บท
ตั้งค่า

วิ่งขวางหน้ารถ

บทที่ 7 ยื่นข้อเสนอ

ในวันนั้นบัลลังก์ไม่คุยกับเขมจิราอีกเลย จนกระทั่งช่วงเย็นพ่อแม่ของเธอมารับหลานชายไปดูแลเหมือนทุกครั้ง

เขมจิรารีบบึ่งรถยนต์ไปที่บริษัทของเรวัชทันที มั่นใจว่าคนที่สร้างเรื่องราวทั้งหมดในวันนี้ต้องเป็นเขาอย่างแน่นอน ชายคนนั้นพยายามจะทำทุกวิถีทางเพื่อแยกเธอกับต้นน้ำ ในชีวิตก่อนเขาสามารถดูแลต้นน้ำได้และในชีวิตนี้เขาก็คงจะทำทุกทางเพื่อให้ตนเองได้ดูแลต้นน้ำเหมือนอย่างเคย

การที่จู่ๆ มีญาติของต้นน้ำวิ่งโร่เข้ามาแสดงตัวตนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แน่นอนว่าเรวัชต้องมีส่วนเกี่ยวข้องไม่มากก็น้อย

เขมจิรารู้เพียงแค่สถานที่ทำงานของเขาเท่านั้น แม้จะเคยสืบประวัติของอีกฝ่ายแต่กลับไม่พบอะไรทำให้สถานที่เดียวที่สามารถไปได้ในตอนนี้คือบริษัทของเขา บริษัทยักษ์ใหญ่พร้อมศูนย์บริการครบวงจรเกี่ยวกับเครื่องบิน เมื่อมองไปยังตึกสูงใหญ่ตรงหน้าเขมจิราก็พร้อมเดินเข้าไปอย่างไม่ลังเล แต่พนักงานต้อนรับไม่มีทางให้เธอเข้าไปอยู่แล้ว

“ฉันให้คุณเข้าไปไม่ได้ค่ะ อย่างที่พูดไปเมื่อสักครู่ว่าคุณไม่ได้นัดกับคุณเรวัชมาก่อน” แม้ประโยคจะเต็มไปด้วยคำเคารพทว่าน้ำเสียงกลับแข็งกระด้าง ไม่มีท่าทียอมแพ้

“ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้นัดกับเขามาก่อน แต่ฉันมีเรื่องสำคัญ-”

“ต้องขออภัยด้วยค่ะ หน้าที่ของฉันมีเพียงเท่านี้ หากคุณต้องการพบคุณเรวัช รบกวนครั้งหน้าทำนัดหมายไว้ล่วงหน้าเพื่อความสะดวกต่อตัวคุณเองจะดีกว่า” พูดจบอีกฝ่ายก็ไม่สนใจคนตรงหน้าอีก

“ให้ตายสิ” เขมจิราสบถออกมา ความร้อนรนไม่ทันคิดทำให้เธอลืมเรื่องการนัดหมายไปเสียสนิท “แล้วเขา-”

“ถ้าคุณยังพยายามที่จะเข้าไปด้านในอีก ฉันคงต้องเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมานำตัวของคุณออกไปจากที่นี่” พนักงานต้อนรับเริ่มข่มขู่เขมจิรา พร้อมสายตาดูถูก แม้ว่าอีกฝ่ายจะหน้าตีดีใช้ได้แต่ก็คงจะเป็นเพียงแค่หญิงในสังกัดของคุณเรวัชก็เท่านั้น

คนเช่นนี้เธอเจอมามากมาย แน่นอนว่าไม่มีทางยอมให้อีกฝ่ายเข้าไปได้

“อะไรกัน ผมนึกว่าผู้หญิงที่ไหนซะอีก ที่แท้ก็เป็นลูกสะใภ้ของตระกูลเทวราชนี่เอง” จู่ๆ มีเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นด้านหลัง

เขมจิรารีบหันกลับไปมองต้นเสียงทันทีและเห็นว่าชายคนที่พูดเมื่อครู่ก็คือ ‘เขต’ น้องชายคนสนิทของเรวัช

“คุณเขต...” พนักงานสาวเรียกชื่อเขาด้วยความแปลกใจ ชายร่างสูงผิวแทนสวมชุดสูทแหวกหน้าอก ท่าทางคล้ายนักเลงอารมณ์ร้อนคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ ใช้สายตาสำรวจเขมจิราครู่หนึ่งแล้วเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม

“ขอโทษที่พนักงานของเราเสียมารยาทด้วย คุณกำลังต้องการคุยกับพี่ชายของผมเหรอ”

“ใช่ค่ะ ฉันมีเรื่องด่วนต้องพูดกับพี่ชายของคุณ เขาพอจะมีเวลาหรือเปล่า”

“อืม ช่วงนี้พี่เขายุ่งๆ อาจจะต้องใช้เวลาสักพัก” เขาทำท่าครุ่นคิดไป แววตากลมคู่นั้นแฝงด้วยความเจ้าเล่ห์ “แต่ผมจะพาคุณไปรอที่ห้องรับรองก่อนดีกว่า จะได้ไม่เป็นการเสียเวลา ตามมาสิ”

เขมจิราชะงักไปครู่หนึ่ง แม้อีกฝ่ายจะไม่ได้แสดงท่าทีคุกคามแต่รู้สึกไม่ไว้ใจกับทั้งท่าทางและคำพูดของอีกฝ่าย ถึงอย่างไรเธอก็ไม่มีทางเลือกมากนัก

“ค่ะ”

“งั้นก็ตามผมมาเลย” เขาตอบรับ

เขตพาเขมจิราขึ้นลิฟต์สำหรับผู้บริหารเท่านั้น ก่อนจะตรงมาที่ห้องรับรองแห่งหนึ่ง ภายในห้องต่างตกแต่งทั่วไปไม่มีอะไรพิเศษ

“คุณรออยู่ที่นี่สักพักนะครับ” เขาหันกลับมาพูดกับเธอ

“ค่ะ ขอบคุณมาก”

“ไม่เป็นไร ผมยินดีบริการอยู่แล้ว” ชายหนุ่มยิ้มตอบกลับพร้อมโบกมือลา ก่อนจะเดินออกจากห้องไป แต่ก็เลือกหันกลับมาอีกครั้งพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “เรื่องสามีของคุณ ผมเสียใจด้วย เขาไม่มีสมควรตายแบบนั้นเลย”

หมอนั่นควรจะอยู่อย่างทุกข์ทรมานมากกว่านี้อีกสักหน่อย

สิ่งที่เขตจะสื่อ หมายความแบบนี้หรือเปล่านะ?

ตั้งแต่เจอหน้ากันเขาไม่ถามคำถามเธอเลยสักคำเดียว ราวกับรู้อยู่แล้วว่าเธอมีเหตุอะไรที่ต้องมาที่นี่ อีกทั้งในอดีตทั้งสองชีวิตพี่น้องสองคนนั้นก็มีข่าวฉาวมากมาย ไม่มีทางที่จู่ๆ เขตจะช่วยเธอโดยไม่ต้องการอะไร

ท่าทีนอบน้อมเป็นกันเองยิ่งทำให้เธอระแวงขึ้นไปอีก

หลังจากที่น้องชายของเรวัชเดินจากไปแล้ว เขมจิราตัดสินใจไม่นั่งรอเฉยๆ เดินออกตามหาเรวัชทันที เชื่อว่าถึงต่อให้จะรอนานกว่านี้ก็คงไม่มีใครมาที่นี่เพราะชายคนเมื่อครู่จงใจทิ้งเธอให้นั่งรอที่ห้องนี้ต่างหาก

“คนเจ้าเล่ห์แบบพวกคุณนี่มันจริงๆ เลย” เธอพึมพำ

หลายนาทีผ่านไปเขมจิรายังหาตัวของเรวัชไม่เจอ เธอจำได้ว่าเห็นเขตเดินมาพร้อมกับเหล่าพนักงาน ทุกคนต่างถือกระเป๋าสัมภาระและส่วนมากก็มีหน้ายิ้มแย้มราวกับงานสำคัญพึ่งผ่านพ้นไป

เขมจิราเข้าใจได้ทันที ก่อนจะรีบมองดูนาฬิกาข้อมือแล้วเห็นว่าเป็นเวลาเลิกงาน

“บ้าเอ๊ย! ที่เขาให้ฉันขึ้นมาที่นี่ง่ายๆ ก็เพราะจะขัดขวางไม่ให้เจอกับเรวัชที่ด้านล่าง”

เขมจิราไม่เหลือเวลาอีกต่อไป หากเดาไม่ผิดหลังจากที่ส่งเธอมาที่ห้องรับรอง พวกเขาคงไปหลังจากนั้นแน่ เธอไม่รอช้ารีบวิ่งไปที่ลิฟต์ทันที ใช้เวลาไม่นานก็ลงมาถึงชั้นหนึ่ง รีบวิ่งออกไปที่ประตูและเห็นว่าที่บริษัทแห่งนี้มีประตูเข้าออกทางเดียวเท่านั้น

ถ้ายังโชคดีพวกเขาอาจจะกำลังอยู่ที่ทางออกของบริษัทและก็เป็นไปตามคาด เขมจิราเห็นรถหรูคันสีดำที่เจอเมื่อหลายวันก่อนกำลังเคลื่อนตัวออกไป มั่นใจว่าเรวัชต้องอยู่ในนั้นแน่

แม่ม่ายลูกติดแบบเธอตัดสินใจทำสิ่งที่บ้าที่สุดในชีวิตลงไป ผู้หญิงไร้สติคนนั้นตัดสินใจวิ่งขวางหน้ารถยุโรปรุ่นลิมิเต็ดอย่างไม่ลังเล

เอี๊ยด!

เสียงเบรกของรถยนต์ดังขึ้นเสี้ยววิ ดวงตากลมโตสีฟ้าประสานเข้ากับสายตาอันแหลมคมของชายที่นั่งอยู่ในรถ ทั้งสองคนจ้องตากันอย่างไม่ลดละ ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมแม้ จนในที่สุดคนในรถก็ทนไม่ไหวส่ายหน้าให้กับหญิงบ้าระห่ำคนนั้น

“คิดจะตายตามสามีไปอีกคนหรือไง!” เรวัชเอ่ยประชดประชัน หลังจากเดินลงมาจากรถด้วยความหัวเสีย ไม่คิดว่าเธอจะกล้าขวางทางด้วยวิธีการนี้

“คุณรู้ว่าฉันมาที่นี่ทำไม เลิกเล่นแง่แล้วมาคุยกันตรงๆ เสียที” นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอได้คุยกับเขา ไม่คิดเลยว่าครั้งแรกของพวกเขาจะแย่ขนาดนี้

แน่นอนว่าคงจะโทษเธอฝ่ายเดียวไม่ได้

“คุยเหรอ คุณอยากจะคุยเรื่องอะไรกับผมล่ะ สะใภ้ตระกูลสูงส่งแบบคุณถึงกับต้องวิ่งมาดักหน้ารถแบบนี้ เห็นทีคงจะสิ้นไร้ไม้ต่อแล้วจริงๆ” เรวัชเดินเข้ามาใกล้เธอมากขึ้นเรื่อยๆ หวังจะแกล้งให้อีกฝ่ายกลัว ทว่าเธอกลับยืนนิ่ง

“เด็กคนนั้น... ต้นน้ำ” เขมจิราพูด

เรวัชชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะปรับสีหน้ากลับมาอย่างรวดเร็ว มือข้างหนึ่งกุมหน้าท้องเอาไว้แล้วเริ่มหัวเราะออกมาเหมือนคนเสียสติ

“อ๋อ ผมเข้าใจแล้ว ข่าวลือที่ได้ยินมาคงจะไม่ผิดจริงๆ คุณนี่มันบ้าจนถึงขั้นกล้ารับเลี้ยงลูกติดของชู้สามีเลยเหรอ เสียสติไปแล้วใช่ไหมเนี่ย” เขาเอ่ยติดตลกพร้อมกับหัวเราะเยาะไปด้วย มืออีกข้างที่ว่างอยู่ยกขึ้นมาปาดน้ำตา

“เรื่องที่จู่ๆ ญาติของเด็กคนนั้นก็แสดงตัวขึ้นมาเป็นฝีมือของคุณใช่ไหม” เธอไม่สนใจเสียวหัวเราะของเขา คิดว่าอีกฝ่ายคงอยากจะแค่กวนประสาทตัวเองก็เท่านั้น

“เปล่าเลย เปล่าสักนิด ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรทั้งนั้น ทำไมผมต้องไปยุ่งเกี่ยวกับความรักสามเส้าของพวกคุณด้วย”

“อย่ามาทำไขสือ ฉันรู้ว่าในอนาคตคุณต้องการจะทำอะไรกันแน่ แต่อย่าคิดจะใช้เด็กคนนั้นเป็นเครื่องมือแก้-”

เขมจิรายังพูดไม่ทันจบก็ถูกชายร่างสูงตรงหน้าขยับเข้ามาประชิดอย่างไม่ทันตั้งตัว เขาใช้มือหนาคว้าเอวบางเข้ามา ใบหน้าทั้งสองคนใกล้ชิดจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย

ชายที่หัวเราะเหมือนคนบ้าเมื่อครู่กลับแปรเปลี่ยนเป็นมัจจุราชในทันที

“ระวังคำพูดหน่อยสิคุณเขมจิรา ถึงคุณจะมีตระกูลเทวราชคอยหนุนหลังแต่ก็ใช่ว่าจะกล่าวหาคนอื่นได้ลอยๆ นะรู้ไหม” คำพูดเสียงแผ่วเบาแต่กลับแฝงด้วยความเย็นยะเยือก จิตสังหารรุนแรงแผ่คละคลุ้งรอบกาย

“ในที่สุดก็คงเริ่มจะอยากคุยกันบ้างแล้วสินะ” เขมจิราตอบกลับอย่างไม่หวาดกลัว แม้ว่าในอนาคตชายคนนี้จะขึ้นมาเป็นใหญ่ก็ตาม “เรื่องของคุณก็คือเรื่องของคุณ ฉันไม่อยากยุ่งด้วยเลยสักนิดเดียว แต่ตอนนี้คุณกำลังจะใช้ต้นน้ำเป็นเครื่องมือ จำไว้ให้ดีว่าฉันจะไม่มีทางยอมให้คุณทำแบบนั้นแน่”

เรวัชเลิกคิ้วสูงด้วยความสงสัย จริงอยู่ว่าเขาตั้งใจจะรับต้นน้ำมาเลี้ยงดู ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายก็เป็นฝีมือของเขาทั้งนั้น แต่ไม่เคยเผยความลับเรื่องนี้ให้ใครฟังมาก่อน แล้วผู้หญิงคนนี้จะรู้ได้อย่างไร

เขาไม่เข้าใจเลยสักนิด...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel