บท
ตั้งค่า

บทที่4 ยื่นคำขาด

ปัจจุบัน..

หลังจากฟังแฟนสาวเล่าจบอลินดาก็มีสีหน้าตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด จิตใจเหม่อลอยราวกับกำลังใช้ความคิดอย่างหนักหน่วง ใช่เธอกำลังคิดว่าจะทำยังไงดีกับเรื่องนี้ ขณะเดียวกันก็นึกสงสารตัวเองและแฟนสาวที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้

“เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมไม่บอกเค้าตั้งแต่วันแรก ทำไมต้องเก็บความเครียดไว้คนเดียว” เธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนดึงสติตัวเองกลับมา แล้วเอื้อนเอ่ยกับแฟนสาวอย่างตัดพ้อ “เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไม่เธอไม่บอกเค้าเลย ทำไมต้องเก็บความเครียดเอาไว้คนเดียว นี่ถ้าเค้าไม่เค้นเอาคำตอบเธอก็คงปิดไปเรื่อย ๆ ใช่ไหม”

“เค้าขอโทษ ที่ไม่บอกเพราะเค้าไม่อยากให้เธอเครียดไปด้วยไง อย่างอนเค้าเลยนะ” เห็นสายตาเศร้าและได้ยินคำตัดพ้อของสาวคนรักโยษิตาพลันรู้สึกผิดขึ้นมาทันใด รีบขอโทษยกใหญ่พร้อมกับยื่นมือไปกอบกุมมือคนรักไว้แน่น “อย่างอนเค้าเลยนะที่เค้าทำไปเพราะรักเธอ ไม่อยากให้เธอเครียด”

“เค้าไม่งอนหรอกแค่น้อยใจนิดหน่อย ทีหลังมีอะไรต้องรีบบอกเลยนะเราเป็นคนรักกันมีอะไรก็ต้องช่วยกันสิ เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกันนะ” อลินดารีบเปลี่ยนอารมณ์เมื่อเห็นสีหน้าสลดของแฟนสาวลำพังแฟนสาวแบกรับเรื่องที่บ้านมันก็หนักมากแล้วไม่อยากเพิ่มเรื่องไม่สบายใจให้แฟนสาวอีก ในเวลาเธอต้องจับมือแฟนสาวให้แน่นแล้วคิดแก้ปัญหาต่างหาก

“ขอบคุณที่ไม่งอนเค้านะ และอยู่เคียงข้างเค้ามาตลอด” โยษิตาส่งยิ้มอ่อน ๆ ให้สาวคนรักจากที่เครียด ๆ ก็รู้สึกเบาลงบ้างอย่างน้อยตอนนี้เธอก็รู้แล้วว่าไม่ได้สู้คนเดียวแต่ยังมีคนที่รักสู้เคียงข้าง ทว่าเพียงเสี้ยวนาทีอารมณ์ของเธอก็กลับมาหม่นหมองอีกครั้งเมื่อนึกอะไรบางอย่างได้ ก่อนจะเอ่ยกับสาวคนรักอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเศร้า

“แต่หลังจากนี้เราคงจะใช้ชีวิตกันลำบากมากขึ้น เพราะด้วยนิสัยของแด๊ดแล้วเค้าคิดว่าแด๊ดคงให้คนตามสืบแน่ ๆ ว่าแฟนเค้าเป็นใคร”

“หรือเราบอกความจริงกับทุกคนดี บอกว่าเรารักกัน” สิ้นเสียงแฟนสาวอลินดาก็โพลงขึ้นมา ตอนนี้เธอคิดอะไรไม่ออกจริง ๆ จึงได้เอ่ยประโยคสิ้นคิดนี้ออกมาทั้งที่รู้เต็มอกว่าทั้งครอบครัวเธอกับแฟนสาวไม่มีทางยอมรับ เพราะเธอกับแฟนสาวต่างเคยพูดเกริ่น ๆ เรื่องรักร่วมเพศกับครอบครัวแล้วปฏิกิริยาตอบกลับคือทุกคนรับไม่ได้

“ข้อนี้ไม่ได้แน่ ๆ เธอไม่รู้หรอกว่าแด๊ดกับพี่แทนโหดขนาดไหน พวกเขามีอำนาจมากพอที่จะทำให้คนคนหนึ่งหายสาบสูญไปได้ตลอดกาลเลยนะ ทุกอย่างมันแย่กว่าที่เธอคิดอีกนะ” โยษิตารีบห้ามความคิดสาวคนรักเพราะเธอรู้ถึงผลที่จะตามมาดี ตระกูลของเธอเป็นตระกูลมาเฟียเรื่องอำนาจและอิทธิพลไม่ต้องพูดถึงอย่างที่เธอบอกสาวคนรักไป

ยิ่งเรื่องความโหดเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาเธอมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนพ่อ และพี่ชายของเธอสามารถฆ่าคนได้เหมือนผักเหมือนปลาเพียงแค่คนคนนั้นขัดผลประโยชน์ หรือทำอะไรให้ไม่พอใจ

“โอเคเค้าจะไม่บอกใคร เรื่องระหว่างเราจะเป็นความลับตลอดไป แค่เค้าได้อยู่กับเธอแบบนี้ไปเรื่อย ๆ มันก็มีความสุขมากแล้ว” อลินดาเข้าใจโดยง่ายเพราะเธอก็พอรู้ถึงความเป็นมาของครอบครัวแฟนสาวอยู่บ้างว่าพ่อของแฟนสาวเป็นมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลของประเทศเลยก็ว่าได้ และพี่ชายของแฟนสาวก็กำลังจะขึ้นมารับตำแหน่งต่อจากผู้เป็นพ่อในอีกไม่นาน

“ขอบคุณที่เธอเข้าใจเค้านะ เค้ารักเธอมากนะ” โยษิตาระบายยิ้มให้สาวคนรักบาง ๆ สายตาจ้องมองใบหน้าเรียวด้วยความรู้สึกเศร้าหมอง หลังจากนี้เธอคงแสดงความรักต่อคนรักได้ไม่เต็มที่แล้วเพราะต้องป้องกันไว้ก่อน “หลังจากนี้เราคงแสดงอะไรออกไปมากไม่ได้แล้วเดี๋ยวคนอื่นจะจับพพิรุธได้ว่าเราไม่ได้เป็นแค่เพื่อน”

“ไม่เป็นไรหรอกเค้าเข้าใจ ช่วงนี้พวกเราห่าง ๆ กันก่อนก็ได้ จะได้ไม่ต้องเป็นที่จับตามองของคนที่บ้านเธอมากนัก” แน่นอนว่าอลินดาเข้าใจดีพยักหน้ารับคำแฟนสาวอย่างว่าง่ายแม้ในใจจะไม่อยากทำก็ตาม

ทั้งสองต่างมองสบสายตากันนิ่ง ๆ ส่งผ่านความรู้สึกมากมายที่ท่วมท้นอยู่ในอก ก่อนอลินดาจะเอ่ยปลอบใจแฟนสาว “ถอยครั้งนี้ก็เพื่อรักษาความสัมพันธ์ของเรานะ ปิดมาได้ตั้งเก้าปีปิดต่อไปก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร เราเป็นผู้หญิงด้วยกันทั้งคู่ต่อให้เก่งขนาดไหนก็ไม่มีทางรู้ความจริงได้ง่ายขนาดนั้นหรอก ถ้าเราสองคนต่างก็ไม่มีใครปริปากพูดออกไป”

“เอาแบบนั้นก็ได้...แต่ว่าเค้าก็ไม่อยากให้มันต้องหลบๆ ซ่อน จนเราไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่ดี เอาเป็นว่าแค่มาเจอกันให้น้อยลงหน่อย แต่ทุกอย่างยังเหมือนเดิม โอเคไหม?”

ทั้งสองตกลงปลงใจกันอยู่สักพักว่าควรจะทำอย่างไรกับปัญหานี้ดี ก่อนจะได้ข้อสรุปว่าพวกเธอจำเป็นที่จะต้องออกมาเจอกันให้น้อยลงกว่าเดิม เพราะต้องทำให้ที่บ้านของโยษิตาตายใจเสียก่อนว่าเธอไม่ได้มีความสัมผัสที่ลึกซึ้งกับใคร ไม่อย่างนั้นอลินดาอาจจะเดือดร้อนเอาได้ อีกอย่างโยษิตาก็จำเป็นที่จะต้องต่อกรกับผู้เป็นพ่อเกี่ยวกับเรื่องงานแต่งงานอะไรนั่นก่อน เมื่อไหร่ที่สถานการณ์กลับมาเป็นปกติจึงจะค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง...

วันนี้เป็นวันที่ทั้งสองร่ำลากันนานกว่าปกติ อาจเป็นเพราะรู้ว่าจะไม่ได้เจอหน้ากันแบบนี้อีกสักพักใหญ่ ๆ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเธอก็เข้าใจในเหตุผลดี ต่างฝ่ายก็ต่างเต็มใจที่จะหาทางออกของปัญหานี้ร่วมกัน

โยษิตากลับมาที่บ้านด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ทว่าวินาทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในบ้านจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังสวนขึ้นมาจนสามารถดึงความสนใจของเธอได้ในทันที

“ไปไหนมา?” นั่นเป็นเสียงของแทนไท เขายืนกอดอกรอน้องสาวกลับบ้านมาตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสองโมง ซึ่งผ่านมาหลายชั่วโมงจนน่าสงสัย แค่ออกไปทานข้าวกับเพื่อน ไม่น่าจะนานได้ถึงขนาดนี้

“ก็ไปกินข้าวกับเพื่อนไงคะ เมื่อเช้าพี่แทนก็ถามหยกแล้วไม่ใช่รึคะ”

“ที่มากกว่าไปกินข้าวกับเพื่อนน่ะ ไปไหนมาเหรอ?”

“ก็ไม่มีนี่คะ ไปกินข้าวเฉย ๆ ไม่ได้ไปไหนทั้งนั้นค่ะ” โยษิตายังคงยืนยันคำเดิม แม้ว่าพี่ชายจะตั้งคำถามกลับมาอย่างไม่หยุดหย่อน เธอรู้อยู่แก่ใจว่าการที่แทนไทหันมาสนใจเรื่องของเธอ ต้องเป็นคำสั่งของมาคัลอย่างแน่นอน

“แล้วเพื่อนนี่คนไหน พี่รู้จักหรือเปล่า”

“ก็อลินไงคะ คนที่หยกเคยพามาที่บ้าน”

“คนนั้นน่ะเหรอ สนิทกันมากเลยใช่ไหม?” คำถามดังกล่าวทำเอาผู้ฟังถึงกับชะงักงันด้วยกลัวว่าพี่ชายจะรู้ความจริงแล้วเอาไปรายงานพ่อจนเกิดเป็นปัญหาใหญ่เข้า เธอกลัวเหลือเกิน...

“ก็ในระดับหนึ่งแหละค่ะ พี่แทนมีอะไรหรือเปล่าคะปกติไม่เห็นจะสนใจเรื่องเพื่อนหยกเลย ตอนนี้ ทำไมอยู่ ๆ ถึงได้อยากรู้นู่นอย่างรู้นี่ไปหมดเลยล่ะคะ”

“พี่แค่แปลกใจว่าทำไมหยกถึงกล้าปฏิเสธความต้องการของพ่อได้อย่างเต็มปากเต็มคำขนาดนั้น ทีแรกแค่ปฏิเสธก็ไม่ได้แปลกใจเท่ากับเหตุผลที่หยกบอกไว้หรอกนะ ผู้ชายตคนนั้นเป็นใคร บอกพี่มาดี ๆ แล้วพี่จะไม่มายุ่มย่ามอะไรกับเราอีก”

“หยกไม่เชื่อหรอกค่ะว่าถ้าหยอกบอกพี่แทนไปแล้วพี่แทนจะไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายเรื่องนี้ หยกไม่อยากให้เขาต้องมาเหนื่อยใจกับบ้านเรา ลำพังแค่หยกคนเดียวก็มากพอแล้วค่ะ” โยษิตาเริ่มรู้สึกไม่พอใจ เมื่อเห็นว่าแทนไทพยายามที่จะถามถึงคนรักของเธอ เธอจำได้ดีว่าวันนั้นบอกไปอย่างชัดเจนแล้วว่าเมื่อไหร่ที่พร้อมเธอจะบอกเอง ไม่ได้ต้องการให้ใครมาคาดคั้นเอาคำตอบจากของเธอแบบนี้เลย

ไม่ใช่ว่าโยษิตาจะรู้สึกไม่พอใจอยู่คนเดียวแทนไทเองก็เริ่มไม่สบอารมณ์กับน้องสาวแล้วกับความปากแข็งของเธอ เมื่อพูดกันดี ๆ ไม่ได้เขาจึงยื่นคำขาดไปหวังว่าจะใช้ได้ผลกับน้องสาว “งั้นหยกก็เลือกเอาก็แล้วกันนะว่าจะบอกพี่มาดี ๆ หรือว่าจะให้พี่ตามสืบแล้วรู้เรื่องด้วยตัวเอง ถึงวันนั้นจะเกิดอะไรขึ้นหยกคงรู้ดี ยังไม่ต้องตอบตอนนี้ก็ได้เก็บเอาไปคิด แล้วเลือกให้ได้ว่าจะเอายังไง หวังว่าจะได้คำตอบเร็ว ๆ นี้นะ พี่ไม่อยากเสียเวลารอนาน...”

โยษิตาถึงกับน้ำตาคลอเบ้านึกผิดหวังในตัวคนเป็นพี่ชายยิ่งนักเพราะที่ผ่านมาเขาเป็นคนที่คอยปกป้องเธอมาตลอด ทว่าวันนี้เขากับเป็นที่กำลังจะพังความรักของเธอลงกับมือ

“พี่แทนใจร้าย!” เธอตะเบ็งเสียงต่อว่าคนเป็นพี่ชายดังลั่น ก่อนจะรีบเดินกึ่งวิ่งขึ้นห้องนอนตัวเองไปทิ้งให้คนเป็นพี่ชายอย่างแทนไทมองตามหลังด้วยความอ่อนใจ

 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel