ตอนที่3 หนี
เอวา
“คนที่เขาไม่เห็นค่าเรา เราก็อย่าไปให้ค่ากับเขาเลยลูก” เสียงแม่ฉันพูดออกมาอย่างให้กำลังใจ พอดีฉันกลับมาหาแม่ที่บ้านพร้อมกับเล่าเรื่องของฉันกับฟิล์มให้ท่านฟัง
“ค่ะ วาไม่เป็นไรแล้ว อย่างน้อยมันก็ทำให้วาได้รู้ว่าคนเราต่อให้คบกันนานแค่ไหนก็หาความมั่นใจอะไรต่อกันไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็น” ฉันตอบแม่ออกไปด้วยรอยยิ้ม
ถึงแม้ว่าตอนนี้แผลที่ใจจะยังไม่หายดีและยังสดอยู่ แต่พอได้มาเห็นรอยยิ้มกับคำปลอบโยนของแม่แล้ว มันก็ทำให้ฉันเข้มแข็งขึ้นได้ไม่ยาก
“ลูกแม่เก่งที่สุด” แม่บอกเชิงหยอกล้อพร้อมกับดึงฉันไปกอด
“เก่งเหมือนแม่ไงคะ” ฟอด! ฉันตอบก่อนจะหอมแก้มแม่ที่รัก
ตั้งแต่พ่อเสียไปตอนฉันอยู่ในท้อง แม่ก็เป็นคนเดียวที่ฉันมีตลอดจนโต และเป็นกำลังใจเดียวของฉันด้วย
“ไปพักผ่อนหน่อยก็ดีนะลูก ช่วงนี้งานหนูเรียบร้อยดีไม่ใช่เหรอ”
“ก็ดีเหมือนกันนะคะ แม่ไปกับวาไหม”
“แม่คงไปไม่ได้หรอก พอดีแม่นัดกับป้านิดไปปฏิบัติธรรม” ซึ่งกิจกรรมประจำของแม่ฉันก็คือเดินสายทำบุญปฎิบัติธรรมตามประสาคนเริ่มมีอายุ และท่านก็เหงาที่อยู่บ้านคนเดียว
“เสียดายจัง” ถึงแม้จะเสียดาย แต่ฉันก็จะไม่ทำตัวเป็นมารไปขัดความดีของแม่หรอกนะ
“หนูไปคนเดียวเถอะ จะได้มีเวลาอยู่กับตัวเองทบทวนอะไรหลายๆ อย่างด้วย” ซึ่งแน่นอนว่าท่านไม่ต้องห่วงเรื่องการไปไหนทำอะไรคนเดียวของฉันอยู่แล้ว
ก็อย่างที่บอกว่าแม่เลี้ยงฉันมาคนเดียว ท่านเลี้ยงมาแบบเข้มแข็ง ช่วยเหลือตัวเองได้ ทำให้ฉันทำอะไรเองคนเดียวประจำ แม้แต่ตอนมีแฟนก็ตาม
“ค่ะ” ฉันตอบแม่ด้วยรอยยิ้มก่อนจะทิ้งตัวลงนอนหนุนตักของแม่
ธันวา
“ทุกอย่างพร้อมแล้วครับ” เรย์เดินมาบอกผมเมื่อถึงเวลา
“อืม รีบไปกันเถอะ” ผมพูดก่อนจะวางแก้วกาแฟตรงหน้าเดินออกจากบ้านเพื่อไปขึ้นรถ
แต่ยังไม่ทันได้ขึ้นรถก็มีรถตู้หรูสีดำขับเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังรถของผม ทำให้ผมถอนหายใจด้วยความเบื่อทันที
“คิดว่าจะหนีแม่ได้เหรอตาธัน” เสียงดุของหญิงวัยกลางคนเอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจ
“ผมไม่ได้หนีครับ แค่จะไปทำงาน” ผมตอบแม่ตัวเองออกไปด้วยความเซ็ง
“แกคิดว่าแม่โง่ไม่ทันแกเหรอ” แม่แย้งกลับมาทันที
“ผมไม่ได้คิด ผมไปทำงานจริงๆ” ผมยังยืนยันคำเดิมก่อนจะเดินไปขึ้นรถ แต่เสียงแม่ก็ดังแทรกขึ้นมาก่อน
แต่ผมไม่สนใจจะฟังและขึ้นมานั่งในรถเหมือนเดิม
“อย่าคิดว่าแกจะหนีแม่พ้นนะ แม่บอกไว้ก่อนว่ายังไงแกก็ไม่มีทางหนีเรื่องนี้พ้นแน่!” แม่สั่งออกมาเสียงเด็ดขาด ก่อนเรย์จะขึ้นมาตามและขับออกไป
“เฮ้อ!” ผมถอนหายใจออกมารอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ รู้แต่ว่าผมถอนมันทุกวัน
ตอนนี้ผมเบื่อจนอยากจะหนีไปให้ไกล ใครว่าเป็นลูกคนเดียวแล้วมีทุกอย่างพร้อมจะสบาย เหอะ!
ถ้าเลือกได้ผมขอมีพี่หรือน้องอีกคนดีกว่า เรื่องทุกอย่างจะได้ไม่ต้องมาตกอยู่ที่ผมคนเดียว โดยเฉพาะเรื่องแต่งงาน
ฟังไม่ผิดหรอก เรื่องที่ทำให้ผมต้องถอนหายใจแทบทุกวันแบบนี้เป็นเรื่องแต่งงานนั่นแหละ ก็อย่างว่าตอนนี้อายุผมเข้าสามสืบปีแล้ว พ่อแม่ก็เริ่มแก่ขึ้น ท่านทั้งสองอยากเห็นผมมีครอบครัว อยากอุ้มหลานและแน่ใจว่าจะมีทายาทมาสืบต่อทุกๆ อย่างจากผมท่านจะได้หายห่วง ก็เลยมาเร่งให้ผมแต่งงานภายในปีนี้ให้ได้
และให้โอกาสผมหาคนรักเอง แต่ผมบอกแล้วว่าผมไม่คิดจะมีใครอีก และนั่นก็ทำให้พ่อแม่หาผู้หญิงมาให้ผมเรื่อยๆ พวกลูกหลานเพื่อนของท่านนั่นแหละ ทั้งให้ผมออกไปดูตัว แล้วพอผมไม่ไปตามนัดครั้งต่อไปแม่ผมก็อัพเลเวลโดยการให้ผู้หญิงพวกนั้นไปหาผมที่ทำงานบ้าง ที่บ้านบ้าง มันยิ่งทำให้ผมเบื่อมาก จนตอนนี้ผมตัดปัญหาหนีไปดูงานที่เกาะแห่งหนึ่งที่มีโรงแรมผมอยู่ที่นั่น
“นายจะทำยังไงกับเรื่องนี้ครับ” เรย์ถาม
“หนีไปเรื่อยๆ แบบนี้จนกว่าจะหนีไม่ได้” ไว้ถึงเวลาที่จนตัวจริงๆ ผมค่อยยอมรับเรื่องนี้ก็แล้วกัน
แต่ตอนนี้ยังมีโอกาสหนีได้เลี่ยงได้ ผมก็ต้องใช้มันให้คุ้ม เพราะผมรู้ว่าพ่อแม่ผมต้องมีเหตุผลร้อยแปดมาทำให้ผมยอมจนได้สักวัน