บทย่อ
ไม่ว่าเมื่อวาน วันนี้หรือพรุ่งนี้ ความรู้สึกที่มีให้ก็ไม่เคยเปลี่ยน เหมือนกับตัวเลขพาลินโดรมที่ไม่ว่าจะอ่านจากข้างหน้าหรือข้างหลังมันก็อ่านได้เหมือนเดิม
1 ตรงสเปก
“ไม่กิ๊นนน!! เบจิงไม่กิ๊นน!! เบจิงจะรอพี่ลิน” เด็กชายวัย 5 ขวบ วิ่งไปทั่วบ้านขณะที่พี่เลี้ยงได้แต่มองตามแล้วส่ายหัว เกือบสิบนาทีแล้วที่เจ้านายตัวน้อยไม่ยอมมานั่งทานอาหาร เธอวิ่งตามจนเหนื่อยแต่อีกคนก็ยังไม่หมดแรง
ปึก !!
เด็กชายวิ่งชนกับคนที่เพิ่งก้าวเข้ามาอย่างจัง มือใหญ่คว้าร่างนุ่มนิ่มเอาไว้ได้ทันก่อนที่จะหงายหลังลงไปกับพื้น
“น้าโดม” เด็กชายชูมือให้คนเป็นน้าชายอุ้มอย่างประจบ
“ว่าไงครับตัวแสบทำไมไม่กินข้าวล่ะครับ ไหนดูซิมีอะไรกินบ้าง” เขาอุ้มเด็กชายมายังโต๊ะในห้องครัวพลางนั่งลงบนเก้าอี้ หันหน้าเด็กน้อยเข้าโต๊ะอาหาร
“คุณโดมมาพอดีเลยค่ะ ช่วยมาลีหน่อยนะคะ น้องเบจิงไม่ยอมทานข้าวค่ะ นี่ก็เลยเวลามานานแล้ว” เด็กสาววัย 17 ปีรีบฟ้องชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผู้เป็นน้าของเด็กชาย
“มีแต่ของอร่อยทั้งนั้นเลยนะครับ ให้น้าป้อนนะครับ”
“ไม่เอา เบจิงจะรอพี่ลิน” เด็กชายส่ายหัวเม้มปากแน่น
“มาลี พี่ลินนี่ใครเหรอ”
“คุณครูสอนพิเศษค่ะ”
“สอนพิเศษ! อะไรกันยังไม่เข้า ป.1 เลยเรียนพิเศษแล้วเหรอครับเบจิง”
ดลธรรมชักจะสงสารหลานชายที่ถูกจับเรียนพิเศษตั้งแต่ยังไม่ทันเข้าเรียนชั้นประถมมันดูจะเกินไปหน่อย เพราะแต่ก่อนเขาอายุเท่านี่ยังบวกเลขไม่เป็นด้วยซ้ำ
“พี่มาลีคร้าบบ โทรถามให้หน่อยได้ไหนว่าพี่ลินใกล้จะถึงยังคร้าบ”
“โธ่ เพิ่งโทรถามไปเมื่อกี้เองนะคะ”
“เบจิงครับ น้าว่าเรามากินอะไรก่อนดีไหม เดี๋ยวน้าป้อนนะครับ”
“น้าโดมคร้าบบ ขับรถไปรับพี่ลินได้ไหมคร้าบบ”
“เฮ้อ! น้ายังไม่เคยรู้จักเลย จะขับรถไปรับได้ยังไงล่ะครับ น้าว่าเบจิงรีบกินข้าวและเป็นเด็กดี ถ้าพี่ลินรู้ต้องดีใจมากๆ เลยนะครับ”
“จริงเหรอครับ” เด็กน้อยทำตาโต
“จริงสิ มาลีช่วยถ่ายคลิปให้หน่อยได้ไหม ถ้าคุณครูมาจะได้อวดคุณครูว่าเบจิงเป็นเด็กดีทานข้าว ทานผักจนหมด”
