12 เพชรรุ่งเจอเมียผู้ชายเล่นงาน
เพชรรุ่งหายตกใจหลังจากที่ผู้หญิงแปลกหน้าถือวิสาสะเปิดประตูรถเข้ามาแล้วด่าเธออย่างเสียๆ หายๆ คนอย่างเธอไม่ยอมให้ใครมาหยามได้ง่ายๆ หลังจากตั้งสติได้จึงเตรียมพร้อมที่จะลุยเต็มที่ เพิ่มศักดิ์เห็นดังนั้นรีบวิ่งลงจากรถแล้วอ้อมมาทางด้านหน้า จับแขนผู้หญิงคนนั้นเอาไว้ก่อนที่กรงเล็บจะขยุ้มลงบนศีรษะเพชรรุ่ง
“ไม่เอาน่าเฮียง กลับบ้านเถอะ”
“เฮียต้องเลิกยุ่งกับอีนังผู้หญิงคนนี้”
“เฮียเลิกแล้วไม่ยุ่งแล้ว”
“ฉันไม่เชื่อหรอก พอเผลอเฮียก็มาโจ๊ะกับมันอีก ฉันสืบมาหมดแล้วว่านังผู้หญิงหน้าด้านคนนี้เป็นลูกเลี้ยงกำนันพูน งามหน้าไหมล่ะ เป็นชู้กับผัวชาวบ้านน่ะ”
“หา! เป็นชู้ นี้หมายความว่ายังไง เฮียเพิ่ม”
เสียงกราดเกรี้ยวจากหญิงอารมณ์ร้อนดังขึ้น พร้อมๆ กับดวงตาขุ่นเขียวจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าเพิ่มศักดิ์ บัดนี้ซีดขาว พยายามหลุบตา เพชรรุ่งเวลานี้โกรธจนตัวสั่น
“เฮียเพิ่ม! มีเมียแล้วใช่ไหม?”
“ชัดเจนขนาดนี้แล้ว เธอจะถามอะไรอีก ฉันสั่งห้าม อย่ายุ่งกับผัวฉันเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้จะรู้กันทั้งหมู่บ้านคราวนี้แหละเธอจะอยู่ที่นี่ไม่ได้”
เมียของเพิ่มศักดิ์ขู่เสียงเหี้ยม พอๆ กับสายตาเพชฌฆาตที่จ้องประสานกับเพชรรุ่งด้วยความเกลียดชัง เพชรรุ่งเห็นดังนั้นถอยกรูดเมื่อเจอของจริง รู้ว่าถ้าอยู่ต่อมีแต่เสียกับเสียจึงค่อยๆ เปิดประตูแล้วมายืนข้างเพิ่มศักดิ์ที่ยังคงจับมือเมียเอาไว้แน่น เพชรรุ่งมองด้วยความรู้สึกเจ็บปวดและเปลี่ยนเป็นโกรธที่ถูกหลอก
“เฮียเพิ่ม ผู้ชายหลอกลวง”
“เอ่อ...เฮียขอโทษ”
“นี่แน่ะ! ขอโทษ”
“โอ๊ย! เพชรตบเฮียทำไม?”
เพิ่มศักดิ์สะดุ้งสุดตัว เจ็บแปลบที่ซีกแก้มด้านขวาเมื่อฝ่ามือบางของเพชรรุ่งตบเต็มแรง เขาผงะร่างเอียง โชคดีที่เมียร่างอวบดึงเอาไว้ทันก่อนจะล้มลงไปที่พื้นหญ้า
“เฮีย...เฮีย เป็นยังไงบ้าง”
“เจ็บสิ ถามได้”
“แหม นังผู้หญิงคนนี้มันร้ายจริงๆ ดูสิตบหน้าเฮียแล้ววิ่งหนีไปโน่นแล้ว ฉันจะตามไปจัดการมันที่บ้านดีไหม”
“อย่าเลยเฮียง ใครๆ ก็รู้ว่ากำนันพูนดุแค่ไหน ถ้ารู้ว่าเฮียหลอกจะกินตับลูกสาวล่ะก็ งานนี้เฮียได้กินลูกตะกั่วแน่”
“นี่แน่ะๆ คนเจ้าชู้ หาเรื่องเดือดร้อนมาให้ไม่เว้นแต่ละวัน ไม่ว่าอยู่ที่กรุงเทพฯ หรือที่นี่ ต่อจากนี้ไปฉันไม่ยอมแล้วนะ”
“โอ๊ย! เฮียง อะไรอีกล่ะ ทุบเฮียทำไมเจ็บนะ”
เพิ่มศักดิ์ร้องเสียงหลงเมื่อกำปั้นกลมๆ ของเฮียงกระหน่ำใส่ตามร่างกายไม่ยั้ง เขาถอยกรูดพร้อมกับยกมือปัดป้องเป็นพัลวัล เฮียงทุบไปร้องไห้ไปเพราะเสียใจต่อความเจ้าชู้ของผู้ที่เป็นผัว แม้ว่าไม่ได้ผ่านพิธีแต่งงานถูกต้องตามประเพณี แต่พ่อแม่และญาติพี่น้องต่างรับรู้กันหมด
“เมื่อไหร่จะเลิกเสียที ไอ้นิสัยแจกจ่ายน้ำไปทั่วนี่น่ะ”
“เฮียสัญญา เลิกแล้ว ไม่ยุ่งกับใคร”
“พูดอย่างนี้ทุกครั้งที่ฉันจับได้ ขอให้เป็นครั้งสุดท้ายก็แล้วกัน ถ้าเจออีกครั้งเป็นตาลยอดด้วนแน่”
“ไม่มีอีกแล้ว เฮียสัญญาจะรักเฮียงคนเดียว อย่าร้องไห้สิ เฮียใจไม่ดีเลย กลับบ้านเรานะ เฮียจะพูดเรื่องงานแต่งของเรากับเตี่ย แต่งเดือนหน้าเลยนะไม่ต้องรอปีมังกรทองแล้ว”
“ปล่อยไม่ต้องมากอด ไม่ต้องพูดดี เกลียดนักนิสัยตบหัวแล้วลูบหลังเนี่ย”
เฮียงสะบัดเนื้อตัวไปมาเมื่อเพิ่มศักดิ์เข้ามากอดรัดอย่างเอาใจ กลัวว่าเธอจะไม่ยอมให้อภัยเพราะรู้ดีว่าครอบครัวเขาต้องพึ่งเตี่ยของเธอทางด้านการค้า เตี่ยของเฮียงเป็นเอเย่นต์สินค้าขายปลีกรายใหญ่ที่คู่ค้าต่างพากันซูฮก หากว่าความสัมพันธ์ยุติลง เขาและครอบครัวจะพบกับความลำบากในการทำมาหากิน
เสียงวิ่งตึงตึงขึ้นมาข้างบนบ้าน ทุกคนต่างหันไปมองโดยพร้อมเพรียงกัน พร้อมๆ กับร่างสมส่วนของเพชรรุ่งพรวดพราดเข้ามาตรงกลางห้องโถง ดวงตาแดงก่ำเหมือนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก แก้วภรรยากำนันพูนวางมือจากการแกะเม็ดละหุ่ง อ้าปากจะถามแต่ช้ากว่ากำนันพูนส่งเสียงดังๆ ถามลูกเลี้ยงคนสวยด้วยความสงสัย
“เพชร เป็นอะไรทำไมถึงวิ่งขึ้นบ้านอย่างนั้นล่ะ เอ็งร้องไห้นี่”
“พ่อ! อย่าเพิ่งถามอะไรตอนนี้ได้ไหม”
หญิงสาวกล่าวเสียงห้วนจัดก่อนที่จะสะบัดหน้าเดินเข้าห้องนอนไปอย่างรวดเร็ว กำนันพูนร้อนฉ่าไปทั้งตัวต่อนิสัยเอาแต่ใจของลูกบุญธรรม
“อุวะ! นังนี่ ทำไมจะถามไม่ได้ ในเมื่อข้าสงสัยนี่หว่า ใครทำอะไรเอ็ง บอกมา พ่อจะไปจัดการสั่งสอนมันที่บังอาจทำให้ลูกข้าเสียใจ”
กำนันพูนตะโกนไล่หลังเพชรรุ่ง แม้ว่าไม่พอใจต่อท่าทางยโสของเธอ แต่ก็แสดงความรักให้รับรู้ แม้ว่าเธอไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ก็ตามที
“พี่กำนัน อย่าวู่วาม เดี๋ยวจะเป็นเรื่องใหญ่”
“แก้ว แกนี่ก็ไม่เห็นหรือไง เพชรมันร้องไห้เสียงจนตาแดงเป็นนกกระปูดอย่างนั้นน่ะ”
“พ่อจ๋า แม่จ๋า ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันไปคุยกับพี่เพชรเอง”
“ก็ดีเหมือนกันนะนังมณี ช่วยหน่อยเถอะ วัยใกล้ๆ กันคงพอคุยกันรู้เรื่อง”
“จ้ะแม่ เดี๋ยวฉันถามให้แล้วจะมาบอก”
“เฮ้อ! นังลูกคนนี้ นิสัยเหมือนพ่อมันไม่มีผิด ยโส อวดดี เอาแต่ใจตัวเอง ข้ากลัวว่ามันจะไม่เหลือใครเหมือนพ่อมัน แม้แต่เมียก็ทิ้งจนต้องยกลูกสาวให้เราเลี้ยง”
“พอเถอะพี่กำนัน เรื่องมันผ่านมานานแล้วจะขุดคุ้ยขึ้นมาทำไม เดี๋ยวเพชรได้ยินจะเสียใจ”
“แม่แก้วเอ๊ย เพชรมันก็รู้ว่าเป็นลูกนอกไส้ของเรา”
กำนันพูนไม่หยุดพูดง่ายๆ ทำท่าจะสาธยายเกี่ยวกับประวัติของเพชรรุ่งต่อ แก้วเห็นดังนั้นลุกหนีไปทันที แม้ว่าเพชรรุ่งมีนิสัยไม่ค่อยจะเข้าท่า แต่นางเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ให้ความรักเหมือนเป็นลูกคนหนึ่ง ให้อภัยทุกครั้งที่หญิงสาวทำผิด ไม่เคยลงโทษเพราะเวทนาที่เธอไร้ทั้งพ่อและแม่
เชื่อว่าการอบรมสั่งสอนของตนว่าจะช่วยให้เพชรรุ่งรู้ดีรู้ชั่วแล้วเปลี่ยนนิสัยแย่ๆ ให้ดีขึ้น แม้ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนก็ตาม