
บทย่อ
เธอเป็นคู่หมั้นของเขาตั้งแต่เยาว์วัยตามที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเห็นสมควรแต่ทว่าเหมันต์ไม่ได้อยากจะหมั้นหมายกับเธอ เขาไม่ได้รักเธอแถมเบื่อเธอมากอีกด้วยพอกลับมาเธอต้องการที่จะถอนหมั้นทว่าเขากลับไม่ยอม
ตอนที่ 1 ฉันเบื่อเธอ
"พี่เหมันต์จะไปไหนคะ น้องแก้มไปด้วยได้ไหมเอ่ย"เสียงสดใสของแก้มใสหรือกวิตาเด็กสาววัยสิบห้าปีเอ่ยถามคนตัวสูงด้วยรอยยิ้ม คำถามที่เหมันต์มักจะได้ยินหลังจากที่ผู้หญิงคนนี้มาอยู่ที่บ้านของเขาตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
"ไม่ใช่เรื่องของเธอ"
"อ้าว แต่คุณป้าบอกว่าให้พี่เหมันต์ดูแลน้องแก้มนะคะ อีกอย่างน้องแก้มไม่มีเพื่อนเล่น"
"แล้วฉันเป็นเพื่อนเล่นเธอรึไงวะ"เหมันต์ในวัยสิบเจ็ดย่างเจ็บแปดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดตามที่นิสัยของตัวเองที่มักจะเป็นคนขี้รำคาญ คำตะคอกของชายหนุ่มทำเอาคนตัวเล็กสะดุ้งเฮือก เธอไม่ชินกับนิสัยที่เปลี่ยนไปของคนตัวสูงเลย เมื่อก่อนเหมันต์เป็นพี่ชายที่แสนดีของเธอจะตายไป ด้วยความที่ครอบครัวของเธอกับครอบครัวของเหมันต์สนิทสนมกันมาตั้งแต่ที่เธอยังไม่เกิดมาเลยด้วยซ้ำ แถมอีกอย่างในตอนนี้เธอก็เป็นคู่หมั้นของรุ่นพี่หนุ่มอีกด้วย
"พี่เหมันต์ไม่ใช่เพื่อนเล่นแต่เป็นคู่หมั้นของน้องแก้มต่างหาก"คนตัวสูงได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะในลำคอออกมาพร้อมใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มแบบหงุดหงิด คำว่าคู่หมั้นที่เขาได้ยินมันทำให้อารมณ์เขาหงุดหงิดมากจริงๆ
เหมันต์นึกย้อนกลับไปตอนที่ถูกบิดาอย่างท่านเหมราชบังคับให้เขาหมั้นหมายกับลูกสาวเพื่อนของท่านเพราะเหตุผลสุดปัญญาอ่อนอย่างเรื่องธุรกิจ ผลประโยชน์ทำให้เขาต้องถูกบังคับแบบนี้ไงและก็ไม่รู้อะไรทำให้พ่อแม่เธอยอมให้ลูกสาวที่เพิ่งอายุสิบห้ามาหมั้นหมายด้วย กลัวลูกไม่มีผัวรึไงกัน นึกแล้วก็ยิ่งหงุดหงิด
"เหอะ ฟังนะฉันเบื่อเธอที่สุดเลยยัยแก้มอ้วน"
"น้องแก้มไม่ได้อ้วนแล้วซะหน่อย"วัยเด็กอาจจะใช่แต่ตอนนี้เธอไม่ได้เป็นแบบนั้นสักนิดแต่เขาก็ยังล่อเธอไม่เลิกเลย
"น่ารำคาญว่ะ จะไปไหนก็ไป ฉันจะไปเล่นกับเพื่อน"ชายหนุ่มมีเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมานานสองคนคือเตชินท์และสายลม ใครจะมาอยากจะเล่นกับยัยเด็กบ้านี่กัน
"เอ๊ะ พี่เหมันต์บ้าจริง ทำไมทิ้งน้องแก้มแบบนี้"เมื่อเห็นคนเป็นพี่รีบเดินไปยังรถบิ๊กไบค์สุดเท่คนตัวเล็กก็มองด้วยใบหน้าบึ้งตึงทันที
"โดนทิ้งอีกจนได้"แก้มใสพูดบ่น เธอมาอยู่ที่บ้านของชายหนุ่มเพราะพ่อแม่ของเธอไปคุยธุรกิจต่างประเทศ อันที่จริงเธอจะอยู่ที่ไร่ชาของตัวเองก็ได้แต่ท่านเหมราชเป็นห่วงเลยให้เธอมาอยู่ที่บ้านท่านที่กรุงเทพฯ ตอนนี้อยู่ในช่วงปิดเทอม เธออยากไปต่างประเทศกับพ่อแม่แต่ก็ถูกห้ามเพราะพวกท่านคงไม่มีเวลาดูแลเธอ สุดท้ายเธอต้องมาอยู่ที่นี่
แก้มใสถอนหายใจออกมาเพราะไม่รู้จะทำอะไรคนตัวเล็กจึงเดินคอตกกลับไปในบ้าน ในตอนนี้นอกจากแม่บ้านก็ไม่มีใครอยู่เลย เหงากว่าตอนที่อยู่ไร่อีก อยู่ที่นั่นยังมีลูกคนงานมาเล่นด้วย คนตัวเล็กหาดูหนังไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งผ่านไปพักใหญ่แม่บ้านก็เดินมาหาเธอถามไถ่ว่าอยากทานอะไร และก็เป็นอีกวันที่คนตัวเล็กต้องกินข้าวคนเดียว ท่านเหมราชกับคุณหญิงพิมพ์ชนกก็ไปทำงาน กว่าพวกท่านจะกลับมาก็ช่วงเย็นๆ เลย
"น้องแก้มอยากทานสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าค่ะ"
"ได้ค่ะ เดี๋ยวป้าทำให้นะคะ"เด็กสาวพยักหน้าพร้อมส่งยิ้มหวานไปให้ ไม่นานสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าของโปรดของหญิงสาวก็เสร็จเรียบร้อย เธอนั่งกินอย่างอารมณ์ดีจากที่เบื่อๆเซ็งๆในตอนนี้ก็ดูอารมณ์ดีขึ้นมาไม่น้อยเลย
อีกด้าน
"เป็นห่าอะไรมาถึงก็ทำหน้าแบบนี้"เตชินท์ในวัยสิบเจ็ดเอ่ยถามเพื่อนที่มานั่งลงข้างๆ ในห้องนอนของเขา
"เบื่อยัยเด็กบ้านั่น"
"คู่หมั้นมึงอ่ะนะ"
"หึ ไม่ใช่โว๊ย ใครจะไปสนใจเด็กนั่น สำหรับกูต้องพี่พลอยคนสวยเท่านั้น"เหมันต์หมายถึงพลอยขวัญรุ่นพี่ที่โรงเรียนที่เป็นขวัญใจของหนุ่มๆนั่นเอง
"หึ แล้วไงกูเห็นมึงบ่นเบื่อมานานแล้วแต่ก็หนีไม่พ้นสักที"
"นี่แหละที่ทำให้กูหงุดหงิด พ่อน่ะพ่อไม่รู้จะบีบบังคับทำไมนัก"
"มึงก็หาวิธีไล่ให้ไปไกลๆ สักระยะก่อนดิ"หัวคิ้วของเหมันต์ขมวดเข้าหากันเมื่อได้ยินคำพูดของเพื่อน
"แบบไหนวะ"
"ก็แบบไล่ให้ไปเรียนไกลๆ เชียงใหม่มันใกล้เกินไป เอาต่างประเทศเป็นไง"
"คงยาก"
"ไม่ลองไม่รู้ดิ เด็กนั้นชอบมึงไม่ใช่เหรอ ก็แค่แกล้งพูดให้ตายใจหรือมึงอยากอยู่แบบนี้ต่อไปก็ได้นะ กูว่าพอยัยคู่หมั้นมึงจบม.3 คงให้มาเรียนที่กรุงเทพฯแน่ๆ"
"ไม่เอา แบบนั้นเห็นหน้าทุกวันกูตายพอดี"ท่าทีของเหมันต์ทำให้เตชินท์ขำออกมา
"งั้นก็ลองทำแบบที่กูแนะนำ แต่ตอนนี้นะมึงเข้าเกมส์ได้แล้วกูรอตีป้อมอยู่ ไอ้สายลมก็ยังไม่มาเซ็งจริงๆ"
"เออๆ"
หลายวันผ่านไป
"นี่น้องแก้ม"เสียงเรียกของคนตัวสูงดังขึ้นทำให้หญิงสาวที่อ่านนิยายเพลินๆ หันหน้าไปมองอย่างไม่เชื่อหู
"คะ? พี่เหมันต์เรียกน้องแก้มเหรอ"
"แล้วมีหมาตัวไหนชื่อแก้มไหม"
"อ้าว เมื่อกี้ยังเรียกน้องแก้มอยู่เลย"
"ก็อยากกวนทำไมก็ได้ยินอยู่ว่าเรียก"
"งั้นพี่เหมันต์มีอะไรคะ"คนตัวเล็กมองตาแป๋วอย่างสงสัยที่ชายหนุ่มเรียกเธอ
"จะอยู่เกาะติดแบบนี้ไปอีกนานไหม ฉันไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้หรอกนะ"
"แล้วพี่เหมันต์ชอบผู้หญิงแบบไหนคะ"เพราะความที่ยังเป็นเด็กพอได้ยินชายหนุ่มพูดแบบนั้นก็รีบถามออกไปทันที เธอแอบชอบเขา ชอบเหมือนผู้หญิงคนนึงชอบผู้ชายแต่ก็ยังไม่เข้าใจความรักมากนักไม่รู้ว่าต้องทำยังไงให้อีกฝ่ายมารักเธอ
"ชอบผู้หญิงเรียนเก่ง"
"น้องแก้มก็เรียนเก่ง"
"หมายถึงเก่งแบบเรียนต่างประเทศ จบอินเตอร์ มีการศึกษาที่ดี เธอก็เห็นว่าฉันก็ไม่ค่อยชอบเรียนมากถ้าจะมีแฟนก็อยากได้แฟนฉลาดๆ หน่อย"
"น้องแก้มไม่เข้าใจคะ"คนตัวเล็กเอียงคอพร้อมกับมองหน้าชายหนุ่มด้วยความไม่เข้าใจ
"ไปเรียนต่างประเทศดิ จบแล้วฉันจะแต่งงานกับเธอทันทีเลย"
"ไปเรียนต่างประเทศหรอคะ น้องแก้มไม่อยากไปอ่ะ"
"งั้นก็แล้วแต่ ฉันก็ไม่สนใจเธอหรอกต่อให้พ่อบังคับฉันก็ไม่รักเธอ"
"พี่จะรักน้องแก้มจริงๆ เหรอถ้าน้องแก้มเรียนเก่งๆ จบจากมหาวิทยาลัยดังๆ"เหมันต์นึกขำที่คนตัวเล็กถามอะไรแบบนี้ออกมา นี่โง่หรืออ่อนต่อโลกกันแน่วะ
"ใช่ ต้องเป็นมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด, มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด, มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์, มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดด้วยนะ ฉันถึงพอใจ"ชื่อมหาวิทยาลัยที่ชายหนุ่มเอ่ยออกมาทำเอาคนตัวเล็กอ้าปากค้างทันทีถึงแม้ว่าเธอจะพอเรียนรู้เรื่องนั่งหน้าห้องมีเกรดเฉลี่ยที่ดีแต่มหาวิทยาลัยที่อีกฝ่ายพูดถึงนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
"แต่น้องแก้มยังเรียนไม่จบม. 3 เลยนะคะ"
"ก็ไปเรียนต่อที่นั่นไง เธอจะได้มีพื้นฐานเวลาสอบเข้ามหาลัยจะได้สอบเข้าได้"ชายหนุ่มเกลี้ยกล่อมทำเอาคนตัวเล็กเริ่มคล้อยตาม
"แบบนี้น้องแก้มก็ไม่ค่อยได้เจอพี่สิ"
"โอ๊ยยยย สมัยนี้เทคโนโลยีครบครันจะตายไปคิดถึงก็แค่โทรมาหาหรือไม่ฉันก็บินไปหาเธอที่นั่นหรือเธอบินกลับมาหาฉันก็ได้"
"งั้นเดี๋ยวน้องแก้มลองปรึกษาพ่อแม่ก่อนนะคะ"
"แต่เธอไม่ต้องบอกนะว่าฉันเป็นคนบอกอันที่จริงถ้าเธอไม่อยากไปฉันก็ไม่บังคับหรอกแต่ฉันจะพูดตรงๆว่าฉันคงไม่ชอบเธอ"เด็กสาวไม่คิดเหมือนกันว่าสเปคของชายหนุ่มจะเป็นแบบนี้ เธอที่แอบชอบเขามานานเลยมีความคิดอยากจะทำให้เขาชอบเธอเหมือนกัน สุดท้ายแก้มใสก็พูดคุยกับพ่อแม่ก่อนจะตัดสินใจที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศ เพราะเธอเชื่อคำพูดของเขานั่นเอง แต่ดูเหมือนคนตัวเล็กจะมารู้ว่าถูกหลอกกลายเป็นคนโง่ก็ตอนจะจบไฮสคูล แก้มใสแอบส่องไอจีคู่หมั้นหนุ่มถึงอีกฝ่ายจะปิดกั้นเธอแต่เธอก็สร้างไอจีปลอมไปกดติดตามเขาเอาไว้ พอเห็นอีกฝ่ายมักจะไปเที่ยวกับผู้หญิง มีสาวๆ ข้างกายตลอดคนตัวเล็กก็นึกไม่พอใจเขาขึ้นมา
"ไหนบอกว่าจะไม่สนใจผู้หญิงคนไหนไงมักมากที่สุดคนบ้า"
