4 ก็แค่น้อยใจ
พาลินมาทำงานตั้งแต่เช้ากว่าจะได้พักก็เที่ยงพอดี เขารีบโทรศัพท์ไปหากันต์ธีร์เพราะอยากชวนมาทานอาหารกลางวันด้วยกัน บริษัทของแฟนหนุ่มอยู่ใกล้โรงเรียนสอนภาษาเพียงสองป้ายรถเมล์
“พี่กันต์ให้ผมไปกินแถวบริษัทก็ได้”
“จะกินอะไร พี่จะได้สั่งไว้รอ” อีกคนถามอย่างเอาใจเพราะเมื่อวานเขาไม่ได้ไปรับและยังปิดโทรศัพท์ทั้งคืน
“ข้าวผัดก็ได้ง่ายดีครับ พี่กันต์ส่งพิกัดร้านมาด้วยนะครับ”
“ครับเดี๋ยวพี่ส่งให้”
พาลินรีบไปรอรถเมล์แต่ช่วงเที่ยงคนแน่นทุกคันเขาเลยนั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปแทน
พอไปถึงแฟนหนุ่มก็นั่งรออยู่แล้ว แต่ที่โต๊ะตอนนี้ไม่ได้มีแค่กันต์ธีร์คนเดียวเพราะยังมีผู้หญิงอีกคนนั่งอยู่ด้วย
“นั่งสิ พี่สั่งข้าวให้แล้ว จะเอาน้ำอะไรไหม”
“มีน้ำแตงปั่นไหมครับ” เขาหันไปถามเด็ดเสิร์ฟที่ยกข้าวผัดมาให้พอดี
“มีครับ”
“งั้นผมเอาน้ำแตงโมปั่นครับ”
พอสั่งของตนเองเสร็จก็หันมาทางคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะพร้อมส่งยิ้มหวานให้อย่างเคยแต่วันนี้พี่กันต์ของเขากลับไม่ยิ้มรับ
“พี่อรครับนี่พาลิน เพื่อนรุ่นน้องผมเองครับ พาลินนี่พี่อร เป็นรุ่นพี่ที่ทำงาน”
“สวัสดีครับพี่อร” พาลินสะดุดกับคำว่าเพื่อนรุ่นน้องแต่ก็ไม่ลืมที่ยกมือไหว้ทักทายรุ่นพี่ของแฟนหนุ่ม
“สวัสดีจ้ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ทำงานอยู่แถวนี้เหรอ”
“ครับ”
“รีบกินเถอะเดี๋ยวต้องกลับทำงานอีกไม่ใช่เหรอ” กันต์ธีร์บอกเพราะกลัวว่าทั้งสองคนจะคุยกันมากเกินไป
“ครับ”
พาลินได้แต่พูดคำว่าครับแล้วก้มหน้าทานข้าวผัดของตัวเองอย่างฝืดคอ อยากจะพูดอยากจะคุยกับกันต์ธีร์แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่สนใจมองมาเลยสักนิด เพราะเอาแต่คุยกับรุ่นพี่จนพาลินรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน
พอน้ำเด็กเอาน้ำแตงโมมาวางให้เขาก็รีบดูดจนเกือบหมดแล้วก่อนจะขอตัวกลับ เขาน้อยใจที่คนรักไม่สนใจเขาหวังว่าการขอตัวกลับจะทำให้ชายหนุ่มรู้สึกตัวและเดินมาส่ง
“ผมไปก่อนนะครับพี่กันต์ พี่อร”
“แล้วมาทานข้าวด้วยกันอีกนะคะ”
“ครับ พี่กันต์ผมไปนะ”
“อือ กลับดีๆ ละ” เขาพูดแค่นั้นแล้วก็นั่งคุยกับรุ่นพี่ต่อ
พาลินเดินมาจ่ายเงินแล้วหันกลับไปมองอีกครั้งหวังว่าแฟนหนุ่มจะรู้สึกตัวว่าเขากำลังงอนอยู่ แต่มันไม่เป็นอย่างที่คิดเพราะตอนนี้ทั้งสองคนนั่งคุยกันอย่างสนุกสนานราวกับว่าที่ร้านมีกันอยู่แค่สองคน
พอกลับมาถึงโรงเรียนสอนภาษา พาลินก็โทรไปบอกว่าตัวเองมาถึงแล้ว และถามว่าเย็นนี้เขาจะไปรับที่บ้านของเบจิงไหม
“เย็นนี้ที่แผนกมีงานเลี้ยงวันเกิด พี่คงไปไม่ได้ กลับคนเดียวได้ไหม นั่งแท็กซี่ก็ได้”
“พี่กันต์จะกลับกี่โมง”
“ยังไม่รู้เลย มีอะไรหรือเปล่า”
“ช่วงนี้เราไม่ค่อยได้คุยกันเลย ผมไปหาพี่ที่ห้องได้ไหม”
วันนี้ที่ไปทานข้าวกลางวันก็คิดว่าจะได้คุยกันให้หายคิดถึง แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะพาเพื่อนรุ่นพี่มาด้วย พรรคนี้ดูเหมือนเขาจะสนิทกับเพื่อนรุ่นพี่คนนี้มากเกินไปแล้ว ไม่รู้ว่าคิดมากไปหรือเปล่าแต่เพราะเธอทั้งสวยและเก่งพาลินก็อดระแวงไม่ได้
“อย่ามาเลย พี่ไม่รู้จะกลับมาถึงกี่โมง เอาไว้วันไหนว่างพี่จะรับมานอนด้วยนะ แค่นี้ก่อนนะ พี่มีงานต้องไปทำต่อแล้วค่อยคุยกันนะ”
“ครับ”
วางสายไปแล้วแต่รู้สึกเศร้ากว่าทุกครั้ง ความรู้สึกมันบอกว่าตอนนี้อีกคนกำลังเปลี่ยนไป เขาไม่ค่อยมีเวลาให้ พอเจอกันก็แค่ทักทายตามปกติ ถ้าเป็นแต่ก่อนเขาคงเข้ามากอดแบบไม่อายสายตาใคร แต่วันนี้สถานะที่แฟนหนุ่มแนะนำให้เพื่อนร่วมงานรู้จักก็คือเพื่อนรุ่นน้อง ถ้าคิดกับเขาแค่นี้จะมาทำดีด้วยทำไมตั้งแต่แรก
เขารู้สึกน้อยใจจนต้องแอบมาร้องไห้อยู่ในห้องน้ำ แต่อีกไม่กี่นาทีก็จะต้องเขาห้องสอนแล้ว พาลินเลยต้องรีบไปล้างหน้าให้สดชื่นเพราะอยู่กับเด็กๆ เขาก็อยากทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ ไม่อยากให้อารมณ์ด้านลบกระทบกับงาน
พาลินสอนเด็กจนๆ ถึงบ่ายสามโมงก็หมดเวลาสำหรับวันนี้ แต่ยังต้องไปสอนน้องเบจิงที่บ้านต่อในเวลา 17.00 น. เขาจึงไปเดินเล่นที่ห้างเพราะถ้ากลับไปที่ห้องก็ไม่รู้จะทำอะไร
ชายหนุ่มไปเดินดูหนังสือนิทานภาษาอังกฤษเลือกเล่มที่คิดว่าน้องเบจิงจะชอบ จากนั้นไปทานอาหารที่ Food court ก่อนจะตรงไปยังบ้านของลูกศิษย์ตัวน้อยที่ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งหลงรักมากขึ้นไปทุกที