3 ถ้าแฟนไม่ว่างก็โทรหาพี่
ดลธรรมชำเลืองมองคนที่นั่งข้างๆ ถ้าเป็นเขาคงไม่ปล่อยให้แฟนต้องกลับเองเป็นอันขาด ถึงจะเป็นผู้ชายแต่บางครั้งพวกโจรผู้ร้ายมันก็ไม่เลือกเพศ
แม้จะแอบผิดหวังที่อีกคนมีแฟนแล้ว แต่เขาก็ยังอดห่วงไม่ได้ ไม่รู้จะห่วงในฐานะอะไรหรือบางทีเขาก็แค่ห่วงเพราะอีกคนเป็นคุณครูของหลานชาย
“พี่โดมจอดข้างหน้าเลยครับ หอผมเข้าไปในซอยอีกนิดเดียว มันกลับรถยาก” ชายหนุ่มคนน้องชี้ไปยังปากซอยที่อยู่ข้างหน้า
“ไม่ไกลแน่นะ” ไหนๆ ก็มาส่งแล้วก็อยากจะส่งให้ถึงที่หมาย
“แน่ครับ เดี๋ยวไปถึงแล้วผมโบกมือให้”
“ขอเบอร์ไว้หน่อยได้ไหม”
“ได้ครับ”
เขากรอกตัวเลขสิบหลักลงบนโทรศัพท์หรู แล้วเจ้าของก็รับไปแล้วกดโทรออก แต่ก็ยังไม่ได้ยินเสียง
“ผมเปิดสั่นไว้ครับ เบอร์นี้ใช่ไหมครับ” พาลินยกโทรศัพท์ของตัวเองให้ดลธรรมดู
“อือ เมมไว้ด้วยนะ เผื่อวันไหนต้องกลับดึกแล้วแฟนไม่ว่างก็โทรตามพี่ได้” ไม่รู้อะไรดลใจให้พูดออกแบบนั้น
“ได้เหรอครับ”
“ได้สิ เราเป็นครูของเบจิงนี่”
“ครับ ขอบคุณครับ” พาลินยิ้มกว้าง เพิ่งรู้ว่าสถานะคุณครูของน้องเบจิงมีสิทธิ์โทรให้น้าชายของเด็กน้อยมารับได้ด้วย
พาลินเดินไปยังหอพักพอถึงก็โบกมือให้เขาอย่างที่บอก แต่รถคันหรูก็ยังไม่ออกไปสักที ชายหนุ่มจึงกดโทรศัพท์ไปยังเบอร์เมื่อครู่
“พี่โดม ผมถึงหอแล้ว โบกมือแล้วนะ”
“อือเห็นแล้ว”
“อ้าว ผมก็นึกว่าไม่เห็นแล้วทำไมพี่ยังไม่กลับล่ะ”
“ก็รอให้ขึ้นหอไปก่อน หน้าหอเรามันมืดมาก”
“ครับ ขอบคุณอีกครั้งนะครับที่มาส่ง” พาลินกดวางสายแล้วเดินเข้าหอพักไป
เขารู้สึกอบอุ่นที่มีคนเป็นห่วงแบบนี้ ถ้าเป็นกันต์ธีร์เขาก็แค่มาส่งแล้วก็กลับ ไม่เคยมีสักครั้งที่รอให้พาลินเข้าหอไปก่อน และไม่เคยขึ้นไปบนหอของเขาเลยสักครั้ง
แต่เป็นพาลินเองที่ต้องไปค้างกับเขาที่คอนโดเวลาที่เขามารับ แม้จะเป็นแฟนกันมาหกเดือนและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแล้ว แต่ความรู้สึกกลับไม่เหมือนกันแรกที่ได้รู้จักกัน
ตอนเขามาจีบกับตอนที่เป็นแฟนกันมันต่างกันจนเห็นได้ชัด ยิ่งมีอะไรกันแล้วเขาก็ไม่ค่อยเอาใจอย่างเดิม วันไหนอยากให้ไปนอนด้วยก็มารับ วันไหนไม่มีความต้องการก็เงียบหาย
พาลินพยายามจะเข้าใจเขาเพราะตอนนี้แฟนหนุ่มเรียนจบและเพิ่งได้เข้าทำงานในบริษัทขนาดใหญ่ เขาจึงไม่ค่อยเวลาอย่างเคย
และที่เขาไปสอนน้องเบจิงช้าก็เพราะวันนี้เขาไปรอกันต์ธีร์ที่บริษัท แต่พอถึงเวลาเลิกงานชายหนุ่มกลับบอกว่าไม่ว่างและมาส่งพาลินไม่ได้
เขาไม่โกรธแต่รู้สึกน้อยใจมากกว่า ถ้าบอกเขาก่อนสักนิดว่าไม่ว่างมาส่งเขาจะได้ไม่ต้องไปนั่งรอให้เสียเวลา
ที่มาเป็นครูสอนพิเศษก็เริ่มจากอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยให้ไปช่วยสอนลูกของคนรู้จัก จากนั้นก็เริ่มสอนมาเรื่อยๆ เขารับลูกศิษย์แค่ครั้งละคนเท่านั้นเพราะยังต้องแบ่งเวลาไปเรียน แต่ตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอมกำลังจะขึ้นปีสี่ พาลินเลยไปสมัครเป็นผู้ช่วยสอนที่โรงเรียนสอนภาษาแห่งหนึ่ง
พาลินวางเป้ลงบนโต๊ะกลางห้อง จากนั้นรีบอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะโทรหาคนรัก แต่อีกฝ่ายปิดเครื่องเขาจึงได้แต่ทิ้งข้อความไว้ในไลน์
เที่ยงคืนกว่าพาลินก็เริ่มง่วง เขาเก็บหนังสือเข้าที่จากนั้นโทรหาแฟนหนุ่มอีกครั้ง แต่ก็เหมือนเดิมคือเขาปิดเครื่อง หรือบางทีแบตก็อาจจะหมด พาลินจึงเข้านอนโดยไม่ได้คุยกับกันต์ธีร์อย่างเคย
ก่อนหน้าที่จะตกลงเป็นแฟนกัน เขาโทรหาทุกวัน วันละหลายรอบ การได้คุยกับกันต์ธีร์ก่อนนอนถือเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ทำให้เขานอนหลับอย่างมีความสุข รู้สึกอบอุ่น รู้สึกดีที่มีคนคุยก่อนนอน แต่ตอนนี้ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไป ชายหนุ่มเย็นชาขึ้น และมีเวลาให้เขาน้อยลง
ทุกอย่างคงจะดีขึ้นถ้าหากงานของกันตฺธีร์ลงตัวมากกว่านี้ และถึงตอนนั้นพาลินก็หวังว่าเขาจะมีความสุขมากกว่านี้
กำลังจะล้มตัวลงนอนโทรศัพท์ในมือก็สั่น เขารีบยกขึ้นมาดู คนที่โทรเข้ามาไม่ใช่แฟนหนุ่มที่เขากำลังรออยู่ แต่เป็นชายอีกคนที่มาส่งเขาเมื่อครู่
“สวัสดีครับพี่โดม”
“ขอโทษที่โทรมาดึกนะ พี่จะถามว่าเฟรชไดร์ฟรูปกระดูกหมาเป็นของเราหรือเปล่าที่เห็นมันอยู่บนเบาะ”
“ครับของผมเอง มันคงร่วงตอนที่ล้วงโทรศัพท์ ผมฝากพี่ไว้ก่อนนะครับ”
“ไม่มีงานสำคัญในนี้ใช่ไหม รีบใช้หรือเปล่า”
“ไม่มีครับ”
“ถ้าอย่างนั้นพี่เอาไปฝากไว้ที่บ้านพี่แพรนะ เราต้องมาสอนเบจิงทุกวันอยู่แล้วใช่ไหม”
“ครับ สอนจันถึงศุกร์ครับ ขอบคุณนะครับ”
“อือ งั้นพี่ไม่กวนแล้วรีบไปนอนเถอะดึกแล้ว”
“พี่เพิ่งถึงคอนโดเหรอครับ ไหนว่าอยู่เลยไปหน่อยเดียวทำไม่เพิ่งถึง” เพราะตั้งแต่เขาส่งจนถึงตอนนี้ก็เกือบจะสามชั่วโมงแล้ว
“แวะดื่มกับเพื่อนครับ เลยกลับดึกหน่อย แต่เดี๋ยวก็นอนแล้ว”
“งั้นผมไปนอนแล้วนะครับ”
“ครับ”
วางสายไปแล้วมือก็ยังถือโทรศัพท์อยู่ ใบหน้าสวยยิ้มเมื่อคิดถึงใบหน้าของคนที่โทรมาหา
“ท่องไว้สิพาลิน เรามีแฟนแล้ว” พาลินย้ำกับตัวเองอีกครั้ง ถึงแม้จะรู้สึกดีที่ได้คุยกับเขาแต่มันไม่ถูกต้องเพราะนี้ตัวเองมีแฟนอยู่แล้วและก็ไม่ควรรู้สึกอะไรแบบนี้กับผู้ชายคนอื่น
แต่พอจะหลับใบหน้าของดลธรรมก็เข้ามากวนใจอยู่เรื่อย พาลินเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูรูปถ่ายของตนเองคู่กับกันต์ธีร์เพื่อย้ำว่าตอนนี้คนที่ควรคิดถึงคือคนที่อยู่ในรูปมากกว่าคนที่เพิ่งวางสายไป