บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 ความผิดที่ไม่มีเหตุผล

“ฮึ” เจ้าชายหนุ่มทำเสียงขึ้นพระนาสิกแล้วเสด็จเข้ามาหานีนนาราในระยะประชันชิด จนอีกฝ่ายต้องถอยหลังหนี แต่พระหัตถ์แกร่งก็ดึงร่างบางเข้ามาปะทะพระอุระกว้าง

หญิงสาวใช้มือเรียวยันพระอุระแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อเอาไว้เต็มแรง พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองฝ่ายตรงข้ามตาขวาง ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันก่อนจะเผยอออก

“ปล่อยหม่อมฉันนะเพคะ!” นีนนาราพยายามบิดตัวเองออกมาจากพระหัตถ์ที่บีบอยู่ที่ต้นแขนทั้งสองข้างแต่ก็ไม่สำเร็จ

“คุณอยากรู้ไม่ใช่หรือน้ำว่าตัวคุณมีความผิดอะไร” เจ้าชายหนุ่มกัดพระทนต์กรอด พร้อมกับเน้นเสียงเข้มอย่างน่ากลัว นีนนาราจึงหยุดดิ้นและกัดริมฝีปากตัวเองเอาไว้พร้อมกับจ้องพระพักตร์คมคายนิ่ง

“ที่นี่ถ้าภรรยาหนีไปจากสามีถือว่าเป็นความผิดอย่างมหันต์มีโทษร้ายแรง” แววพระเนตรถมึงทึงจนนีนนารารู้สึกหนาวสะท้านไปทั่วร่าง

“หม่อมฉันไม่ใช่ภรรยาของใคร เพราะถ้าหม่อมฉันมีสามี เขาก็คงจะไม่ปล่อยภรรยาที่บอบช้ำทั้งใจและกายหนีไปแบบนั้นหรอกเพคะ” น้ำเสียงของหญิงสาวเริ่มสั่นระริกด้วยความน้อยใจและเจ็บแค้นใจ

“คุณคิดโยนความผิดให้กับผมหรือไงน้ำ ในเมื่อคุณเป็นคนทิ้งผมไป” พระหัตถ์หนาออกแรงบีบที่ต้นแขนนวลอย่างลืมพระองค์ แต่นีนนาราก็กัดฟันข่มความเจ็บเอาไว้ ริมฝีปากบางฝืนคลี่ยิ้มเยาะหยันส่งให้ชีคหนุ่ม

“แล้วทรงคิดบ้างหรือเปล่าว่า จะมีผู้หญิงคนไหนทนได้ถ้าสามีไปแต่งงานกับผู้หญิงอื่น แล้วตัวเองก็ต้องมานั่งอยู่ในฐานะชู้ลับ เห็นแก่ตัวที่สุด” ประโยคสุดท้ายเธอกระแทกเสียงใส่พระพักตร์หล่อเหลานั้นด้วยความโกรธ ถึงแม้จะผ่านมานานหลายปี แต่เธอก็ไม่เคยลืมความเจ็บปวดในครั้งนั้นเลย และหัวใจของเธอก็ถูกปิดตายจนกระทั่งบัดนี้

“อย่าบังอาจมาด่าผมนะน้ำ ไม่งั้นคุณเจอดีแน่” พระสุรเสียงนั้นเข้มจัด สันพระกรามทั้งสองข้างนูนขึ้น ก่อนจะยื่นพระพักตร์เข้าไปใกล้ใบหน้าเนียน

“ผมได้เตรียมโทษทัณฑ์ที่สาสมเอาไว้ให้คุณแล้ว” ราชนิกูลหนุ่มเน้นพระสุรเสียงอย่างเชื่องช้าและเยือกเย็น ฟังดูราวกับเสียงของยมทูต แต่หญิงสาวไม่คิดจะเกรงกลัว เพราะความโกรธแค้นที่ถูกเก็บมานานนับปีบดบังความหวาดกลัวไปจนหมดสิ้น

“หม่อมฉันไม่ผิดและไม่ขอรับโทษที่ฝ่าบาทยัดเยียดให้ด้วย ทรงปล่อยหม่อมฉันได้แล้วเพคะ เพราะระหว่างเราสองคนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว ปล่อยเพคะ” นีนนาราบอกเสียงเรียบ แววตาเย็นชามองเจ้าชายหนุ่มอย่างโมโห ส่วนเจ้าชายคาร์ดาลก็หรี่ดวงเนตรคมลงเล็กน้อยมองใบหน้าขาวนวลที่เคยคลอเคลียเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ก่อนจะรับสั่งขึ้นด้วยพระสุรเสียงที่แข็งกร้าว

“คุณกลัวว่าเจ้าหัวหน้าของคุณจะมาเห็นมากกว่าละมั้ง ฮึ ฮึ มันรู้หรือเปล่าละว่าคุณเคยเป็นเมียผมมาแล้ว หรือว่ามันยินดีที่จะรับเดนของคนอื่น อาจจะไม่ใช่ผมคนเดียวก็ได้จริงไหม” เจ้าชายคาร์ดาลเลิกพระขนงขึ้นสูงพร้อมกับแย้มมุมโอษฐ์อย่างดูหมิ่น นีนนาราถึงกับหน้าร้อนผ่าวขึ้นด้วยความโกรธ แขนเรียวจึงสะบัดออกจากการจับกุมแล้วฟาดลงบนพระพักตร์คมเข้มของชีคหนุ่มเต็มแรง

“เพี๊ยะ!”

“อย่ามาดูถูกหม่อมฉัน หม่อมฉันไม่ใช่คนมักง่ายอย่างฝ่าบาท ปล่อยนะ!” เธอตะคอกใส่ด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ พร้อมกับน้ำอุ่นๆ ก็เริ่มมาเอ่อคลอที่หน่วยตาพร้อมที่จะไหลลงมาทุกเมื่อ

กษัตริย์หนุ่มหันกลับมาจ้องหญิงสาวเขม็งพร้อมกับขบพระกรามกรอด บ่งบอกถึงอารมณ์โมโหอย่างมากมาย พระหัตถ์หนาจับหมับเข้าที่ต้นแขนเรียวข้างขวาอีกครั้ง ก่อนจะออกแรงบีบด้วยความโกรธ พร้อมกับเน้นเสียงผ่านไรพระทนต์อย่างหนักแน่น

“อย่ามาทำอวดดีและทำร้ายผมอีก ผมจะบอกเอาไว้ให้เอาบุญนะว่าความรักที่ผมเคยมีให้กับคุณมันจบสิ้นไปแล้ว ตั้งแต่ตอนที่คุณก้าวออกจากเซฟเฮ้าส์ของผม และสิ่งที่ผมมีให้ในตอนนี้ก็คือความเคียดแค้นชิงชังในตัวคุณ จำเอาไว้!”

“ปล่อยนะ!” นีนนาราสะบัดตัวอย่างแรงเพื่อหวังให้ตัวเองเป็นอิสระพร้อมๆ กับน้ำใสอุ่นๆ ที่ไหลลงมาอาบแก้ม แต่ยิ่งดิ้นรนเธอก็ยิ่งเจ็บมากขึ้น

“อย่าอ้อนวอนเสียให้ยากเลยน้ำ ผมไม่มีทางปล่อยคุณไปอีกแน่ เพราะผมปล่อยคุณไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่คุณก็รนกลับมาหาที่เอง” เจ้าชายหนุ่มตวัดร่างบางขึ้นมาไว้ในอ้อมพระกร และเสด็จไปที่แท่นบรรทม ก่อนจะโยนร่างบางลงไปบนพระยี่ภู่นุ่มนิ่ม แล้วตามทับลงไปด้วยวรกายหนาหนักของพระองค์โดยที่อีกฝ่ายยังไม่ทันได้ตั้งตัว แขนเรียวถูกพระหัตถ์หนาจับตรึงเอาไว้เหนือศีรษะเล็ก

“ปล่อยหม่อมฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นหม่อมฉันจะร้องให้คนช่วย หม่อมฉันจะฟ้องชายาของพระองค์ ปล่อยนะเพคะ!” หญิงสาวตะโกนใส่พระพักตร์คมที่แดงก่ำด้วยความโกรธทั้งน้ำตา

