ตอนที่7 ดื้อด้าน
ตอนที่7 ดื้อด้าน
“โอ๊ยยยย”แก้มใสร้องเจ็บเมื่อถูกรุ่นพี่หนุ่มลากเธอมาที่รถ คนตัวเล็กไม่ยอมขึ้นรถไปกับเขาง่ายๆ เธอทั้งดีดดิ้นทั้งสะบัดตัวหนีแต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อชายหนุ่มยังคงผลักเธอเข้าไปในรถจนได้
“พี่จะพาแก้มไปไหน แก้มไม่ไป”
“เรามีเรื่องต้องคุยกันแก้มใส”
“ไม่มีอะไรต้องคุย”เธอไม่มีอะไรต้องคุยกับเขาอีกแล้ว ผู้ชายแบบนี้เธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วย นึกถึงคำพูดมากมายแต่การกระทำของเขาที่ผ่านมาคือแทบไม่มีเรื่องไหนจริงเลย เขาโกหกเธอมาโดยตลอดผู้ชายแบบนี้เธอไม่อยากข้องเกี่ยวด้วย
“แต่ฉันมี”พูดจบเหมันต์ก็ปิดประตูรถก่อนจะรีบเดินไปยังทางด้านคนขับ คนตัวเล็กที่พยายามจะเปิดประตูหนีแต่ก็ไม่ทันคนตัวสูงอยู่ดี
“อย่าดื้อด้านให้มาก”เขาพูดว่าด้วยใบหน้าจริงจัง ไม่รู้ทำไมพอหญิงสาวได้เห็นใบหน้าของชายหนุ่มที่เผยอออกอย่างนี้มันทำให้เธอรู้สึกหวั่นๆ ขึ้นมา คนตัวเล็กชักสีหน้าตลอดทางจนกระทั่งเขาพาเธอมายังคอนโดสุดหรูแห่งหนึ่ง แก้มใสเดาว่าคงเป็นคอนโดของเขา
“มีอะไรก็คุยตรงนี้ แก้มไม่อยากขึ้นไป”
“หึ ทำไมกลัวเหรอ?”เหมันต์เอ่ยถามพร้อมมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่เม้มริมฝีปากเข้าหากันอยู่ในยามนี้
“ถ้ากลัวจริงก็คงไม่กล้าไปทำงานแบบนั้น รู้รึเปล่าว่ามันอันตราย”
“อันตรายน้อยกว่าพี่แล้วกัน”เธอพึมพำเบาๆ แต่ก็ทำให้ชายหนุ่มได้ยินอยู่ดี คนตัวสูงไม่ได้พูดอะไรออกมาเขาเปิดประตูลงจากรถก่อนจะเดินมาทางด้านของหญิงสาว ไม่สนว่าเธออยากจะลงจากรถหรือเปล่าเขาดึงแขนเธอให้ออกมาจากรถก่อนจะลากเธอขึ้นไปคุยกันที่บนห้องของเขา
“ปล่อยนะ”
“ไม่ปล่อย ทำไมถึงดื้อขนาดนี้ว่ะ”
“เหอะ”ยังมากล้าว่าเธอดื้ออีก นึกแล้วคนตัวเล็กก็ยิ่งไม่พอใจอีกฝ่าย เธอเสียใจเสียความรู้สึกมากจริงๆ กับสิ่งที่เขาทำไว้กับเธอแบบนี้
ปัง! ท้ายที่สุดคนตัวสูงก็พาเธอเข้ามาที่ห้องของเขาได้ เหมันต์บังคับให้คนตัวเล็กนั่งลงที่โซฟาก่อนจะเดินไปหยิบขวดน้ำมายกน้ำดับความหงุดหงิดของตัวเอง การกระทำของอีกฝ่ายอยู่ในสายตาบึ้งตึงของคนตัวเล็กเหมือนกัน เธอกอดยกทำหน้าไม่พอใจออกมา
“พ่อแม่รู้รึเปล่าว่ากลับมาแล้ว”เขาสงสัยเพราะถ้าพ่อเธอรู้ท่านก็คงบอกพ่อแม่เขาแล้ว แก้มใสไม่ตอบยังคงเอาแต่เงียบ การกระทำของเธอยิ่งทำให้ชายหนุ่มหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิม
“แก้มใส ฉันถาม”
“จะอยากรู้ไปทำไม มันเกี่ยวอะไรกับพี่งั้นเหรอ”
“เธอเป็นคู่หมั้นฉันนะ”สิ้นคำพูดของคนตัวสูงสายตาไม่พอใจของแก้มใสก็ตวัดมองทันที เขากล้าพูดได้ยังไงกันในเมื่อที่ผ่านมาเขาไม่เคยเห็นหัวเธอเลย ไปหลับนอนกับผู้หญิงคนนั้นคนนี้ไม่เคยมีความรู้สึกเกรงใจเธอแม้แต่น้อยทาในยามนี้กล้ามาอ้างสิทธิคู่หมั้นงั้นเหรอ
หึ! เธอไม่ให้เป็น
“ก็แค่อดีต แก้มบอกแล้วไงว่าแก้มจะถอนหมั้นกับพี่ ผู้ชายแบบพี่แก้มไม่อยากข้องเกี่ยวด้วย”มันควรเป็นสิ่งที่ทำให้เขาดีใจเมื่อได้ยินแบบนี้แต่ไม่รู้ทำไมในตอนนี้หลังจากที่ได้ยินคำพูดซ้ำๆ ของเธอถึงทำให้ในใจของเขาหงุดหงิดขึ้นมาไม่น้อยเลย
“หึ ฉันบอกเหรอว่าจะถอนหมั้น”
“เอ๊ะ พี่เป็นบ้าเหรอคะ ไม่ได้รักไม่ได้ชอบจะมายุ่งกับแก้มอีกทำไม แก้มอยากพอแล้ว”
“พอกลับมาครั้งนี้อวดดีเยอะเลยนะ”ชายหนุ่มสำรวจใบหน้าของคนตรงหน้าไหนตะร่างกายที่ทำไมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันชวนมองขนาดนี้ได้ แก้มใสในตอนนี้แตกต่างจากเดิมมากจริงๆ เธอโตเป็นสาวแล้วมีรูปร่างที่ดีมากๆ เหมือนกัน เหมันต์รู้ตัวว่าคิดอะไรก็สะบัดหน้าไปมาทันที เขาไม่ควรคิดอะไรแบบนี้กับผู้หญิงที่เขาอยากจะผลักไส ใช่เขาต้องการให้มันเป็นแบบนั้น
“มักมาก”
“อะไรนะ?”
“แก้มบอกว่าพี่มักมาก เลวที่สุด”
“แก้มใสอย่าปากดี”
“แก้มพูดเรื่องจริง คนแบบพี่ใครได้เป็นผัวคงซวยไปทั้งชีวิต ดีแล้วที่แก้มได้มาเห็นสันดานพี่ก่อน”เหมันต์เริ่มหน้าชากับคำพูดของคนตัวเล็กตรงหน้า เขาเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้จากปากของเธอ หญิงสาวเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
“แก้มพูดเรื่องจริง เรามาจบเรื่องนี้เถอะแก้มไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับพี่อีก”
“หึ ทำไมรังเกียจฉันมากนักเหรอ?”
“ใช่ค่ะ แก้มรังเกียจและก็ไม่ใช่แค่รังเกียจนะ แก้มเกลียดพี่มากด้วย”คำว่าเกลียดที่ออกมาจากปากของคนตัวเล็กในครั้งนี้มันทำให้เหมันต์รู้สึกชาวาบที่หัวใจ
“หึ เกลียดแล้วไงเธอยังได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นของฉันอยู่ดี”ท่าทางบวกกับน้ำเสียงของชายหนุ่มมันสร้างความไม่พอใจให้แก่แก้มใสอยู่มาก เธอไม่คิดเลยว่าผู้ชายที่เธอแอบปลื้มนักหนาวิ่งไล่ตามเขาตั้งแต่เด็กถึงกลายมาเป็นคนแบบนี้
“แก้มไม่อยากมีพันธะกับผู้ชายอย่างพี่แล้ว เชิญไปเจ้าชู้ที่ไหนก็ไป แก้มเกลียดพี่ที่สุดคนมักมาก”พูดจบคนตัวเล็กก็ลุกขึ้นอยากจะออกไปจากที่แห่งนี้ เธอไม่อยากเห็นหน้าเขาอีกแล้วแต่พอเธอพูดออกมาแบบนั้นมันก็ทำให้ชายหนุ่มที่ได้ยินกลับรู้สึกบางอย่างขึ้นมา ไม่อยากมีพันธะกับเขางั้นเหรอ เธอมีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้กับเขา
“จะไปไหนใครให้ไป ฉันยังพูดไม่จบ”ชายหนุ่มไม่พูดเปล่าเขาคว้าแขนของคนตัวเล็กเอาไว้ไม่ยอมให้เธอเดินออกไปจากที่นี่
“ปล่อยนะคนบ้า ปล่อย”
“เธอด่าฉันหลายรอบแล้วนะยัยแก้มอ้วน”ไม่คิดว่าคนตัวเล็กจะปากเก่งมากขนาดนี้ คำพูดของเธอมันทำให้เขาหงุดหงิดเสียจริง
“ก็สมควรโดนด่า ปล่อยนะคนเจ้าชู้ผู้ชายมักมาก จะไปสนใจผู้หญิงที่ไหนก็ไป แก้มไม่สนใจพี่แล้ว แก้มไม่อยากเป็นคู่หมั้นของพี่อีก!”
“คิดว่าไม่อยากเป็นแล้วจะไม่เป็นง่ายๆ เหรอ!”ตอนแรกก็ไม่อะไรหรอกแต่พอได้ยินหลายครั้งมันก็หงุดหงิดขึ้นมามากกว่าเดิม เขาไม่ชอบที่เธอพูดจาแบบนี้ไม่ชอบเลยสักนิดกับการกระทำของหญิงสาว
“เอ๊ะ บอกให้ปล่อยไง ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง ไอ้บ้า”
“หึ ดี เก่งให้สุดนะ”สิ้นคำพูดของเหมันต์ร่างสูงก็ดึงเธอเข้ามาแนบชิดกับเขามากกว่าเดิมก่อนที่แขนทั้งสองข้างของชายหนุ่มจะกอดรัดร่างเล็กเอาไว้การกระทำของเหมันต์สร้างความตกใจให้แก่หญิงสาวไม่น้อยเลย เธอไม่เคยใกล้ชิดกับเขาแบบนี้มาก่อนพอได้สติก็รีบดันเขาให้ออกห่างแต่ดูเหมือนยิ่งเธอดิ้นยิ่งผลักไสเขาก็ยิ่งกอดรัดเธอมากขึ้นจนร่างกายของเธอกับชายหนุ่มแนบชิดจนจะเป็นเนื้อเดียวกันอยู่แล้ว
“ปล่อย แก้มอึดอัดปล่อยสิอย่ามาโดนตัวแก้ม’
“ทำไมฮะ รังเกียจงั้นเหรอ”
“ใช่ แก้มรังเกียจ ผู้ชายที่ไปเอากับคนไปทั่วแบบนี้น่าขยะแขยงที่สุด”
“แก้มใสมากเกินไปแล้ว”
“น้อยไปด้วยซ้ำ ไปส่องกระจกดูตัวเองบ้างว่าพี่มันเลวขนาดไหน”เพราะสิ่งต่างๆ ที่คนตัวเล็กไปรู้มามันหนักหนาอยู่เหมือนกัน ในกลุ่มพวกนั้นมีผู้หญิงมากมายที่พูดถึงการหลับนอนกับเขา ตอนที่รู้มันทำให้หญิงสาวรู้ว่ารังเกียจอีกฝ่ายจริงๆ
“ฉันเลวตรงไหน?”
“มั่วไปทั่วยังมีหน้ามาถามว่าเลวตรงไหน”
“เหอะ น้อยใจเหรอที่ผู้หญิงพวกนั้นไม่ใช่เธอ”
“บ้าที่สุด”คำพูดกวนอารมณ์มันทำให้คนตัวเล็กหงุดหงิดจริงๆ เธอยกมือขึ้นมาทุบให้เขาปล่อยแต่ทว่าก็ถูกชายหนุ่มกันเธอไปชิดกับกำแพงห้องพร้อมกักขังเธอเอาไว้ในอ้อมแขน
“อยากก็บอกไม่ใช่มาน้อยใจแบบนี้”หญิงสาวหน้าแดงก่ำไม่ใช่เพราะความเขินอายแต่มันเป็นความโกรธมากกว่า เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะพูดจาแบบนี้กับเธอ
“นอนกับพี่ แก้มไปนอนกับหมายังดีกว่า อื้อ!”สิ้นคำของคนตัวเล็ก ดวงตาของเธอก็ต้องเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อถูกชายหนุ่มบดขยี้ริมฝีปากอย่างรวดเร็วแบบนี้
