บทที่2 ตอน "ความรักของพวกเขา(2)" 1
ทุกสิ่งทุกอย่างถูกกำหนดให้เดินไปตามกาลเวลา และชีวิตของสองหนุ่มสาวต่างวัยอายุห่างกันสิบห้าปีก็ถูกฟ้าลิขิตขีดเส้นให้พวกเขาเกิดมาเป็นเนื้อคู่กัน ถึงมาอยู่ตรงจุดแห่งความรักและได้จัดงานแต่งขึ้นอย่างเป็นเกียรติ
เสียงเครื่องไฟดังแข่งกับเสียงแขกเหรื่อนับร้อย คนในหมู่บ้านต่างก็มาร่วมงานแต่งเพื่อเป็นสักขีพยานรักให้กับบ่าวสาว ซึ่งเจ้าภาพก็จัดโต๊ะจีนเลี้ยงพวกชาวบ้านที่ต่างพากันร้องรำทำเพลง และดื่มกินกันอยู่ที่ลานหน้าบ้านและใต้ถุนบ้านไม้สักโมเดิร์นสองชั้น
บ้านหลังนี้เป็นที่อยู่อาศัยของ ‘คุณยายบุษบา วีรบุตร’ หญิงชราซึ่งสืบเชื้อสายผู้ดีเก่าและเป็นคนมีหน้ามีตาในจังหวัดลำปาง
ในห้องนอนของกิตติถูกตกแต่งให้กลายเป็นห้องหอสำหรับเจ้าบ่าวและเจ้าสาว พวกเขาทั้งสองต่างก็นั่งพับเพียบเคียงคู่กันอยู่บนพื้นพรมซึ่งมีแขกผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายนั่งอยู่ที่ปลายเตียง...
คุณยายบุษบาและสุจีต่างมองหน้ากันแล้วยิ้มมีความสุขที่เห็นหลานและลูกมาถึงวันนี้ วันที่พวกเขาทั้งสองกำลังจะเป็นของกันและกันอีกไม่กี่ชั่วโมง
“เกี๊ยใส่นี่ให้น้องสิ”
คุณยายบุษบามีใบหน้าเบิกบานยิ้มแย้มอิ่มอกอิ่มใจตลอดเวลา นางยื่นกล่องสีน้ำเงินให้หลานชายคนเดียว ข้างในมีสร้อยทองคำลายโบราณเก่าแก่ครบชุดที่เป็นสมบัติตกสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ
“นี่เป็นสร้อยของคุณยาย แต่อันนี้เป็นแหวนที่พี่สั่งทำขึ้นมาเพื่อเป็นสัญญารักของเราสองคน”
กิตติใส่สร้อยและตุ้มหูของคุณยายบุษบาให้น้อง แล้วเขาก็เอาแหวนทองคำขาวเกลี้ยงสวยเรียบหรู และอีกวงเป็นแหวนเพชรเม็ดเดียว น้ำงามส่องแสงระยิบระยับออกจากกล่องกำมะหยี่สีแดงให้หญิงสาวดู
“พี่เกี๊ย”
เปาวลีเสียงสั่นเครือ น้ำตาคลอมองมือของตัวเองที่ถูกชายหนุ่มจับกุมไว้ เขาก้มจูบกลางฝ่ามือบางแล้วสวมแหวนให้น้อง เขากระซิบบอกว่าเป็นแหวนแทนใจใส่นิ้วนางข้างซ้ายคู่กับแหวนหมั้น
“ชอบไหมครับ” กิตติถามน้องน้อย
“ค่ะ” ดวงหน้าหวานนองน้ำตาพยักหน้าหงึกๆ ให้เขารับรู้ว่าเธอชอบมาก
“อย่าถอดนะ” กิตติยื่นมือเข้าไปจับปลายคางน้อย ดันให้ดวงหน้างามเงยมองตากัน...
กิตติไม่ได้สนใจที่คิดอายคุณยายและน้าสุจีที่นั่งมองอยู่ เขาชะโงกหน้าเข้าหาใบหน้ารูปไข่ กระซิบบอกน้องชิดดวงตากลมโต เช็ดน้ำตาของน้องด้วยริมฝีปากหนา
สุจีมองลูกสาวที่บรรจงสวมแหวนทองคำเกลี้ยงใส่นิ้วนางของกิตติ นางมองด้วยความรักและมีความสุขที่เห็นลูกสาวเป็นสุขและเป็นฝั่งเป็นฝา นางยื่นมือเข้าไปลูกศีรษะของลูกสาวแล้วเอ่ยบอกเสียงไพเราะบอกลูกสาว
“ยัยหนูกราบขอบคุณคุณยายกับพี่เขาสิลูก”
“เจียวเข้ามาหายายสิลูก” คุณยายบุษบากางแขนรอให้หลานสะใภ้เข้ามาซบอก
“คุณยายขา”
เปาวลีไม่รีรอที่จะให้คุณยายได้รอนาน เธอรีบคลานเข้าไปนั่งตรงปลายเท้าแล้วยืนเข่า แขนเสลาทั้งสองข้างก็โอบกอดเอวท้วมของหญิงชรา ใบหน้างามซบลงบนทรวงอกหาความอบอุ่นจากร่างกายของคุณยายบุษบา
“ต่อไปนี้เจียวกับยายก็เป็นยายเป็นหลานกันแล้วนะ บ้านหลังนี้เป็นของพี่เกี๊ยก็จะเป็นของเจียวเหมือนกัน ทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านหลังนี้ เจียวมีสิทธิ์เท่าๆ กันกับพี่เขานะลูก” คุณบุษบาก้มมองหลานสะใภ้ มือเหี่ยวย่นทั้งสองข้างอุ้มดวงหน้าสวยให้แหงนขึ้นสบตากัน
“คุณยายขา...เจียวขอบคุณคุณยายมากนะคะ”
เปาวลียิ้มน้ำตาคลอไหลอาบพวงแก้มทั้งสองข้างไม่คิดเลยว่าตัวเองจะโชคดีที่ได้เจอความรักจากพี่เกี๊ยและความรักของยายบุษบา เธอนั่งพับเพียบแล้วก้มลงกราบตรงหลังเท้าทั้งสองข้างของหญิงชรา
“ร้องไห้ทำไมหลานยาย ไม่ร้องนะ ดูสิ หน้าเลอะน้ำตาดูไม่สวยแล้วนะ” คุณยายบุษบาปลอบขวัญหลานสะใภ้ที่นางเห็นมาตั้งแต่หญิงสาวตัวแดงๆ ไม่คิดเลยว่าวันนี้เด็กน้อยที่นางแอบรักแอบเอ็นดูนั้นจะกลายมาเป็นหลานสะใภ้