“ถ่ายเลยคร้าบบ พี่มาลีถ่ายเบจิงเลย” เด็กชายลงจากหน้าตักคุณน้าสุดหล่อ มานั่งเก้าอี้เด็กที่สูงกว่าปกติเล็กน้อยและทานอาหารเองโดยที่ไม่ต้องมีใครป้อน
ดลธรรมมองหลานชายอย่างเอ็นดู เบจิงเป็นเด็กน่ารักช่างอ้อน เขาไม่ได้มาหาหลานชายเพียงสามเดือน ดูเหมือนว่าเด็กชายจะโตขึ้นมาก
เดิมทีเขาก็อาศัยอยู่บ้านหลังนี้กับพี่สาวและพี่เขย เพิ่งจะย้ายออกไปอยู่คนเดียวที่คอนโดได้ไม่ถึงปี เพราะไม่อยากเดินทางไปกลับระหว่างบ้านและบริษัทซึ่งอยู่ไกลกันพอสมควร
ดลธรรมเรียนจบบริหารธุรกิจแต่มีความชอบและความสนใจด้านคอมพิวเตอร์ตั้งแต่เรียนอยู่มัธยมต้น เขาศึกษาและติดตามเทคโนโลยีเหล่านี้มาตลอด
พอเรียนจบก็เลยเริ่มต้นทำธุรกิจ เริ่มจากนำเข้าสินค้าชิ้นเล็กๆ พวก accessories และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ พอได้กำไรมากขึ้นก็เริ่มเป็นสินค้าชิ้นใหญ่ขึ้น ปริมาณมากขึ้น จนถึงตอนนี้จนถึงตอนนี้บริษัทของเขาก็นำเข้าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไอทีด้านต่างๆ อย่างครบครัน
เขานั่งมองหลายชายทานข้าวจนหมดจานจากนั้นก็พากันยังห้องของเล่น ซึ่งตอนนี้มุมหนึ่งถูกจัดเป็นมุมสำหรับเรียนพิเศษ
เบจิงเอาสมุดแบบฝึกบวกเลขอย่างง่ายมาอวด ดูเหมือนเด็กชายตัวน้อยของเขาจะภูมิใจที่ตัวเองสามารถทำได้จนจบเล่ม
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“พี่ลินมาแล้ว”
ประตูเปิดออกไปไม่ถึงครึ่ง เด็กชายก็วิ่งปรู๊ดไปรับคุณครูด้วยความดีใจ
ดลธรรมเงยหน้าขึ้นมองคุณครูของหลายชายหัวใจเขาเต้นแรงเมื่อเห็นชายวัยรุ่น ผิวขาว ผมสีน้ำตาลอ่อน ใบหน้าหวานราวกับผู้หญิง สิ่งที่สะดุดตามากที่สุดคงจะเป็นดวงตากลมโตที่ส่องประกายสดใส ชายหนุ่มยิ้มและก้มหัวให้ดลธรรมเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงที่มุมห้องโดยมีเบจิงตามไปนั่งบนตัก
“พี่ลินมาช้า” เสียงเล็กๆ บอกอย่างชัดเจนว่าเจ้าตัวกำลังงอนคุณครูอยู่
“พี่ลินขอโทษครับ วันนี้พี่ลินมีธุระครับ แต่เพราะมาช้าพี่ลินก็เลยมีของขวัญมาให้ด้วย เบจิงจะยกโทษให้มั้ยน้า”
คุณครูหยิบหุ่นยนต์ตัวเล็กออกมาจากกระเป๋าเป้ส่งให้เด็กชาย
“เบจิงยกโทษให้คร้าบ รักพี่ลินที่สุดเลย” พูดพลางหันมาหอมแก้มอีกฟอดใหญ่
เพราะกลัวว่าจะรบกวนสมาธิของหลานชายดลธรรมจึงเดินออกมาจากห้องนั้น เขานั่งรอพี่สาวและพี่เขยอยู่ในห้องรับแขก
“สวัสดีครับพี่ปรานต์ พี่แพร” ชายหนุ่มทักทายเจ้าของบ้านที่เพิ่งเลิกงานและกลับถึงบ้านในเวลาเกือบจะหนึ่งทุ่ม
“อ้าว โดมนึกยังไงแวะมาละ อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนนะ”
“ครับ งานยุ่งเหรอครับพี่กลับดึกเชียว”
“นิดหน่อยน่ะ แล้วที่บริษัทเป็นไงบ้าง” ปรานต์ถามน้องชายของภรรยา
“ก็เรื่อยๆ ครับพี่ปรานต์”
“คุยกับพี่แพรไปก่อนนะพี่ขอตัวไปอาบน้ำก่อนวันนี้ไปโกดังมาเหนื่อยตัวไปหมดแล้ว ยังไม่หิวใช่ไหม”
“ยังเลยครับ ไม่ต้องรีบก็ได้นะพี่ปรานต์”
“พี่แพรกลับดึกทุกวันแบบนี้ไหมครับ”
“ไม่ทุกวันหรอกพอดีวันนี้ไปที่โกดังกันมาก็เลยกลับค่ำหน่อย โดมมีอะไรหรือเปล่า”
“ผมมีเรื่องจะถามหน่อยครับเรื่องเบจิง”
“เบจิง ทำไมหรือหลานกวนอะไรโดมหรือเปล่า”
“เปล่าครับ ผมแค่อยากจะถามพี่ว่าหลานผมยังไม่ ป.1 นะครับ ทำไมถึงต้องเรียนพิเศษแล้วล่ะครับ มันเร็วไปหรือเปล่า”
“โธ่ นึกว่าเรื่องอะไร มันไม่ได้เรียกว่าเรียนพิเศษหรอก ก็แค่ให้เบจิงได้ฝึกภาษาอังกฤษเพิ่ม เปิดเทอมหน้าหลานจะต้องเข้าโรงเรียนนานาชาติ พี่ก็เลยอยากเตรียมความพร้อม ไม่อยากให้ไปอึดอัด”
“คนที่จ้างมาเขาเป็นครูเหรอครับ หน้ายังเด็กอยู่เลย”
“เปล่าจ้ะ น้องยังเรียนอยู่เพื่อนพี่ปรานต์แนะนำมาอีกทีเพราะเคยจ้างไปสอนอยู่ แต่ตอนนี้เขาย้ายไปอยู่ต่างประเทศพี่ก็เลยจ้างต่อ”
“ดูแล้วเจ้าแสบของผมจะติดครูคนนี้มากเลยนะครับ เย็นนี้ก็ไม่ยอมทานข้าว พอบอกจะถ่ายคลิปส่งให้ครูดูเท่านั้นแหละทั้งข้าวทั้งผักกินเกลี้ยงเลย”
“ใช่จ้ะ เบจิงเชื่อฟังคุณครูของเขามาก ไม่ว่าจะบอกให้ทำอะไรทำตามหมด พี่ดีใจที่ได้น้องลินมาช่วยสอน สบายไปเยอะ แล้วเราละ สนใจคุณครูเขาบ้างไหม พี่ว่าน่ารักดีนะ”
“ครับ น่ารักดี” เขาตอบพี่สาวพลางนึกถึงใบหน้าหวานของอีกคน รู้สึกว่าหัวใจเองเต้นแปลกๆ
“ชอบก็จีบเลยสิ สเปกเราเลยไม่ใช่เหรอ”
“พี่แพร ผมยังไม่รู้จักเขาเลย ยังไม่ทันได้คุยสักคำ”
“เดี๋ยวพี่แนะนำให้รู้จักนะ นั่นไงเรียนเสร็จพอดี”