14 อยู่คนเดียวก็มีความสุข
กลับมาถึงหอก็วิดีโอคอลคุยกับเพื่อนทั้งสองคน พาลินไม่มีอะไรปิดบังเพื่อนทั้งสองคนอยู่แล้ว เขาเลยเล่าทุกอย่างที่ได้เห็นในวันนั้นให้กับทั้งสองคนฟัง
ตั้งแต่เลิกกับกันต์ธีร์หัวใจของพาลินก็ปิดตาย เขาไม่คิดจะคบใครอีกแล้ว เพราะตอนนี้ก็มีความสุขดี การไม่มีแฟนก็ใช่ว่าชีวิตจะดำเนินต่อไปไม่ได้ สองเดือนแล้วที่พาลินไม่มีกันต์ธีร์ในชีวิต
ชายหนุ่มยังคงไปสอนที่โรงเรียนสอนภาษา ตกเย็นก็ไปสอนเบจิงที่บ้านเหมือนเดิม แต่พาลินไม่ต้องเดินออกมาที่ปากซอยคนเดียวแล้ว เพราะช่วงนี้ดลธรรมมักจะไปทานข้าวเย็นที่บ้านพี่สาวและชวนเขาติดรถมาด้วยทุกครั้ง
แต่ถ้าวันไหนชายหนุ่มไม่มาพาลินก็จะเรียกแกรปให้มารับ ถ้าเป็นแต่ก่อนก็คงจะกังวลว่ากันต์ธีร์จะมารับไหม แต่พอตัดเขาออกไปจากชีวิตการตัดสินใจทุกอย่างก็ง่ายขึ้น
วันนี้พาลินมีนัดกับโชว์รูมรถแห่งหนึ่ง เขาจะไปลองขับดูสักครั้ง ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ
“ว่าไง โอเคไหม” ดลธรรมถามหลังจากเขาลองขับรถและพากันมาทานข้าวที่ร้านแห่งหนึ่งบนศูนย์การค้า
“ก็ดีครับ คันเล็กคล่องตัวดี”
“ก็ดี หมายความว่ายังไม่ค่อยดีใช่ไหม”
“พูดไม่ถูกครับ มันก็ชอบอยู่หรอก คันเล็กคล่องตัว การตกแต่งก็โอเค แต่เริ่มลังเลนิดหน่อย”
“ลังเลอะไร เรื่องเงินหรือเปล่า”
“ไม่ใช่เรื่องเงินครับ คือถ้าผมซื้อตอนนี้ก็ยังไม่มีที่จอด พี่เห็นแล้วนี่ครับว่าหอผมเป็นยังไง”
“อือ ก็ว่าจะถามอยู่ว่าจะเอารถไปจอดที่ไหน”
“บางทีผมว่าน่าจะดูก่อนว่าต้องฝึกงานที่ไหน หรือว่าอาจจะซื้อตอนเรียนจบและได้ที่ทำงาน ถึงตอนนั้นก็หาคอนโดสักที่”
“ยังไม่รู้อีกเหรอว่าฝึกงานที่ไหน”
“ยังเลยครับ ว่าจะถามอาจารย์ก็เกรงใจ รอให้เปิดเทอมทีเดียวดีกว่าครับ”
“ถ้าไม่ถามอาจารย์ก็ถามรุ่นพี่สิว่าเขาไปฝึกกันที่ไหน ส่วนใหญ่ก็คงบริษัทเดิมนั่นแหละ”
“ผมจะลองถามดูครับ”
“พี่ยังไม่รู้เลยว่าเราเรียนคณะอะไร”
“บัญชีครับ”
“เหรอ นึกว่าเรียนอักษรศาสตร์เห็นสอนภาษาอังกฤษ”
“เรื่องภาษาได้มาจากพ่อครับ พ่อผมเป็นลูกครึ่งครับ”
“ถ้าพี่รู้มาก่อนจะชวนไปฝึกงานที่บริษัทแล้ว กำลังอยากได้คนช่วยอยู่เลย”
“ผมจะช่วยอะไรพี่ล่ะครับ ยังเรียนไม่จบเลย”
“ถ้าจบแล้วไม่สมัครงานที่บริษัทสิ เงินเดือนอาจไม่สูงเท่าบริษัทใหญ่ แต่รับรองเลยว่าทำงานสบาย”
บริษัทของดลธรรมเปิดได้ไม่ถึงห้าปี พนักงานส่วนใหญ่ก็จะเป็นเด็กที่จบใหม่และเริ่มทำงานพร้อมกับเขาทั้งนั้น
“ผมไม่อยากเป็นเด็กเส้นครับ เอาไว้หางานไม่ได้จริงๆ ค่อยไปให้พี่ช่วย”
“ได้สิ ว่าแต่กินข้าวเสร็จแล้วไปไหนต่อไหม”
“ยังไม่รู้เลย ถ้าพี่มีธุระก็แยกกันตรงนี้ก็ได้เดี๋ยวผมกลับเองได้ ใกล้นิดเดียวเองครับ”
“พี่ก็ไม่มีธุระไปไหนเหมือนกัน ปกติพาลินทำอะไรในวันหยุดล่ะ”
“เล่นเกมกับนอนครับ พี่ล่ะ”
“ถ้าไม่ออกต่างจังหวัดกับเพื่อนก็นอนตายอยู่ที่คอนโดนั่นแหละ”
“ผมคงไม่รบกวนเวลานอนของพี่ใช่ไหม”
“ไม่หรอก แต่ไหนๆ ก็ออกมาแล้วไปเดินเล่นกันดีไหมยังไม่อยากกลับ”
“งั้นไปโซนคอมพิวเตอร์ได้ไหม”
“จะซื้อใหม่เหรอ”
“เปล่าครับ ว่าจะไปสืบราคาดูหน่อย เทอมหน้าชมรมค่ายอาสาจะไปปรับปรุงห้องสมุดครับ”
“อยู่ชมรมอาสาเหรอ”
“ครับ”
“ดูท่าทางไม่น่าจะไปเข้าค่ายไหวนะ” ดลธรรมมองเด็กหนุ่มผิวขาวจัดแล้วนึกภาพไม่ออกว่าจะไปทนอยู่กลางแดดร้อนหรือทนลำบากได้ยังไง
“อย่ามาดูถูกกันนะครับ ผมไปค่ายทุกปีเลย”
พาลินชอบไปออกค่าย ได้ทั้งเพื่อนได้ทั้งประสบการณ์ถึงแม้บางที่จะค่อนข้างใช้ชีวิตลำบากแต่เขาก็ไม่เคยบ่น เพราะคนที่อาศัยอยู่ที่นั่นลำบากกว่าเขาหลายเท่า
“ไม่ได้ดูถูกก็แค่สงสัยครับ ตัวขาวอย่างนี้เวลาออกแดดไม่แย่เลยเหรอ”
“กันแดดก็มีครับจะกลัวอะไรล่ะ”
“ก็จริงนะ”
ทั้งสองคนพากันเดินมายังโซนที่เป็นร้านคอมพิวเตอร์ที่มีทั้งโน้ตบุ๊กและคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะที่มีทั้งแบบประกอบสำเร็จรูปยี่ห้อต่างๆ และแบบที่ซื้อเป็นชิ้นและเอามาประกอบเอง
พาลินไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้เท่าไหร่ เพราะตัวเองใช้แต่โน้ตบุ๊ก แต่ที่ชมรมบอกว่าอยากแบบตั้งโต๊ะเพราะอยากให้เด็กได้ใช้กันนานและเครื่องหนึ่งก็คงต้องใช้กันหลายคน
“ปีนี้ไปออกค่ายที่ไหนครับ” ดลธรรมถามด้วยความสนใจ
“พิษณุโลกครับ หมู่บ้านที่เราจะไปอยู่ไกลออกจากตัวเมืองไปมากเหมือนกันครับ”
“ไปเมื่อไหร่เหรอ”
“ก็คงจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกาครับ”
“อีกหลายเดือนเลย เอาไว้จะไปเราค่อยมาดูก็ได้”
“ผมแค่อยากได้ราคาคร่าวๆ ครับจะได้กะงบประมาณถูก”
“พาลินรู้ไหม บริษัทพี่ทำอะไร” จู่ๆ เขาก็เปลี่ยนเรื่อง
“พี่แพรเคยบอกว่าบริษัทพี่แพรรับสร้างทุกอย่างครับ คอนโด บ้าน อาคารศูนย์ราชการครับ”
“นั่นมันของพี่แพร พี่หมายถึงของพี่”
“อ้าว ไม่ได้ทำงานด้วยกันเหรอครับ”
“เปล่า พี่เปิดบริษัทเอง”
“เจ๋งอะ บริษัทของพี่โดมทำอะไรครับ”
“นำเข้าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์”
“จริงเหรอครับ งั้นผมก็คิดถูกแล้วที่ให้พี่มาช่วยเลือก”
“พี่ถึงบอกว่าอย่าเพิ่งซื้อ พี่จะลองดูนะว่าที่บริษัทมีงบสำหรับช่วยเหลือสังคมไหม” เขาจำได้ว่าถ้าเอาเงินไปบริจาคหรือช่วยเหลือสังคมจะนำมาลดหย่อนภาษีให้บริษัทได้ ซึ่งเรื่องนี้คงต้องถามพี่สาวอีกที เพราะเธอเป็นคนช่วยดูเรื่องนี้ให้ที่บริษัท
“ผมเกรงใจจัง ขอบคุณครับ”
“ยังไม่ได้บอกเลยว่าจะมีงบให้ ไม่ต้องรีบขอบคุณหรอก”
“แค่พี่อยากจะช่วยก็โอเคแล้วครับ”
“จริงสิ ถ้าออกค่ายก็ต้องไปสร้างพวกห้องสมุดห้องน้ำอะไรอย่างนี้ใช่ไหม”
“ครับ ปีนี่เราจะไปปรับปรุงห้องสมุดเดิมปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น แล้วก็สร้างห้องน้ำกับเพิ่มตู้กดน้ำเย็นให้เด็กๆ ครับ”
“ลองเอาโครงการเสนอพี่แพรสิ เผื่อจะได้สนับสนุนพวกวัสดุอุปกรณ์นะ”
“ได้เหรอครับ”
“ได้สิ”
“งั้นผมจะลองไปปรึกษาประธานชมรมดูนะครับ ถ้าได้เรื่องแล้วจะบอกอีกที พี่โดมก็ต้องช่วยผมด้วยนะ”
“แน่นอน” เพราะตอนที่ตัวเองเรียนอยู่ก็ชอบไปออกค่าย แค่ได้ยินเข้าก็นึกสนุกแล้ว บางที่เขาอาจจะขอไปด้วยในฐานะผู้สนับสนุนก็ได้
พาลินไม่ได้หวังจะได้รับความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่อยากปล่อยโอกาสดีแบบนี้ไป เขาคงต้องรีบปรึกษาประธานชมรมซึ่งเดิมทีเป็นรุ่นพี่ปีสี่แต่ เปิดเทอมคงต้องเลือกกันใหม่ แต่ตำแหน่งนี้ก็คงจะเป็นรองประธานเพราะดูแล้วเขาน่าจะทำงานนี้ดีที่สุด
ออกมาจากโซนคอมพิวเตอร์พาลินก็ยังไม่รู้จะไปไหน ต่อ จะกลับไปที่หอก็ไม่รู้จะทำอะไรในขณะที่กำลังคิดว่าจะชวนดลธรรมไปร้านหนังสือเขาก็รับโทรศัพท์เสียก่อน
ดลธรรมกลับมาอีกครั้ง สีหน้าของเขาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“มีอะไรหรือเปล่าครับพี่โดม”
“เพื่อนพี่มีปัญหานิดหน่อย พาลินกลับเองได้ใช่ไหม”
“ได้ครับ พี่โดมมีอะไรให้ช่วยไหม” พาลินถามแล้วก็อยากจะเขกหัวตัวเองเพราะอย่างเขาจะไปช่วยใครได้
“ไม่เป็นไรพี่คิดว่าคงไม่หนักมาก พี่ไปก่อนนะ เดินคนเดียวได้ใช่ไหม”
“สบายมากครับพี่ ไม่ต้องห่วง”