“เชิญเลย อยากจะตะโกนให้คอแตกตายก็เอา เพราะจะไม่มีใครกล้าเข้ามาที่นี่แม้แต่คนเดียว อยากจะไปฟ้องใครก็เชิญเลย” เจ้าชายคาร์ดาลตะโกนกลับ ก่อนจะกระแทกริมพระโอษฐ์ที่ร้อนผ่าวลงบนริมฝีปากบางเย็นชื้นนั้นอย่างแรง และจากแรงปะทะก็ทำให้ริมฝีปากบางนั้นมีเลือดออก กลิ่นคาวและรสเค็มของเลือดฟุ้งอยู่ในกระพุงปากของหญิงสาว โดยที่อีกฝ่ายไม่สนพระทัยด้วยซ้ำว่าเธอจะเป็นอย่างไร

กษัตริย์หนุ่มยังคงบดขยี้ริมพระโอษฐ์ลงมาอย่างไม่ยั้ง เพื่อให้สาวไทยได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดและโกรธแค้นที่พระองค์มี แล้วยิ่งอีกฝ่ายดิ้นรนหนีมากขึ้นเท่าไร เจ้าชายหนุ่มก็ยิ่งรุกหนักมากขึ้นเท่านั้น ทั้งบีบทั้งเคล้นคลึงไปทั่วร่างบางอย่างไม่ปรานี

นีนนาราสะอื้นไห้อยู่ใต้ร่างหนา ความเจ็บที่ร่างกายได้รับมันยังน้อยกว่าที่หัวใจมากนัก เขาโยนความผิดให้กับเธอ แล้วเธอผิดด้วยเหรอที่ทนเห็นสามีของตัวเองต้องไปกกกอดอยู่กับผู้หญิงอื่นไม่ได้ ถ้าเธออยู่ที่นี่จริงๆ ป่านนี้คงตรอมใจตายไปนานแล้วไม่ต้องมาทนเจ็บปวดใจอยู่นานถึง 3 ปีเต็มแบบนี้หรอก

หญิงสาวเจ็บแปลบในอก ดวงตาแดงก่ำหลับลงอย่างช้าๆ เพื่อปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาทางหางตาพร้อมกับหยุดดิ้นรน ปล่อยให้อีกฝ่ายระบายอารมณ์โกรธตามแต่ใจต้องการ เมื่อหญิงสาวหยุดดิ้นรน ชีคหนุ่มก็หยุดชะงักและดึงสติของพระองค์กลับมาอีกครั้ง ก่อนที่มันจะเตลิดไปไกล พระพักตร์บึ้งตึงเงยขึ้นทอดพระเนตรใบหน้าขาวเนียนที่มีคราบน้ำตาเต็มใบหน้า ก่อนจะพยุงพระองค์ประทับยืนขึ้น มุมโอษฐ์แย้มพระสรวลอย่างพอพระทัย เมื่อเห็นสภาพของหญิงสาวตรงหน้า

“นี่คือการสั่งสอนเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณตบผม แต่สำหรับโทษทัณฑ์ที่คุณทิ้งผมไปมันหนักยิ่งกว่านี้หลายเท่า คุณเตรียมตัวรับมันก็แล้วกัน ฮึ ฮึ” ทรงแย้มสรวลขึ้นอย่างเยาะหยันเมื่อหญิงสาวลืมตาขึ้นมองพระองค์ ก่อนจะเสด็จไปที่พระทวาร

นีนนาราพยุงตัวเองขึ้นนั่งก่อนจะยกหลังมือขึ้นเช็ดบริเวณริมฝีปากที่แสบร้อนของตัวเอง สายตาดุดันจับจ้องไปยังวรกายสูงด้วยความโกรธระคนโมโห ถ้าเธอมีของอะไรอยู่ในมือตอนนี้ก็คงจะปาใส่ไปแล้ว แต่สิ่งที่ทำได้ก็คือนั่งน้ำตาไหลเอื่อยแล้วมองอีกฝ่ายหัวเราะเยาะตัวเธออยู่บนเตียง

“คุณเดินเข้ามาหาความตายเองนะนีนนารา แล้วก็อย่าหวังว่าจะกลับออกไปได้ แต่รับรองว่าผมจะแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกัน คุณวางใจได้ว่างานของคุณจะไม่มีปัญหาแน่นอน”เจ้าชายคาร์ดาลหยุดประทับยืนที่หน้าพระทวาร แล้วหันกลับมาทอดพระเนตรร่างบางบนเตียงอีกครั้ง ก่อนจะเสด็จออกไปจากห้องพักนั้นด้วยแววพระเนตรที่แข็งกระด้าง

นีนนารามองตามพระขนองกว้าง ที่เสด็จหายลับไปหลังพระทวารผ่านม่านน้ำตาด้วยหัวใจที่เจ็บร้าว ความเจ็บปวดในครั้งอดีตได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง สิ่งที่เธอหวาดหวั่นจนเก็บเอาไปฝันร้ายมันได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ เขาได้ประกาศออกมาแล้วว่าไม่หลงเหลือความรักให้กับเธออีกต่อไป แต่เธอสิทั้งที่ทำใจให้ลืม แต่มันกลับจำและโหยหาเขาอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้วันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม เธออยากจะบอกออกไปเสียเหลือเกินว่า เธอไม่เคยมีใครและยังรักเขาอยู่เสมอ แต่ท่าทางโกรธแค้นที่มีในสายตาคู่นั้นทำให้เธอพูดอะไรไม่ออก

‘คุณโกรธแค้นอะไรฉันนักหนาในเมื่อคุณไม่แคร์ฉัน คุณเลือกผู้หญิงอื่นและเลือกที่จะทำตามหน้าที่ของตนเอง แล้วคุณจะมาโกรธฉันทำไม ฉันต่างหากที่ควรเป็นฝ่ายโกรธแค้นคุณ’ หญิงสาวคิดในใจอย่างเจ็บปวด และนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นหลายนาที ก่อนจะรีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออก เมื่อมีหญิงสาวร่างเล็กในชุดคลุมยาวสีดำก้าวเข้ามาในห้อง และเดินเข้ามานั่งคุกเข่าลงข้างเตียงก่อนจะเอ่ยขึ้นเป็นภาษาอังกฤษที่ชัดถ้อยชัดคำ

“ฝ่าบาทรับสั่งให้ดิฉันมาดูว่าคุณต้องการอะไรเพิ่มอีกไหม”

“ฉันไม่ต้องการอะไรเพิ่มแล้ว ขอบใจมากนะ” นีนนาราคลี่ยิ้มให้ก่อนจะก้าวลงจากเตียงแล้วเดินไปทางห้องน้ำ ซึ่งคนที่นั่งอยู่ก็ลุกขึ้นเดินตามหลังหญิงสาวไป สาวไทยจึงหันมามองพร้อมกับขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะเอ่ยถามขึ้น

“เธอจะไปไหน?”

“เอ่อ...จะเข้าไปเตรียมน้ำอาบให้คุณค่ะ” นางกำนัลวัยสาวนั่งลงก่อนจะตอบ

“ไม่ต้องหรอก ฉันแค่จะเข้าไปล้างหน้าล้างตาเท่านั้น เธอมีอะไรก็ไปทำเถอะ”

“ไม่ได้หรอกค่ะ ฝ่าบาทรับสั่งเอาไว้ให้คอยดูแลรับใช้คุณที่นี่” นางกำนัลร่างเล็กบอกอย่างหนักแน่น

“ไม่ต้องมาดูแลฉันหรอกฉันไม่ได้เป็นง่อย แล้วตอนนี้ฉันก็ต้องการที่จะอยู่คนเดียวมากกว่า เธอคงเข้าใจนะ” นีนนาราส่งสายตาดุๆ ไปให้ ทำให้นางกำนัลสาวต้องรีบก้มหน้าเดินถอยออกไปจากห้อง หญิงสาวมองตามไปก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ พร้อมกับเม้มริมฝีปากบางแน่น และเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ

เจ้าชายคาร์ดาลทุบพระมุฐิลงกับเสาหินอ่อนตรงทางเดิน ที่เชื่อมระหว่างตำหนักหลวงและตำหนักรับรองอย่างแรง แววพระเนตรดุดันที่ทอดพระเนตรไปยังสวนหน้าพระตำหนักไหววูบ พร้อมกับปรากฎแววแห่งความเจ็บปวดขึ้น แต่ก็เป็นเพียงแวบเดียวเท่านั้น จากนั้นริมโอษฐ์หนาหยักได้รูปก็เม้มเข้าหากัน และเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราดขึงขังขึ้นมาแทน

“คุณจะได้รับวันเวลาแห่งความเจ็บแค้นนี้คืนไปทั้งหมด...นีนนารา” ทรงรับสั่งเสียงลอดไรพระทนต์อย่างเคียดแค้นก่อนจะเสด็จตรงไปยังห้องทรงพระอักษร

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel