให้เป็นฟักอ่อนแล้วหักไปขายทุกวันน่ะ เขาทำแบบไหน”