บท
ตั้งค่า

บทที่3 บังคับแต่งงาน

สองวันก่อนหน้านี้...

ก๊อก ก๊อก...

“คุณหยกคะ คุณผู้ชายเรียกพบที่ห้องทำงานค่ะบอกว่าให้ไปพบท่านเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” เสียงเคาะประตูดังขึ้นตามด้วยเสียงสาวใช้ที่ได้รับคำสั่งมาจากผู้เป็นนายดังขึ้นที่บริเวณหน้าห้องของโยษิตา

“ค่ะ เดี๋ยวหยกตามลงไปค่ะ” โยษิตาขานรับ ก่อนจะรีบแต่งตัวแล้วรีบออกไปหาพ่อที่ห้องทำงานอย่างรวดเร็ว

เมื่อมาถึงห้องทำงานของผู้เป็นพ่อเธอก็พบกับแทนไทผู้เป็นพี่ชายนั่งอยู่ด้วยที่โซฟา ส่วนผู้เป็นพ่อนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน บรรยากาศภายในห้องดูตึงเครียด และอึมครึมกว่าทุกครั้งที่เธอเข้ามาราวกับว่ากำลังมีเรื่องเครียดกันอยู่ยังไงยังงั้น

“แด๊ดมีอะไรจะคุยกับหยกเหรอคะถึงได้เรียกพบด่วนขนาดนี้” เธอมองหน้าพี่ชายกับพ่อสลับไปมาครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามไป ในใจก็ภาวนาขอให้การที่ผู้เป็นพ่อเรียกมาพบในครั้งนี้เป็นเรื่องดี ๆ ไม่ใช่เรื่องร้าย

“นั่งลงก่อนสิ” มาคัลมาเฟียรุ่นใหญ่ไม่ได้ตอบคำถามบุตรสาว แต่ส่งสายตาบอกให้เธอมานั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่หน้าโต๊ะทำงานแทน ซึ่งโยษิตาทำได้เพียงพยักหน้ารับแล้วเดินไปนั่งลงอย่างว่าง่าย

“เมื่อวันก่อนฉันไปเจอเจคมาเขาเป็นมาเฟียเบอร์ต้น ๆ ที่อิตาลี แต่แกคงไม่รู้จักเห็นว่าเขามีลูกชายด้วยหน้าตาหล่อเหลาเอาเรื่อง แถมยังการศึกษาดี ทำงานเก่งที่สำคัญกำลังขึ้นรับตำแหน่งประมุขของแก็งค์พยัคฆ์ดำในอีกไม่กี่วันถ้าหากได้เขามาร่วมมือกับเราคงดีไม่น้อย” ทันทีที่บุตรสาวนั่งลงมาคัลก็เริ่มเกริ่นไม่ปล่อยให้เวลาเดินไปโดยไร้ประโยชน์

ขณะที่คนฟังอย่างโยษิตาขมวดคิ้วเป็นปม สายตาจ้องมองหน้าผู้เป็นพ่ออย่างไม่เข้าใจ เธอยังไม่เข้าใจว่าที่ท่านพูดอยู่ตอนนี้กำลังจะสื่อถึงอะไรกันแน่ แต่มีอยู่คนหนึ่งที่รู้ซึ้งถึงเจตนาของมาคัลได้ในทันทีนั่นก็คือ แทนไท พี่ชายของโยษิตา ทว่าถึงจะรู้เขาก็พูดอะไรไม่ได้อยู่ดีเพราะรู้นิสัยผู้เป็นพ่อดีทำได้เพียงนั่งดูสถานการณ์ไปเงียบ ๆ

“แล้วพ่อจะมาเล่าให้หยกฟังทำไมคะ ยังไงหยกก็ไม่รู้จักพวกเขาอยู่แล้ว” โยษิตาเอ่ยถามไปทันทีที่ผู้เป็นพ่อพูดจบเพราะเธอไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าท่านต้องการสื่ออะไร ในขณะที่แทนไทถอนหายใจทิ้งไปไม่รู้กี่ทีเพราะถึงขนาดนี้แล้วน้องสาวกลับยังไม่เข้าใจในสิ่งที่ผู้เป็นพ่อปรารถนาอีก

“ฉันต้องการให้แกแต่งกับลูกชายเจค อีกอย่างแกก็เคยเจอกับพี่เขาแล้วคนที่เข้าไปประคองตอนแกกำลังสะดุดชายกระโปรงตัวเองล้มไงจำได้ไหม คนนั้นแหละเควินลูกชายเจค”

