28 เสือประกาศแต่งงานกับมณี
‘นังคนนี้กล้าหอมแก้มพี่เสือเลยหรือ พี่เสือก็ไม่ทำอะไรสักอย่าง ปล่อยให้มันกอดแขน หอมแก้มอยู่นั่นแหละ เรื่องนี้ถึงยายมณีแน่ๆ คราวนี้เสร็จล่ะพี่เสือเอ๊ย’
เมื่อรู้ว่ามีหนทางที่จะสร้างความร้าวฉาวให้พยัคฆ์กับมณีโกรธกัน เพชรรุ่งรีบกลับบ้าน เมื่อเห็นมณีกำลังล้างจานอยู่ในครัว หญิงสาวยิ้มเหี้ยมเกรียมแล้วเข้าไปยืนใกล้ๆ
“มณี เธอช่างเป็นผู้หญิงน่าสงสารที่สุด เชื่อในคารมผู้ชาย”
“พี่เพชร พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง”
“ไม่ต้องทำเสียงไม่พอใจอย่างนั้นเลยนะ นี่คือเรื่องจริง ฉันเห็นมากับสองตาพร้อมๆ กับอีกหลายคนในตลาดว่าสุดที่รักของเธอน่ะ เดินควงแขนกับผู้หญิงแล้วแม่นั่นจูบแก้มกันด้วย หวานซะจริง”
“พี่อย่ามาโกหกฉันนะ ในตลาดคนตั้งเยอะแยะใครจะกล้าทำแบบนั้น”
“ไม่เชื่อก็ถามคนขายกาแฟดูก็ได้ สองคนนั่นไปนั่งอี๋อ๋อ หัวแทบชนกันตั้งแต่เช้าแล้วย่ะ ซื่อๆ อย่างเธอไม่ทันพี่เสือหรอก ขานั้นคล่อง กะล่อน ผู้หญิงเยอะ ฉันมาบอกเนี่ยให้ทำใจเอาไว้ก่อน”
กล่าวจบหญิงสาวสะบัดแล้วผละจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้มณียืนนิ่ง น้ำตาคลอ ชาไปทั้งร่าง ไม่คิดว่าคนรักจะกล้าควงผู้หญิงคนอื่นและหอมแก้มกันกลางตลาดอย่างนั้น ไม่ไว้หน้าเธอกับพ่อเลย ทำให้เธออับอายผู้คนแล้วอย่างนี้จะกล้ามองหน้าใครได้
น้ำตาอุ่นๆ ไหลอาบแก้มด้วยความเสียใจ เจ็บปวดต่อสิ่งที่รับรู้อย่างที่สุด ไม่รู้ว่าเวลานี้เขายังรักเธออยู่ไหม ทำไมเขาต้องมีผู้หญิงเคียงข้างกายด้วยทั้งที่กำลังจะแต่งงานกับเธอ
หลากหลายคำถามที่อยากจะถามพยัคฆ์ให้รู้เรื่อง แต่เธอไม่รู้ว่าจะไปตามตัวเขาได้ที่ไหน แต่ละวันแทบไม่อยู่ติดบ้าน มีธุระยุ่งตลอด
‘เราจะรอเขามาที่บ้านแล้วถามให้รู้’
หญิงสาวบอกกับตัวเองอย่างนั้นเพราะไม่ชอบตามติดผู้ชาย กลัวว่าถ้าทำอย่างนั้นแล้วเขาจะรำคาญ แม้แต่สอดส่องดูพฤติกรรมของเขาเธอไม่เคยกระทำ รู้ดีว่าถ้าเจอเขาอยู่กับผู้หญิง คงไม่มีปัญญาที่จะจัดการ นอกจากร้องไห้เพียงอย่างเดียว
กำนันพูนรู้เรื่องสาวสวยที่เดินควงแขนกับพยัคฆ์จากลูกบ้านนำมาเล่าให้ฟัง เขาโกรธว่าที่ลูกเขยมาก ให้ลูกน้องไปตามพยัคฆ์มาพบและเขารู้ดีว่าเป็นเรื่องอะไร เมื่อพยัคฆ์เข้ามาในบ้าน เห็นกำนันพูน แก้วและลูกสาวทั้งสองนั่งรออยู่ที่เก้าอี้ในห้องโถง
“สวัสดีครับพ่อกำนัน สวัสดีครับแม่ ไม่รู้ว่าวันนี้มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่าถึงให้คนไปตามผมมาพบ”
“ถ้าไม่ให้คนไปตาม เสือคงไม่มาสินะ”
“มาสิครับ แต่คงเย็นๆ ตั้งใจว่าจะเอาผ้าปูที่นอนที่สั่งซื้อจากกรุงเทพฯ มาให้มณีดู”
“จะว่าไปแล้วเสือเก่งนะ ตอนเช้าควงผู้หญิงคนหนึ่ง พอตอนเย็นก็มาหาอีกคน”
“เอ๊ะ! พ่อกำนันพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไงครับ”
พยัคฆ์มีท่าทีตกใจต่อคำพูดของกำนันพูนที่ว่าเขามีผู้หญิงเข้ามาข้องเกี่ยว กำนันพูนระเบิดหัวเราะออกมาดังๆ มณีหน้าซีด น้ำตาคลอ ทำท่าจะร้องไห้ออกมา ไม่ยอมมองพยัคฆ์หลบสายตาตลอดเวลา ต่างจากเพชรรุ่งเชิดหน้าสูง มองชายหนุ่มอย่างหมิ่นๆ
“มีคนเล่าให้ฉันฟังว่า ตอนเช้าเห็นเสือนั่งกินกาแฟกับผู้หญิงคนหนึ่งแล้วเดินควงแขนกันและหอมแก้มกันด้วย หมายความว่าไง อธิบายได้ไหม?”
“อ๋อ! คิดว่าเรื่องอะไร คืออย่างนี้ครับ ผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกสาวเถ้าแก่ขายปุ๋ยในจังหวัด เธอมาเสนอขายปุ๋ยในราคาพิเศษ ผมกำลังดูๆ อยู่ว่าจะเอาดีไหมเพราะมีอีกหลายเจ้าที่น่าสนใจ”
“ทำไมต้องเดินควงแขนกันด้วย”
“เราเจอกันสามครั้ง เธอพยายามแสดงความสนิทสนม ควงแขนผมเอง แต่ไม่ได้หอมแก้มหรอกครับเธอยื่นหน้ามาคุยใกล้ๆ คนเห็นก็คิดว่าหอมแก้ม ถ้าทุกคนไม่สบายใจเอาอย่างนี้ผมจะแต่งงานกับมณีภายในเดือนหน้า”
“หา! แต่งงานกับยายมณีเดือนหน้าเลยเหรอ?”
เพชรรุ่งอุทานเสียงดัง ตกใจที่พยัคฆ์ประกาศแต่งงานกับมณี ไม่คิดว่าเรื่องจะกลับตาลปัตรอย่างนี้ จากที่จะทำให้มีเรื่องโกรธกัน กลายเป็นว่าย่นระยะการแต่งงานของมณีกับพยัคฆ์ให้เร็วเข้ามาอีก หญิงสาวรับไม่ได้นั่งกำมือแน่น ใจเต้นระรัวด้วยไฟริษยา ขณะที่มณีเย็นวาบไปทั้งตัว เมื่อรู้ว่าคนรักประกาศขอแต่งงานกับเธอต่อหน้าทุกคน ส่วนกำนันพูนมองหน้าว่าที่ลูกเขยแล้วระบายยิ้มออกมาด้วยความดีใจซึ่งแก้วมีความรู้สึกไม่ต่างจากแก้ว จับมือมณีเอาไว้แน่น