พันธะหัวใจ

122.0K · จบแล้ว
อังศุมาลินทร์ กังสดาล
80
บท
19.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

มันเป็นความผิดพลาด เป็นความเห็นแก่ตัวที่ทอดทิ้งเธอและลูกเมื่อสามปีก่อน…ณ วันนี้ที่รู้สึก…ยังคงรัก ยังคงโหยหาเธอทุกลมหายใจ เขาจึงยินยอมทุ่มเททุกอย่างเพื่อทวงคืนหัวใจตัวเองกลับคืนมาทว่า…“เจียวไม่ต้องการความรับผิดชอบของพี่” หญิงสาวยิ่งชอกช้ำหัวใจเมื่อได้ยินว่าเขาต้องการรับผิดชอบเพียงแค่ลูกเท่านั้น“ตอนนั้นพี่สับสน…พี่รู้ใจตัวเองช้าไปเลยบอกเจียวไปว่าพี่รักเขา แต่ในความรู้สึกลึกๆ พี่ไม่เคยรักเขาเลยสักนิดเดียว”“พี่ไม่ได้สับสนใจตัวเองหรอก พี่ตั้งใจอยากจะหย่านานแล้ว พี่ยังไม่มีความรู้สึกเสียใจด้วยซ้ำที่ขอหย่ากับเจียว” หญิงสาวมองเขาอย่างเย้ยหยัน ‘ผู้ชายสารเลว’ เธอพยายามนึกคำนี้ไว้ให้มั่น เพื่อกลบความรู้สึกข้างในลึกๆในหัวใจแม้จะเลิกรากันไปเนิ่นนานในความรู้สึกทุกอย่างจบสิ้นลง ณ วันนั้น ทว่า ราวกับมีบางสิ่งบางอย่างผูกรั้งให้เขาและเธอต้องกลับมาพบเจอกันอีกครั้ง…มันเป็นเหมือนพันธะ…พันธะที่ฝ่ายหนึ่งอยากตัดให้ขาด อีกฝ่ายกลับพยายามก่อร่าง ถักทอมันขึ้นให้แน่นเหนียวยิ่งกว่าเดิม…แล้วเช่นนี้ เรื่องราวจะลงเอยเช่นไรกันจะเจ็บปวด หรือสุขสมหวัง?

นิยายรักโรแมนติกนอกใจหนีแต่งงานดราม่าโรแมนติกนิยายปัจจุบันคนต่ำต้อย

บทที่1 ตอน "รักของพวกเขา" 1

ณ โรงเรียนลำปางวิทยาลัย...

เขา...‘กิตติ แซ่หวัง’ ชายหนุ่มรูปงามเชื้อสายจีนผสมไทยแท้วัยสามสิบสี่ปี ผิวสีแทน สูงร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร ความสมบูรณ์ของร่างกายทุกส่วนสัดเหมือนหุ่นรูปปั้นนั้นอยู่ในชุดเสื้อผ้าราคาแพง ซึ่งเป็นจุดสนใจและคุ้นเคยใครต่อใครที่เห็นชายหนุ่มอยู่ ณ จุดนี้เกือบทุกวัน

เด็กนักเรียนชายหญิงต่างพากันมองมาที่เขาและซุบซิบหัวเราะต่อกระซิกกัน ทำให้ชายหนุ่มที่ดูจะเป็นรุ่นลุงที่ยืนขาไขว้กันอยู่ข้างรถ (Mercedes-Benz-M-Class) สีดำเกิดอาการเก้อเขิน

แต่แล้วจู่ๆ ความประหม่าเขินอายของชายหนุ่มที่ดูอายุเยอะรุ่นลุงสำหรับเด็กวัยเรียนก็แปรเปลี่ยน ดวงตาสีเข้มที่เมื่อครู่เปล่งประกายทอแสงระยิบระยับนั้นกลับแดงก่ำ เกรี้ยวกราด มองร่างสาวน้อยในชุดนักเรียน ‘ม.6’ ที่เดินเคียงคู่มากับนักเรียนชาย

ความสนิทสนมของพวกเขาทั้งสองทำให้กิตติเกิดอาการหึงหวงของรัก เขาไม่ได้มองว่าในกลุ่มที่หญิงสาวอยู่นั้นก็มีเพื่อนผู้หญิงรุ่นเดียวเดินมาด้วยหลายคน

“เจียว!”

“พี่เกี๊ย”

เสียงตะคอกฟังดูบังคับเรียกชื่อเธอทำให้ ‘เปาวลี’ หยุดเดิน แล้วหันหลังไปมองรถที่ขับช้าๆ ตามหลังมา

“สวัสดีค่ะ” เปาวลียกมือไหว้เขา

“ขึ้นรถสิ!”

กิตติสีหน้าเริ่มเครียดหงุดหงิดหัวใจเมื่อเห็นภาพบาดตาบาดใจ เธอช่างกล้าเดินแนบชิดเคียงข้างกับเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาได้ยังไง

“สวัสดีค่ะพี่เกี๊ย” อรดีเป็นเพื่อนที่รู้ใจของเปาวลี เธอยกมือไหว้กิตติแล้วก็หันมาพูดแซว “แหม...ผู้ปกครองมารับก็รีบปลีกตัวไปเลยนะ”

“เราไปนะ” เปาวลีไม่พูดอะไรมาก เธอยกมือโบกลาเพื่อน

“เจอกันพรุ่งนี้นะเจียว” อรดียิ้มหยอกล้อเพื่อน

“พรุ่งนี้ให้เราไปรับไหมเจียว” อนลเพื่อนนักเรียนชายรุ่นเดียวกับเปาวลี เขาแอบรักเธอตั้งแต่อยู่ ‘ม.4’ เอ่ยถามก่อนที่เธอจะเดินไปเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับ

“นายจะตื่นแต่เช้าไปรับลูกปืนเหรอ นายดูหน้าผู้ปกครองจำเป็นของยัยเจียวหรือยัง ดูสิ หน้าบึ้ง หนวดกระตุกยิกๆ ไม่เห็นเหรอ”

อรดีสะกิดให้อนลดู แต่นั่นไม่ได้ทำให้เด็กหนุ่มสนใจที่จะมองกิตติที่นั่งหน้าเหี้ยมเกรียมอยู่ในรถแม้แต่น้อย

“อรก็พูดเกินไป...พี่เกี๊ย เขาใจดีจะตายไป” เปาวลียิ้มแห้งๆ เมื่อเหลือบตามองคนที่ถูกกล่าวหา เขานั่งทำหน้าดุอยู่ในรถจริงๆ ด้วยแหละ

“ตกลงพรุ่งนี้เช้า เจียวให้เราไปรับที่บ้านนะ”

อนลยิ่งถูกห้ามเหมือนยิ่งถูกยุ เขารุกหนักยิ่งขึ้น ถามพร้อมทั้งยื่นมือไปแตะข้อศอกของเปาวลี

“พี่บอกให้ขึ้นรถ!” ครั้งนี้กิตติเลือดขึ้นหน้าเมื่อเห็นไอ้เด็กนักเรียน ม.ปลายมันแตะต้องตัวหญิงสาว เขารีบเปิดประตูรถแล้วลงจากรถ ไม่พูดอะไรมาก มือใหญ่คว้าหมับที่ข้อมือบาง ฉุดเล็กน้อยพาหญิงสาวเดินอ้อมรถไปอีกฝั่ง แล้วรีบเปิดประตูรถ ดันร่างนุ่มนิ่มเหมือนปุยนุ่นเข้าไปนั่งบนเบาะรถ พร้อมทั้งช่วยหญิงสาวรัดเข็มขัดนิรภัยเสร็จสรรพ

“ทำไมกลับมาเร็วจังคะ” เมื่อเห็นชายหนุ่มขึ้นมานั่งบนรถฝั่งคนขับ หญิงสาวก็เปรยถามเขาเสียงหวาน

“ถ้าไม่รีบกลับมา...พี่คงไม่เห็นคู่หมั้นของตัวเองกำลังจะใช้มีดแทงหลังพี่” อกด้านซ้ายเจ็บหน่วงจี๊ดๆ กิตติยอมรับว่าเขาหวาดระแวง กลัวที่จะเสียหญิงสาวคนนั่งข้างๆ ไป

“พี่เกี๊ยพูดอะไร เจียวไม่เข้าใจ”

หญิงสาวแรกรุ่นวัยยี่สิบปี ‘เปาวลี แก้วศรี’ เธอเป็นเด็กกำพร้าพ่อตั้งแต่ตัวแดงๆ เกิดมาก็มีแต่แม่ และอยู่กันสองคนแม่ลูก

“ไอ้หมอนั่นมันรู้ไหมว่าเจียวมีคู่หมั้นและกำลังจะแต่งงานมีผัวแล้ว”

ยิ่งพูดยิ่งอารมณ์ขึ้น ชายหนุ่มมีอายุห่างกันสิบห้าปีกับเธอทำให้กิตติระแวงไปต่างๆ นานา เขากลัวที่สุดคือสาวน้อยหมดรักคนมีอายุเยอะกว่าอย่างเขา

“ทำไมพี่เกี๊ยพูดไม่เพราะเลยคะ” เปาวลีพูดเสียงงอนๆ เธอชักจะเริ่มโกรธชายหนุ่มที่ชอบหาเรื่องเธออยู่เรื่อย

“พี่ไม่อยากให้ไอ้หน้าอ่อนนั่นมายุ่งวุ่นวายกับคู่หมั้นของพี่”

กิตติพูดจริงจังโดยไม่ได้หันไปสนใจมองหน้าของเปาวลีที่เอียงหน้ามอง เขากลับสนใจที่จะตั้งหน้าตั้งตาขับรถออกไปจากรั้วโรงเรียนแห่งนี้

“อนลเป็นเพื่อนร่วมห้องเรียนค่ะ” เปาวลีพยายามอธิบายให้กิตติฟัง

“พี่ไม่ชอบให้เจียวให้ความสนิทสนมกับไอ้เด็กผู้ชายนั่น” เขาเอียงหน้ามองเสี้ยวหน้าของแฟนสาว ‘ไม่สิ’ เขาและเธอหมั้นกันแล้ว และเขาก็พร้อมที่จะแต่งงานกับเธอหลังจากเปาวลีเรียนจบ