10 ช่วยแบบไหนคะ
กลิ่นหอมของดอกไม้บางอย่างที่ลอยมาตามลมแล้วอวลอยู่รอบๆ ตัว พยัคฆ์สูดผ่านปลายจมูกช้าๆ สุขสดชื่นอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน เขาพาร่างเปลือยของตนเองขึ้นมานอนบนเตียงหนานุ่ม ความเย็นจากอากาศรอบตัวช่วยให้หลับอย่างสบาย
หน้าอกกว้างเต็มไปด้วยมัดกล้ามถูกไล้ด้วยนิ้วนุ่มๆ ของสาวสวยที่พึงใจ ริมฝีปากสวยละเลียดเล็มไล่งับความแกร่ง เม้มวนเวียนอยู่กับที่กระทั่งถึงยอดสุดของหน้าอก ลิ้นผ่าวร้อนตวัดเฉียดไปมา พยัคฆ์ร้อนรุ่มไปทั้งตัว กอดร่างอรชรที่ไร้อาภรณ์เอาไว้แน่น
เนื้อนุ่มตรงหน้าอกทั้งสองข้างทาบทับอยู่บนอกของเขา ทุกครั้งที่ขยับตัวสร้างความซ่านกระสันจนแทบทนไม่ไหว เสียงหายใจหนักๆ ดังขึ้น หน้าท้องเกร็งแน่นเมื่อริมฝีปากงามประทับไล่ลงไปเบื้องล่าง วนเวียนใต้สะดือ ฝ่ามือที่มีนิ้วเรียวคว้าความแกร่งที่ผงาดเอาไว้แล้วปลุกปลอบเบาๆ
“ผมมีความสุขมาก ช่วยผมด้วย”
“ช่วยแบบไหนคะ”
เสียงหวานยังคงก้องกังวานในความรู้สึก เหมือนว่าอยู่ในที่ไกลแสนไกลแล้วพุ่งเข้ามาหาในขณะใบหน้าสวยก้มลงไปเคล้าคลึงอยู่ที่ส่วนบนของความแกร่ง ริมฝีปากงับลงไปเม้มรัดรอบแค่เพียงครึ่งหนึ่ง ก่อนที่จะขยับเคลื่อนที่ขึ้นลง เริ่มจากช้าก่อนแล้วเร็วขึ้น พยัคฆ์เกร็งไปทั้งตัว งอปลายเท้าจิกลงไป ขยับสะโพกขึ้นลง มือทั้งสองข้างคลึงอยู่ที่กลุ่มผมนุ่มของหญิงสาว
ทุกครั้งที่ริมฝีปากสวยทำหน้าที่รูดขึ้นลง ใจแทบขาด แอ่นตัวตามเมื่อเธอรูดปากขึ้นสู่ยอดสุดและใจเต้นแรงเมื่อความเร็วเพิ่มขึ้น แทบหายใจไม่ทัน มีแต่เสียงครวญครางที่เปี่ยมไปด้วยความสุข
ไม่มีคำพูดใดๆ นอกจากการกระทำที่สาวงามมอบให้ ไม่เพียงแค่ปากเท่านั้น เธอขึ้นมานั่งอยู่บนลำตัว สองมือจับที่บ่าบึกบึนเอาไว้ สะโพกขยับโยกตามจังหวะที่เขารับ สอดคล้องกันทุกครั้งของการเคลื่อนที่ซึ่งเพิ่มความเร็วมากขึ้นตามลำดับ
“ผม ผมไม่ไหวแล้ว”
“เราจะมีความสุขด้วยกัน”
“ครับ ผม ผมรักคุณ”
เสียงแผ่วๆ ที่ดังออกมาจากริมฝีปากได้รูปของชายหนุ่ม บ่งบอกถึงความสุขล้นปรี่เมื่อสิ่งที่กักเก็บเอาไว้ได้ปลดปล่อยออกมา พร้อมๆ กับร่างสาวเปลือยเลือนหายไป พยัคฆ์สะดุ้ง ลืมตาทันที เห็นแต่ความมืดในยามค่ำคืน รับรู้ถึงหัวใจที่เต้นแรง
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ทบทวนกับสิ่งที่เพิ่งผ่านมาเมื่อครู่และให้คำตอบแก่ตัวเองว่าฝันไป แต่เป็นฝันที่มีความสุข ฝ่ามือเลื่อนคลำลงไปข้างล่าง รับรู้ถึงความชื้น ยิ้มน้อยๆ เกิดขึ้น
“เราฝันว่ามีอะไรกับเพชรรุ่ง กระทั่งเป็นอย่างนี้ ถ้าฝันเป็นจริงเราคงมีความสุขมาก อยากรู้ว่าคุณจะฝันถึงผมบ้างไหมนะ”
คนที่พยัคฆ์กำลังฝันถึงบัดนี้ยังคงนั่งหน้ามุ่ยอยู่บนที่นอน โดยมีหญิงสาวหน้าตาเข้าทีมองด้วยความแปลกใจ เกือบชั่วโมงที่เพชรรุ่งแสดงอาการหงุดหงิด ทำเสียงฮึดฮัดตาวาววับแสดงออกถึงอารมณ์ไม่ดี มณีได้แต่ปิดปากเงียบ กลัวว่าถ้าพูดอะไรอาจจะทำให้พี่สาวคนสวยไม่พอใจ
“บ้าจริง นัดเราไปหาแล้วไม่มา หมายความว่ายังไง หา มณีช่วยพี่คิดที”
“เอ่อ พี่เพชรนัดใครล่ะจ๊ะ?”
“จะมีใครล่ะ ถ้าไม่ใช่เฮียเพิ่ม เรารู้ว่าเขาเพิ่งกลับมาจากไปบ้านญาติที่กรุงเทพฯ ไม่ได้เจอกันนานคงคิดถึง แต่ที่ไหนได้ ปล่อยให้พี่รอเก้อ”
“นี่หมายความว่าเมื่อตอนหัวค่ำ พี่ออกไปหาเฮียเพิ่มเหรอ พี่ทำได้ไง ไม่อายคนเหรอถ้ามีคนรู้น่ะ พ่อจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
มณีไม่พอใจต่อความประพฤติของเพชรรุ่ง ใส่อารมณ์เต็มที่ จ้องมองไม่ลดละแทนที่เพชรรุ่งจะกลัวกลับเบะปาก เชิดใบหน้าสวยขึ้นสูง
“ทำไมต้องกลัวด้วย ในเมื่อฉันจะคบเฮียเพิ่มเป็นแฟน”
“เขาตกปากรับคำเป็นแฟนพี่หรือยังล่ะ?”
“โอ๊ย! นังมณี อย่าทำตัวเป็นคนขี้สงสัยนักเลยน่า รู้เอาไว้อย่างเดียวว่า คนหล่อ รวยจะต้องคู่กับคนสวยอย่างฉันเท่านั้น ไม่ใช่แกนี่ที่หน้าตาดูไม่ได้”
“อ้าว! ทำไมต้องว่าฉันด้วยล่ะ”
“หรือว่าไม่จริงล่ะ ลองถามใครๆ ดูก็ได้ระหว่างฉันกับแกใครสวยกว่ากัน?”
มณีเจ็บปวดกับคำพูดของพี่สาวเสียจนพูดไม่ออกที่เอาปมด้อยของตัวเองมาเปรียบเทียบให้ต่ำต้อยมากกว่าเดิม เห็นใบหน้าสวยยิ้มเยาะแล้วหันตะแคงข้างหนีไปอีกทาง กลัวเห็นสายตาหยามหยัน ถ้าเป็นได้จะขอแยกห้องไปนอนคนเดียว แต่รู้ว่าถ้าทำอย่างนั้นจะต้องหาเหตุผลเพียงพอที่กำนันพูนจะต้องกั้นห้องให้ใหม่ ลำพังแค่ไม่ชอบเพชรรุ่งที่พูดจาหยามหยัน กำนันพูนคงเมินเฉย