24 เพชรรุ่งจอมริษยา
หญิงสาวประกาศกร้าวด้วยสีหน้าไม่พอใจเมื่อแก้วปราม โดยไม่รู้ว่ามณีอยากจะร้องไห้ออกมาเสียเดี๋ยวนั้น เผลอทำทัพพีตกลงที่พื้น เพชรรุ่งหันมามองตาเขียวก่อนจะถือโถใส่ข้าวสวยออกไป แก้วส่ายหน้าด้วยความระอาใจต่อนิสัยของลูกบุญธรรม
ระหว่างรับประทานอาหารเพชรรุ่งพยายามเอาอกเอาใจพยัคฆ์และชวนคุยตลอดเวลา ก้องหาทางแทรกบ่อยครั้งเพชรเริ่มไม่พอใจเขา แต่ไม่กล้าแสดงท่าทีออกมา กระทั่งพยัคฆ์มองหน้าสองสาวแล้วหันไปสนทนากับกำนันพูนอย่างเป็นงานเป็นการ
“กำนันครับ ผมดีใจที่ได้มากินข้าวที่นี่ กับข้าวอร่อยมาก”
“ฝีมือมณีกับแม่แก้วช่วยกันทำ”
“กำนันจะว่าอะไรไหม ถ้าผมขอมาที่นี่บ่อยๆ”
เพชรรุ่งได้ยินดังนั้นยิ้มด้วยความดีใจ พยายามสบตากับเขา ทอดสะพานให้เต็มที่ กำนันพูนเห็นพอดีขัดใจไม่น้อย แต่ไม่กล้าปรามเพราะกลัวเธอจะอาย
“ได้สิครับ จะมาเมื่อไหร่บอกล่วงหน้า ฉันจะให้มณีเตรียมกับข้าวเอาไว้”
“ไม่ต้องลำบากหรอกครับ ผมจะเอามาเอง มณีคงเหนื่อยนะ วันนี้ทำกับข้าวหลายอย่าง”
ท้ายสุดหันไปพูดกับมณีซึ่งเธอเงยหน้าขึ้นสบตา ยิ้มอย่างอายๆ ต่างจากเพชรรุ่งที่ยิ้มค้าง เมื่อรู้ว่าพยัคฆ์ใส่ใจมณีมากกว่าตัวเอง ได้แต่มองมณีอย่างหมั่นไส้
“ไม่หรอกจ้ะ ทำกับข้าวไปทำบุญที่วัดมากกว่านี้อีก”
“พี่เสือจ๋า งั้นกินลอดช่องแตงไทยสิจ๊ะ หวานกำลังพอดีเลย”
“ขอบใจมากนะเพชรที่ดูแลพี่กับก้องอย่างดี มาที่นี่แล้วอบอุ่นมาก”
ที่นี่เป็นกันเองสำหรับทุกคนอยู่แล้ว พี่จะมาเมื่อไหร่ก็ได้ เพชรอยู่บ้านตลอด ไม่ค่อยออกไปไหนหรอก มณี เอาจานข้าวไปเก็บในครัวได้แล้ว”
ข่มมณีให้ชายหนุ่มเห็น ทำราวกับว่าเธอเป็นเจ้าของบ้านที่แท้จริง พยัคฆ์เก็บความไม่พอใจเอาไว้ สงสารคนรักมาก เห็นทีว่าเขาจะต้องมาขอมณีแต่งงานให้เร็วที่สุดจะได้พ้นจากพี่สาวบ้าอำนาจ
อยากรู้ว่าวันที่เขามาขอมณีแต่งงาน เพชรรุ่งจะทำอย่างไร?
หลังอาหารกำนันพูนเปิดโอกาสให้สองหนุ่มได้พูดคุยกับลูกสาว ส่วนเขาขอตัวแยกเข้าไปพักผ่อนในห้องนอน เพชรรุ่งไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือไป พยายามทอดสะพานให้พยัคฆ์อย่างออกนอกหน้า แต่เขายังคงเฉยพูดคุยไปตามมารยาทเท่านั้น
ก่อนที่พยัคฆ์จะกลับ เขาแอบส่งผ้าพันคอผืนสวยที่ซื้อมาจากกรุงเทพฯ ให้กับเธอ ระหว่างนั้นก้องได้แยกเพชรรุ่งออกห่างจากเขา ทำให้พยัคฆ์มีโอกาสได้พูดคุยกับคนรักสองต่อสอง
“พี่เห็นว่าสวยดีก็เลยนึกถึงมณี ชอบไหมจ๊ะ”
“ของทุกอย่างที่พี่เสือซื้อให้ มณีชอบทั้งนั้นแหละจ๊ะ มณีจะเอาไปดูในห้อง”
“มณีอย่าโกรธพี่นะที่เพชรเขาทำท่าชอบพี่อย่างนั้นน่ะ”
“ไม่ต้องกังวล มณีหนักแน่นพอ”
“ขอบใจมาก พี่บอกมณีเอาไว้เลยว่า เคยรักอย่างไรก็รักอย่างนั้น จากนี้เป็นต้นไป เราจะได้คบหากันอย่างเปิดเผยเสียที”
“ในที่สุดวันที่มณีรอคอยก็มาถึงจนได้ ขอบคุณต่อความมั่นคงที่พี่มีให้”
“อยากกอด อยากหอมจังเลย”
เสือส่งสายตาเจ้าชู้ให้ มณีก้มหน้างุดอย่างอายๆ ทว่าเสียงแจ้วๆ ของเพชรรุ่งมาก่อนตัวและเข้ามายืนใกล้กับพยัคฆ์ พยายามขยับเบียดๆ ชายหนุ่มถอยห่างออกมา
“พี่เสือ ขอโทษนะที่ปล่อยให้รอ พอดีพี่ก้องให้ฉันพาไปดูดอกกุหลาบที่ปลูกเอาไว้หลังบ้านน่ะ พี่จะกลับแล้วเหรอ”
“ครับ นี่ก็สมควรแก่เวลาแล้ว พี่ต้องไปทำบัญชีอีก”
“พี่ขยันจังเลย นี่จ้ะ รางวัลของคนเก่ง”
หญิงสาวยื่นดอกกุหลาบให้แก่พยัคฆ์พร้อมกับยิ้มหวาน พยัคฆ์มองอย่างกระอักกระอ่วนใจ สุดท้ายได้รับมาถือไว้และขอตัวกลับ เพชรรุ่งไม่วายตะโกนเสียงดังๆ เมื่อเขาขับรถออกพ้นจากรั้วบ้าน
“คิดถึงกันบ้างนะพี่”
“พี่เพชร น่าเกลียด”
“ไม่ต้องยุ่ง แล้วนั่นถุงอะไร ดูหน่อยซิ”
เพชรรุ่งตาไวมองเห็นถุงกระดาษที่มณีถือเอาไว้ แต่มณีบ่ายเบี่ยงไม่ให้ดูกลัวว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ถ้ารู้ว่าเป็นผ้าพันคอที่เสือซื้อให้
“ไม่มีอะไรจ้ะพี่”
“ไม่จริง ต้องมีแน่ๆ ไม่อย่างนั้นแกคงไม่ทำท่ามีพิรุธอย่างนี้หรอก เอามาให้ฉันดูเดี๋ยวนี้”
น้ำเสียงห้วนจัดเหมือนคำประกาศิตที่มณีไม่อาจเลี่ยงได้ จำใจส่งถุงให้เพชรรุ่งด้วยมือสั่นๆ เมื่อเพชรรุ่งเปิดออกดู ตาลุกโพลงแล้วดึงผ้าพันคอผืนสวยขึ้นมาดูแล้วหันมามองมณี บัดนี้หน้าซีดด้วยความกลัว