"ความรักของพวกเขา(2)" 2
“เจียวรักคุณยายค่ะ” เปาวลีมองหน้าหญิงชรา คำว่ารักที่เอ่ยบอกคุณยายนั้นมันกลั่นกรองออกมาจากห้วงลึกของหัวใจจริงๆ เธอไม่ได้แกล้งพูดหรือแกล้งทำ
“ยายก็รักหนูนะ...ยายรักพี่เกี๊ยอย่างไร ยายก็รักหนูอย่างนั้น”
คุณยายบุษบาเช็ดน้ำตาให้หลานสะใภ้อย่างอ่อนโยน แล้วร่างของสองหญิงต่างวัยก็โผเข้ากอดกันด้วยความรักอันบริสุทธิ์
“พี่ก็รักเจียวนะ เลือดในกาย เนื้อหนัง ลมหายใจ หัวใจที่เต้นตุบตับได้ มันเป็นของเจียวนะ”
กิตติเมื่อเห็นยายกอดน้อง เขาก็คลานเข่าเข้าไปนั่งซ้อนอยู่ด้านหลังของหญิงสาว วงแขนแข็งแกร่งที่ยาวโอบกอดผ่านเอวคอดกิ่วเข้าไปกอดคุณยายบุษบาด้วย
“เกี๊ย” คุณยาบุษบาเรียกหลานชายหัวแก้วหัวแหวน
“ครับคุณยาย”
กิตติคลายอ้อมแขนออกจากคุณยาย แต่เขาก็ยังนั่งซ้อนอยู่ด้านหลังของเปาวลี แขนกำยำก็ยังกอดเจ้าสาวไว้หลวมๆ
“เกี๊ยรู้นะว่ายายรักน้องมากแค่ไหน รักเกี๊ยแบบไหน ยายก็รักน้องแบบนั้น” คุณยายบุษบาบอกให้หลานชายให้เข้ามานั่งข้างๆ
“ผมรู้ครับ”
กิตติจับจ้องเจ้าสาวแสนหวานที่เจ้าหล่อนอยู่ในชุดไทยประยุกต์สีชมพูอย่างหลงใหล...เปาวลีวันนี้ดูเป็นเจ้าสาวที่สวยงามที่สุดในโลกสำหรับเขา
“ยายขอให้เกี๊ยรักน้องสงสารน้องให้มากๆ นะพ่อ...อย่าทิ้งน้องหรือคิดทำให้น้องเสียใจเป็นอันขาด” คุณยายบุษบาฝากฝังหลานสะใภ้ไว้กับหลานชายในสายสายเลือด
“ผมสัญญาครับคุณยาย...ผมจะรักเจียวเพียงคนเดียวจะไม่ทำให้น้องต้องเสียใจและเสียน้ำตาแน่นอนครับ”
กิตติรักเปาวลีจนหมดหัวใจจึงมั่นใจได้ว่าในชีวิตนี้เขาไม่อาจปันใจไปรักใครได้อีกแน่นอน จึงเอ่ยเสียงหนักแน่นต่อหน้าคุณบุษบาและสุจี ซึ่งยิ่งตอกย้ำทำให้สุจีและคุณยายบุษบาดีใจเป็นอย่างมาก
“ยายไม่ต้องการให้พ่อเอ่ยคำมั่นสัญญาอะไร ยายแค่ให้พ่อซื่อสัตย์ต่อน้อง อย่าวอแวไปมีใหม่ วันไหนถ้าเกี๊ยทำให้น้องเสียใจ วันนั้น ยายจะไม่ยอมให้อภัยเกี๊ยเด็ดขาด”
เสียงของคุณยายบุษบาฟังดูไพเราะมาก แต่สำหรับกิตติ เมื่อได้ฟังแล้วกลับน่าเกรงขามจนขนบนกายทุกรูขุมขนลุกซู่
“ถึงผมจะไม่สัญญา...ผมก็ไม่มีวันนอกใจเจียวแน่นอนครับ”
กิตติขยับตัวเข้าใกล้คุณยายบุษบา เขาซบศีรษะลงบนหน้าตักของหญิงชรา
“เจียวก็เหมือนกัน ต่อไปนี้หนูไม่ใช่เด็กน้อยแล้วนะ หนูเป็นภรรยาพี่เขาแล้วต้องรู้จักปรนนิบัติเอาใจใส่สามี และเข้าใจเอาอกเอาใจพี่เขานะลูก” เมื่อคุณยายลูบศีรษะของหลานชายให้พรแล้วก็หันมาเปรยเสียงไพเราะกับหลานสะใภ้ มือของนางยื่นเข้าไปเชยปลายคางของหลานสะใภ้ให้แหงนหน้าสบตากันอีกครั้ง
“ค่ะ”
เปาวลีดวงหน้าแดงอมชมพู เธอยิ้มเขินอายเมื่อได้ยินคุณยายพูดคำว่าภรรยา หญิงสาวรีบก้มหน้าหลบสายตาของกิตติที่มองด้วยแววตาทะเล้นเจ้าเล่ห์
“ถ้าพี่เขาทำผิดเล็กๆ น้อยๆ เจียวก็อย่าเก็บเอามาคิดทำให้ชีวิตคู่ต้องมีเรื่องบาดหมางทะเลาะกันเลยนะ รู้ไหม การเป็นภรรยาที่ดี เราต้องเชื่อมั่นและเชื่อใจสามีนะลูก” คุณยายบุษบาตักเตือนหลานสะใภ้
“ค่ะ”
เปาวลีพร้อมที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ชีวิตคู่การแต่งงานของเธอมีความสุข หญิงสาวพร้อมที่จะเป็นช้างเท้าหลังคอยเดินตามและเชื่อฟังสามี จึงพยักหน้ารับฟังคำชี้แนะของคุณยายบุษบา
“ชีวิตคู่ บางครั้งอาจจะมีเรื่องที่ทำให้เราทะเลาะเบาะแว้งกันบ้าง ก็ให้นึกถึงลิ้นกับฟันที่กระทบกระทั่งกันบ้าง จะมากจะน้อยก็ขอให้หลานทั้งสองจงใช้สติคิดให้มากๆ และยึดมั่นคำสอนของผู้หลักผู้ใหญ่และมองความรักของหลานให้มากๆ อย่าใช้อารมณ์ชั่ววูบมาตัดสินเพียงแค่เรื่องไม่เป็นเรื่องนะ”
คุณยายบุษบาจับมือของหลานชายมากุมไว้ แล้วจับมือของหลานสะใภ้มากุมรวมไว้ที่มือของของนางจับกุมอยู่
“ค่ะ / ครับ”
กิตติขยับตัวเข้าไปนั่งข้างๆ เปาวลีแล้วพาน้องก้มลงกราบหลังเท้าของคุณยายบุษบา ซึ่งภาพของคนทั้งสองอยู่ในสายตาของสุจีที่นั่งน้ำตาซึม ซาบซึ้งดีใจในความรักความเอ็นดูที่คุณบุษบามอบให้ และคอยปกป้องลูกสาวของนาง
“พ่อเกี๊ย...น้าฝากยัยหนูของน้าให้เกี๊ยดูแลแทนน้าด้วยนะ น้องยังเด็ก อายุก็น้อย ถ้าน้องทำผิด ไม่เชื่อฟัง เกี๊ยก็ช่วยตักเตือนสอนน้องด้วยนะ” สุจีพูดเสียงสั่นเครือบอกลูกเขย
“เจียวเปรียบเสมือนดวงใจของผม...น้าสุอย่ากังวลเลยครับ...ผมจะดูแลน้องเท่าหัวใจของผม” กิตติไม่ได้เพียงแค่พูดเสียงหนักแน่น เขายังแสดงให้สุจีเห็นโดยการยกมือของเปาวลีขึ้นจูบเบาๆ ตรงหลังมือ
“น้ามีลูกสาวเพียงคนเดียว...น้องเปรียบเสมือนดวงใจของน้า ถ้าวันไหนพ่อเกี๊ยหมดรักน้อง ไม่ต้องการและไม่อยากดูแลน้อง ก็ให้พ่อบอกน้า และส่งน้องคืนให้น้านะ เกี๊ยอย่าเอาน้องไปทิ้งไปขว้าง ทำร้ายจิตใจน้องให้บอบช้ำนะพ่อ”
สุจีน้ำตาคลอมองลูกสาวและมองลูกเขย นางน้อยเนื้อต่ำใจในความจนต้องหาเช้ากินค่ำ นางไม่มีแม้แต่ของมีค่ารับขวัญลูกเขยเลย นอกจากคำพูดที่กลั่นออกมาจากหัวใจว่ารักลูกเขยเท่าๆ ที่นางรักลูกสาว
“น้าสุครับ...เจียวเป็นหัวใจของผม ถ้าวันไหนที่ผมไม่มีเจียวอยู่ข้างกายผม วันนั้นคือวันที่หัวใจของผมหยุดเต้นและผมได้ตายจากโลกนี้ไปแล้วครับ”
กิตติเอ่ยเสียงหนักแน่นเพิ่มความมั่นใจให้สุจีมากขึ้น เขาพาน้องก้มลงกราบเท้าของแม่ยาย
สุจียื่นมือลูบศีรษะลูกเขยอย่างเอ็นดูรักใคร่ แล้วนางก็อ้าแขนไว้รอให้ลูกสาวสุดดวงใจเข้ามาสู่อ้อมกอด
“เจียวลูกแม่”
“แม่ขา”
เปาวลีสะอื้นไห้ ร่างน้อยโผเข้าหาอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของมารดา ใบหน้าสวยมีคราบน้ำตาซบลงบนหน้าตักของแม่ แขนเรียวสวยก็กอดเอวท้วมของแม่ไว้ด้วยความรักเต็มหัวใจ
“เชื่อฟังพี่เขานะลูก อย่าทำตัวเป็นเด็กเอาแต่ใจตัวเอง อย่าดื้อกับพี่เขานะลูก ลูกแม่ต้องเป็นภรรยาที่ดี ใส่ใจพี่เขาให้มากๆ นะ”
