ตอนที่6 ปากเก่ง
ตอนที่6 ปากเก่ง
คำทักทายของเหมันต์ทำให้หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนที่ใบหน้าจิ้มลิ้มจะเชิดขึ้นเมื่อนึกถึงสิ่งที่ชายหนุ่มทำเอาไว้ เขาหลอกเธอแถมยังทำตัวเจ้าชู้แบบนี้มันทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจเขาอยู่มาก
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมถึงอยู่ที่นี่?”เหมันต์เห็นใบหน้าบึ้งตึงของคนตัวเล็กที่แทบไม่เคยแสดงให้เขาเห็นมาก่อนก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาแต่ก็พยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง
“ไม่ใช่เรื่องของพี่ แก้มจะกลับมาแล้วหรือไม่กลับพี่สนใจด้วยเหรอ”
“อย่ามาปากดี ฉันถามดีๆ”
“เหอะ แล้วตอบไม่ดีตรงไหน”
“แก้มใส”เหมันต์ไม่คิดเลยว่าการเจอคนตัวเล็กในครั้งนี้เธอจะเปลี่ยนไปมากพอสมควร ทั้งคำพูดทั้งสีหน้าท่าทางจะว่าไปนอกจากสิ่งเหล่านี้แล้วคนตรงหน้าก็ดูแตกต่างไปจากเดิมมากๆ โดยเฉพาะความสวย แก้มใสไม่ใช่เด็กสาวตุ้ยนุ้ยเหมือนแต่ก่อนแล้ว
“ถอยออกไป แก้มจะไปทำงานต่อ”
“ทำงาน? พูดจริงดิ แล้วทำไมถึงมาทำงานที่นี่พ่อแม่รู้รึเปล่า”
“บอกแล้วไงว่าไม่เกี่ยวกับพี่”หญิงสาวจะเดินหนีแต่ทว่าเธอก็ถูกมือหนาของคู่หมั้นหนุ่มคว้าเอาไว้ การที่เธอดื้อรั้นแบบนี้มันทำให้เหมันต์ไม่สบอารมณ์ขึ้นมามากกว่าเดิม เขาไม่ชอบที่เธอทำนิสัยแบบนี้กับเขา
“แน่ใจว่าไม่เกี่ยว ทำตัวแบบนี้ต้องการอะไรว่ะ?”เขาไม่เข้าใจเธอจริงๆ ว่าทำไมเธอต้องทำแบบนี้ด้วย
“อยากใช้ชีวิตมั้ง ถูกหลอกให้ไปอยู่ต่างประเทศตั้งนานเลยไม่ได้ใช้ชีวิต”เหมันต์รู้สึกเหมือนค้อนหนักๆ ทุบลงที่อกของเขาก็ไม่ปานเมื่อได้ยินคำพูดของหญิงสาวที่รู้แล้วว่าเขาหลอกเธอให้ไปเรียนต่อที่อื่น
“พูดเรื่องอะไรใครหลอกเธอ”
“เหอะ ทำไมกันคะ ทำไมพี่ต้องทำกับแก้มแบบนี้”
“เธอน่าเบื่อไง เธอคิดว่าฉันอยากหมั้นกับผู้หญิงแบบเธอเหรอ พูดปฏฺิเสธอะไรก็ไม่ได้เธอรู้ไหมทุกครั้งที่เห็นเธออยู่ที่บ้านฉันหงุดหงิดมากแค่ไหน ผู้หญิงแบบเธอมันน่าเบื่อ”คำพูดของชายหนุ่มในครั้งนี้มันทำให้หัวใจดวงน้อยๆ ของคนตัวเล็กเจ็บจี๊ดขึ้นมาไม่น้อยเลย พอรู้ตัวว่าเขาพูดอะไรออกไปก็สายไปเสียแล้วเมื่อเหมันต์เห็นนัยน์ตาคู่สวยวูบไหวพอสมควรไหนจะน้ำหยดใสที่เอ่อล้นที่เบ้าตาอีก
“ฉัน....”
“แก้มคงทำให้พี่เบื่อมากเลยสินะ”
“ใช่ กลับไปซะอย่ามาทำงานที่นี่คิดอะไรอยู่ถึงมาทำงานกลางคืน ทำตัวเป็นเด็กมีปัญหาไปได้!”เหมันต์บ่นอย่างหงุดหงิดไม่ชอบที่คนตัวเล็กอยู่ในสายตาของผู้ชายคนอื่นถึงแม้เขาจะไม่ได้ชอบอะไรเธอก็ตาม
“ต่อไปแก้มจะไม่รักผู้ชายแบบพี่อีก พี่ไม่ใช่คู่หมั้นของแก้มอีกจำเอาไว้”หญิงสาวพูดจบก็สะบัดแขนให้หลุดพ้นจากมือของชายหนุ่มก่อนที่เธอจะเดินหนีเข้าไปด้วยความเสียใจ
“แก้มใสมาคุยกันให้รู้เรื่องนะ แก้มใส!”เหมันต์เรียกชื่อคนตัวเล็กแต่ดูเหมือนว่าเธอไม่คิดแม้แต่จะหยุดฟังเขาเลยด้วยซ้ำ
แก้มใสสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาเพื่อไม่ให้ใครสงสัยโดนเฉพาะเพื่อนของเธอ สองสาวปรับอารมณ์ได้ก็รีบไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ พยายามไม่สนใจสายตาของใครที่มองมา เหมันต์หัวคิ้วมุ่นไม่น้อยเลยที่ยัยเด็กนี่ไม่ยอมทำตามที่เขาสั่ง แถมยังมาทำงานต่ออีกส่วนเตชินท์ก็เผยสีหน้าไม่พอใจออกมาเหมือนกัน นึกหงุดหงิดกับท่าทีของคนตัวเองที่มีต่อเขาก่อนหน้านี้ ท่าทางของเพื่อนทั้งสองทำให้สายลมที่มองอยู่ถึงกับลอบถอนหายใจออกมาอาการแบบนี้กำลังหลงสาวกันแน่ๆ
“แบบนี้เอาไงต่อ”
“ถามใคร”เหมันต์หันหน้าไปถามเพื่อนเพราะไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายถามใคร
“ทั้งสองนั้นแหละ”
“กูไม่รู้ว่าพ่อแม่เธอรู้รึเปล่า เพราะแม่กูเองก็คิดว่ายัยเด็กนั่นอยู่ต่างประเทศอยู่เลย”
“แล้วมึงล่ะ?”สายลมหันหน้าไปมองเตชินท์ที่เอาแต่ยืนนิ่งอยู่
“หึ”เขาไม่ตอบเอาแต่ยกมุมปากขึ้นท่าทางแบบนี้มันทำให้สายลมรู้สึกขนลุกขึ้นมา เพราะท่าทางของเพื่อนแบบนี้รู้เลยว่ามันไม่หยุดง่ายๆแน่
อีกวัน
“เบื่ออะ อยากกลับห้องแล้ว”แก้มใสกระซิบบอกเพื่อน เธอไม่ได้อยากจะมานั่งเชียร์ใครเสียหน่อย รู้สึกเบื่อหน่ายมากจริงๆ
“เหมือนกัน”น้ำหวานเห็นด้วยเหมือนกันเพราะเธอรู้สึกอึดอัดกับสายตาของใครอีกคนที่มักจะมองมาที่เธออยู่ตลอดเวลา
“เฮ้อ อดทนอีกนิดรุ่นพี่ก็คงปล่อย”แก้มใสพูดพร้อมมองนาฬิกาที่ข้อมือก่อนที่หญิงสาวจะรู้สึกถึงสายตาของใครอีกคนที่มักจะมองมาที่เธออยู่บ่อยครั้งเหมือนกัน เพราะความน้อยใจคนตัวเล็กจึงไม่อยากสนใจอีกฝ่าย ตลอดเวลาที่ผ่านมาเหมันต์ทำเหมือนเธอไม่ใช่คู่หมั้นเลย เธอแอบกลับมาไทยก่อนก็เพื่ออยากจะมาตามดูอีกฝ่ายพอรู้ว่าชายหนุ่มเป็นยังไงเธอก็ไม่อยากเป็นคู่หมั้นของเขาอีกแล้ว
“มองอะไรนักหนา”
“เธอพูดอะไรนะ?”
“ปะ เปล่าไม่มีอะไร”แก้มใสรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที
ตกค่ำของวัน
สองสาวมาทำงานเหมือนเดิมแต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือจู่ๆ พี่แตงไทยก็บอกว่าเจ๊แนนนี่ให้เธอไปทำงานโซนวีไอพี มันสร้างความแปลกใจให้กับเธอไม่น้อยเลย แต่หญิงสาวก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปมากพวกเธอทำตามหน้าที่ของตัวเองจนกระทั่งต้องไปเสริฟเครื่องดื่มที่โต๊ะวีไอพีเจ็ด พอเข้าไปก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าเป็นโต๊ะของใคร
“ชงเหล้าให้หน่อยดิ รู้ไหมว่าทำงานโซนวีไอพีต้องตามใจลูกค้า”เตชินท์ให้สายลมเป็นคนบอกแฟนของญาติผู้พี่ให้ส่งสองสาวมาทำงานที่โซนนี้ ยิ่งเห็นใบหน้าจิ้มลิ้มดูไม่พอใจชายหนุ่มก็ยิ่งอยากแกล้ง
“.....”น้ำหวานเม้มริมฝีปากเข้าหากัน เธอนึกชังผู้ชายคนนี้จริงๆ ทำไมเธอถึงได้เจอเขาบ่อยขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้
“ไม่ทำ?”
“หวานชงไม่เป็นค่ะ”เธอตอบไปตามตรง ถึงแม้ที่พวกชายหนุ่มสั่งมาเป็นเหล้าทั่วไปแต่คนไม่กินเหล้าแบบเธอไม่รู้หรอกต้องชงยังไง
“พนักงานพี่มึงนี่ทำงานแบบนี้เหรอ?”เตชินท์ไปถามเพื่อนคำพูดของชายหนุ่มจึงทำให้สองสาวเข้าใจอะไรมากขึ้น
“สงสัยคงอยากโดนไล่ออก”
“นี่พี่กำลังกลั่นแกล้งพวกเรารึเปล่า”แก้มใสที่ไม่เข้าใจการกระทำของรุ่นพี่หนุ่มจึงเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองไปยังเหมันต์ที่นั่งนิ่งอยู่
“กลั่นแกล้งที่ไหน มาทำโซนนี้ไม่รู้รึไง”
“งั้นเราจะไปแจ้งว่าไม่ทำโซนนี้แล้ว”
“คู่หมั้นมึงนี่ยุ่งจังเลยนะไอ้เหมันต์”คำพูดของเตชินท์ทำให้น้ำหวานหันมามองแก้มใสด้วยความตกใจกับสิ่งที่ได้ยินทันทีเพราะเธอไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน
“อดีตค่ะ!”แก้มใสกระแทกเสียง คำพูดนั้นทำให้เหมันต์ไม่ได้สนใจเหมือนกัน เด็กดื้อแบบนี้เขาก็ไม่สนใจหรอก
“นี่แก้มกับพี่เหมันต์”
“เดี๋ยวฉันเล่าให้ฟังนะ”ในเมื่อเพื่อนพูดแบบนี้คนตัวเล็กจึงพยักหน้าตอบกลับไป
“ถ้าชงไม่เป็นก็แค่ดื่ม ถ้าไม่ดื่มก็แค่ออกจากงานไป”
“พี่!”
“ทำไม ทำไม่ได้เหรอ”แววตาท้าทายของเตชินท์ทำให้น้ำหวานกำมือแน่นแต่เธอก็ไม่ได้อยากจะอะไรกับผู้ชายคนนี้
“หวานไปทำอะไรให้พี่ไม่พอใจถึงได้แกล้งกันแบบนี้”
“อยากรู้เหรอ ดื่มดิ”
“แค่ดื่มแล้วจะจบใช่ไหมคะ”เธอชักจะเบื่อแล้วกับการที่ถูกอีกฝ่ายวุ่นวายแบบนี้
“อืม ดื่มให้หมด”ชายหนุ่มเป็นคนชงด้วยตัวเองก่อนที่จะยื่นไปให้น้ำหวานที่มองหน้าเขาอยู่
“น้ำหวานไม่ต้องดื่ม ไม่ต้องทำงานที่นี่ก็ได้”แก้มใสบอกเพื่อน แค่เงินเท่านี้เศษเงินเธอ เธอให้เพื่อนได้มากกว่านี้อีก
“คู่หมั้นมึงเสือกว่ะไอ้เหมันต์ จัดการหน่อย”
“เอ๊ะ ปากหมา”มาหาว่าเธอเสือกมีหรือที่แก้มใสจะทนได้ เธอเริ่มรู้สึกไม่ชอบเพื่อนของเหมันต์แล้ว
“ยัยเด็กนี่ปากดีเกินไปล่ะ เดี๋ยวนี้กล้าปากเสียเลย ออกมาคุยกับฉัน”
“ไม่ไป!”แก้มใสไม่ยอมไปกับคนตรงหน้าเธอไม่ชอบเขาเลยสักนิด เจ้าชู้หลายใจโกหกหลอกลวงแต่เหมันต์ไม่สนใจเขาลากเธอออกมาจนได้ น้ำหวานจะตามเพื่อนออกไปแต่ก็ถูกเตชินท์รั้งเอาไว้