“อะไรนะคะ” สิ้นเสียงผู้เป็นพ่อโยษิตาถึงกับเบิกตากว้างลุกขึ้นยืนพรวดด้วยตกกับสิ่งที่ได้ยินผู้เป็นพ่อจะบังคับให้เธอแต่งงานอย่างนั้นเหรอ คำถามนี้ลอยวนอยู่ในโสตประสาทซ้ำ ๆ

“ไม่ค่ะ หยกไม่มีทางแต่งงานกับเขา และไม่ว่าจะกับใครหยกก็จะไม่แต่ง” ครั้นตั้งสติได้เธอปฏิเสธออกไปทันทีโดยไม่ต้องคิดไตร่ตรองอะไรสักนิด หัวเด็ดตีนขาดยังไงเธอก็ไม่แต่งเด็ดขาดต่อให้ต้องขัดกับผู้เป็นพ่อก็ตาม

“ทำไม?” แน่นอนว่ามาคัลไม่พอใจกับคำตอบของบุตรสาวมากกดเสียงถามออกไปด้วยสีหน้าแววตาดุดันเชิงบอกให้บุตรสาวรู้ว่ากำลังทำให้เขาไม่พอใจอยู่

“หยกแค่ไม่อยากแต่งกับใครก็แค่นั้นเองค่ะ หยกไม่พร้อม...” โยษิตารู้ว่าผู้เป็นพ่อโกรธแน่ ๆ บอกตามตรงว่ารู้สึกหวั่นใจอยู่เหมือนกันเพราะรู้ดีว่าตอนท่านโกรธน่ากลัวแค่ไหน แต่ถ้าเธอยอมแล้วความรักระหว่างเธอกับอลินดาล่ะจึงทำใจดีสู้เสือยืนยันคำเดิมว่าไม่แต่งโดยอ้างว่าไม่พร้อมได้แต่หวังว่าผู้เป็นพ่อจะเข้าใจ

“ฉันไม่สนว่าแกพร้อมไม่พร้อมยังไงแกก็ต้องแต่งกับเควิน เพราะฉันกับเจคได้คุยกันแล้วว่าจะให้ลูก ๆ แต่งงานกัน และดูเหมือนเควินเขาจะชอบแกด้วยแต่ง ๆ แล้วอยู่ ๆ กันไปเดี๋ยวก็รักเอง”

“แด๊ด..” ทว่าคำตอบที่ได้รับกลับทำให้เธอพูดไม่ออกน้ำตาพลันคลอเบ้าอย่างห้ามไม่ได้ ท่านพูดออกมาได้อย่างง่ายดายว่าแต่ง ๆ กันไปเดี๋ยวก็รักกันเองโดยไม่สนใจถึงความรู้สึกของเธอสักนิด

ที่ผ่านมาเธอเชื่อฟังผู้เป็นพ่อมาตลอดแต่ครั้งนี้เธอยอมมาได้จริง ๆ แม้รู้สึกผิดหวังในตัวผู้เป็นพ่อแค่ไหนเธอก็พยายามเก็บความรู้สึกเอาไว้ สูดลมหายใจเข้าปอดพรืดใหญ่เรียกความมั่นใจให้ตัวเองแล้วเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเชิงบอกให้ผู้เป็นพ่อรู้ว่าเธอจะไม่ยอมทำตามคำสั่งท่านเด็ดขาด “หยกจะไม่มีวันแต่งงานกับใครก็ไม่รู้ที่หยกไม่ได้รัก นิสัยใจคอเป็นยังไงหยกยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ”

“ความรักมันกินไม่ได้แกอย่าโลกสวยหน่อยเลย แกเป็นลูกสาวมาเฟียจะมาคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องแบบนี้ไม่ได้จำไว้ว่าผลประโยชน์ต้องมาก่อน”

แต่ดูเหมอนพ่อของเธอจะไม่ยอมฟังเหตุผลอะไรเลยดึงดันจะให้เธอแต่งงานกับเควินให้ได้ เมื่อจนปัญญาเธอจึงเอ่ยในสิ่งที่ไม่เคยคิดจะเอ่ยให้คนในครอบครัวรู้ออกไป หวังว่ารูแบบนี้แล้วผู้เป็นพ่อจะยอมหยุด “แล้วถ้าหยกบอกว่าหยกมีคนรักอยู่แล้วล่ะคะ แด๊ดยังจะบังคับหยกไหม”

“ใคร ทำไมพี่ไม่เห็นเคยรู้มาก่อน” แทนไทที่ฟังสองพ่อลูกคุยกันเงียบ ๆ ถึงกับต้องร่วมวงสนทนาด้วยทันทีที่น้องสาวบอกเหตุผลที่ทำให้เธอแต่งงานคนอื่นไม่ได้ออกมา มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกมากทำไมเรื่องน้องสาวมีแฟนเขากับมาคัลถึงไม่เคยรู้เลยทั้งที่คอยให้คนตามสอดส่องพฤติกรรมน้องสาวอยู่ตลอดเพราะมาคัลค่อนข้างหวงบุตรสาวมากไม่ว่าจะทำอะไร หรือสนิทกับใครคนในครอบครัวก็ต้องรับรู้

ที่ผ่านมาเขาไม่เคยเห็น หรือได้ยินลูกน้องที่ให้คอยตามสอดส่องน้องสาวบอกเลยว่ามีผู้ชายเข้ามาป้วนเปี้ยนกับน้องสาวจะมีก็แต่เพื่อนผู้หญิงที่ชื่อว่าอลินดา ซึ่งน้องสาวของเขาก็เคยพามาเที่ยวที่บ้านแล้ว

“ไว้ถ้าหยกพร้อมจะบอกนะคะ” โยษิตาเลือกไม่ตอบคำถามพี่ชายจะให้เธอบอกได้ยังไงกันว่าแฟนเธอคืออลินดาซึ่งเป็นผู้หญิง หากพ่อกับพี่ชายรู้เข้าเกรงว่าเรื่องมันจะแย่ลงกว่าเดิมเพราะทั้งสองคงไม่ให้เธอคบกับเพศเดียวกัน เอ่ยกับพี่ชายจบเธอก็หันไปเอ่ยกับผู้เป็นพ่อต่อ “นี่คือเหตุผลที่หยกทำตามความต้องการของแด๊ดไม่ได้ หวังว่าแด๊ดคงเข้าใจ และไม่บังคับหยกให้ทำอะไรแบบนั้นอีกนะคะ”

“ก็ได้ แด๊ดจะไม่บังคับ แต่แกต้องบอกมาก่อนว่าแฟนแกเป็นใคร มาจากไหน และเป็นลูกเต้าเหล่าใคร” มาคัลทำท่าทีอ่อนลงเหมือนยอมแต่ความจริงต้องการหลอกถามเท่านั้นว่าแฟนบุตรสาวเป็นใครเพื่อที่เขาจะได้กำจัดไปให้พ้นทาง

“แฟนหยกอยู่ต่างประเทศค่ะ ไว้เขากลับไทยเมื่อไรหยกจะพามาไหว้แด๊ดแล้วกันนะคะ ยังไงหยกขอตัวก่อน” โยษิตาพูดโกหกไปเพราะไม่ต้องการให้พ่อกับพี่ชายรู้ว่าแฟนจริง ๆ ของเธอเป็นใคร ว่าจบก็รีบเดินหนีออกจากห้องทำงานของผู้เป็นพ่อไปทันที กลัวว่าอยู่ต่อไปจะถูกกดดันให้พูดความจริง แล้วสุดท้ายก็ไม่มีใครยอมรับความจริงในสิ่งที่เธอเป็นได้ เธอยังไม่อยากมีปัญหาใหญ่ไปกว่านี้

“ส่งคนไปตามสืบมาให้แด๊ดหน่อยแทนว่าแฟนของน้องสาวแกเป็นใคร ยิ่งรู้เร็วเท่าไรยิ่งดี” หลังจากบุตรสาวหายหลังไปมาคัลก็หันไปเอ่ยกับบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนที่เขากำลังจะยกตำแหน่งประมุขของแก็งค์มังกรทองให้ในอีกไม้กีวันข้างหน้าด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ครับ” แทนไทชายหนุ่มวัยสามสิบพยักหน้ารับคำสั่งของผู้เป็นพ่อด้วยท่าทางนิ่งสงบ สวนทางกลับสมองที่คิดหนักไม่น้อยกับเรื่องที่ได้รับมอบหมาย คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรู้ว่าแฟนน้องสาวเป็นใครเพราะน้องสาวปกปิดเรื่องแฟนจากสายตาของลูกน้องที่เขาคอยให้ตามสอดส่องได้อย่างไม่มีพิรุธอะไรเลย แล้วคิดเหรอว่าเธอจะยอมให้ใครล้วงรู้ง่าย ๆ ยิ่งในตอนนี้แล้วด้วยน้องสาวเขาระวังยิ่งกว่าเก่า

 

 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel