บท
ตั้งค่า

ยื่นข้อเสนอ

“ฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลเทวราชแล้ว ในอนาคตไม่ว่านายจะทำอะไรฉันจะไม่ขัดขวาง แต่ชีวิตของเด็กคนนั้นฉันปล่อยให้คุณทำตามใจชอบไม่ได้”

เมื่อเธอพูดประโยคนั้นจบก็เกิดความเงียบขึ้นระหว่างทั้งสองคน พวกเขายืนประจันหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างยึดมั่นในความคิดของตัวเอง อีกคนหนึ่งต้องการจะล้างแค้นส่วนอีกคนต้องการช่วยเหลือชีวิตคนหนึ่งเท่านั้น อุดมการณ์ของทั้งสองช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

“ผมไม่เข้าใจคุณเลย” เรวัชบอกออกมาจากใจจริง

“คุณไม่ต้องเข้าใจหรอก แค่ให้ฉันดูแลเขาก็พอ” เธอเร่งรัดตอบในทันที

“มีงานอดิเรกเป็นการเก็บลูกติดของชู้สามีมาเลี้ยงเหรอครับ” เขาเอ่ยกวนประสาทเพื่อที่เธอจะได้เลิกวุ่นวาย ทว่าน่าเสียดายที่เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ย้อนเวลากลับมาเพื่อยอมแพ้

“อย่างไรเขาก็เป็นเด็กดีคนหนึ่ง ฉันไม่อยากให้บัลลังก์ต้องพลาดการรู้จักกับคนดีๆ แบบนั้นไป และไม่อยากเห็นชีวิตของต้นน้ำต้องทุกข์ทรมานจากผู้ใหญ่แค่ไม่กี่คนด้วย” เขมจิราเอ่ยพึมพำกับตัวเอง นึกถึงวันที่ต้นน้ำตายอีกครั้งหนึ่ง แม้จะสบตากันเพียงเสี้ยววิแต่ความทุกข์ทรมานกลับชัดเจนเสมอมา

“พูดอย่างกับว่าใครจะสนใจ”

“ฉันนี่ไง” เธอจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาแหลมคมคู่นั้นอีกครั้ง เพื่อแสดงความเด็ดเดี่ยวมั่นคงที่จะไม่ยอมแพ้แม้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม “ฉันนี่แหละที่สนใจชีวิตของเขา”

มุมปากของชายร่างสูงยกขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ จู่ๆ ใจก็เต้นแรงแปลกๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รู้สึกเลือดในกายสูบฉีดราวกับว่าได้วิ่งมาอย่างยาวนาน

เขารู้ดีว่าหากจะให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนควรสลัดเธอออกไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ ทว่ามือข้างหนึ่งที่คว้าเอวบางของเธอมาประคองไว้กลับหยุดนิ่งไม่ขยับเขยื้อน

ตอนนี้รู้สึกเหมือนโดนท้าทายอย่างบอกไม่ถูก

มืออีกข้างที่ยังว่างอยู่ก็ชูแหวนวงหนึ่งขึ้นมา มันเป็นเพียงแหวนเงินเรียบๆ วงหนึ่งเท่านั้น ไม่มีอะไรพิเศษ

“คุณเห็นนี่ไหม ถ้าคุณอยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่คุณขอก็เอาแหวนวงนี้มาคืนให้ผมก่อนเที่ยงคืน แล้วผมจะยอมให้ในสิ่งที่คุณขอ”

เขมจิรายังไม่ทันได้หยิบแหวนวงนั้นมาดู มันก็ถูกเขาขว้างลงไปในคูน้ำข้างบริษัทเสียแล้ว หรือจะพูดให้ถูกก็คือทางระบายน้ำ อีกทั้งช่วงนี้ยังเป็นช่วงหน้าฝน แม้น้ำจะสูงเพียงแค่หัวเข่าแต่กลับไหลเชี่ยวและดูสกปรก

คนอย่างเธอคงไม่มีทางทิ้งศักดิ์ศรีตัวเองแน่

เรวัชค่อยๆ ปล่อยมือจากหญิงสาว เหลือไว้เพียงความอบอุ่นรอบเอวบาง ก่อนจะเดินไปอย่างอารมณ์ดี ทิ้งให้เขมจิราต้องอึ้งกับการกระทำของเขา

ในระหว่างที่รถกำลังจะเคลื่อนผ่านเธอไป กระจกถูกลดระดับลงมาเรื่อยๆ เผยให้เห็นเรวัชอีกครั้งหนึ่ง ชายคนนั้นยื่นหน้าออกมาหาเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ “สู้ๆ นะครับคุณเขมจิรา ผมหวังว่าคุณจะพยายามอย่างสุดความสามารถ อ้อ ลืมบอกอีกข้อหนึ่งไปเลย”

“อะไร”

“ถ้าคุณให้ใครมาช่วยแม้แต่คนเดียว สัญญาของพวกเราถือเป็นโมฆะ เข้าใจไว้ด้วย” พูดจบรถยนต์สุดหรูคันนั้นก็เคลื่อนตัวออกไปโดยไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาอีก

เขมจิรามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ทุกอย่างตรงหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำ ไม่รู้ว่าเพราะกำลังจะมืดค่ำหรือเพราะว่าฝนกำลังจะตกกันแน่ แต่สิ่งเดียวที่รู้คือแหวนวงนั้นต้องมาอยู่ในมือเธอก่อนเวลาเที่ยงคืน

เธอไม่รอช้ารีบวิ่งไปยังจุดที่แหวนหล่นลงไป ถอดรองเท้าไว้ยังตำแหน่งที่คิดว่าใกล้เคียงกับแหวนมากที่สุดเพื่อแสดงอาณาเขต อย่างน้อยก็สามารถจำกัดพื้นที่ได้มากขึ้น ก่อนจะตัดสินใจเหยียบลงไปในน้ำสกปรกเหล่านั้นอย่างไม่ลังเล

**********

บรรยากาศครึกครื้นเต็มไปด้วยแสงสีและเครื่องดื่มมึนเมามากมาย ข้างกายของชายแต่ละคนต่างมีสาวสวยคอยประกบทั้งสองข้างไม่ห่าง เขตมองไปยังพี่ชายที่ตอนนี้เอาแต่จ้องนาฬิกาข้อมือหลายต่อหลายครั้ง

เขาไม่รู้ว่าช่วงเย็นวันนี้ทั้งสองคนคุยเรื่องอะไรกันบ้าง ทว่าสีหน้าของพี่ชายยามที่กลับเข้ามาในรถแปลกไปอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อีกทั้งตอนนี้อีกฝ่ายยังมองดูนาฬิกาข้อมือบ่อยเสียเหลือเกิน จนเขาแอบสงสัยไม่ได้ว่าสองคนนั้นพนันเรื่องอะไรกันแน่ ทว่าก็ไม่กล้าถามออกไป

“ใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว น่าเสียดายจริงๆ” เรวัชพึมพำ เมื่อพบว่าเหลือเวลาไม่ถึงสามสิบวินาทีเท่านั้น เขาอุตส่าห์ตั้งตารอ บางทีเธอคนนั้นคงยอมแพ้ไปแล้ว

ลูกคุณหนูแบบนั้นคงไม่ยอมเอาตัวไปเปรอะเปื้อนโคลนหรอก

เมื่อคิดได้แบบนั้นเรวัชกลับรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาเล็กน้อย จึงยกแก้ววิสกี้ขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ ก่อนจะถูกสาวๆ ที่นั่งประกบออดอ้อนอีกหลายครั้ง

“โอ๊ย!” ในระหว่างที่กำลังพูดคุยกับพวกเธออยู่นั้นจู่ๆ กลับมีอะไรบางอย่างลอยกระแทกหน้าของเขา เสี้ยววินาทีก็ได้กลิ่นเหม็นอับตามมา ก่อนจะปรากฏภาพของเขมจิราขึ้นมาตรงหน้า ทว่าสภาพของอีกฝ่ายกลับดูไม่ได้

เหมือนกับลูกหมาตกน้ำไม่มีผิด

หญิงสาวทุกคนในผับแห่งนี้ต่างเต็มไปด้วยความเซ็กซี่ตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่สภาพคนตรงหน้าไม่มีจุดไหนใกล้เคียงกับคำว่าดูดีเลย ทั้งเสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกายมิดชิด ผมเผ้าที่ยุ่งเหยิง อีกทั้งยังเปียกปอนไปหมดทุกส่วน และยิ่งโดยเฉพาะกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่ลอยมาจากตัวอีกฝ่าย

“เอาแหวนของคุณคืนไปสิ” เธอกล่าวพร้อมอาการหอบเหนื่อย กว่าจะใช้เวลาหาแหวนวงนี้เจอก็เสียเวลาไปนานมากและยังมีพายุฝนเข้ามา อีกทั้งชายคนนี้ยังเล่นสกปรกไม่บอกสถานที่นัดเสียด้วยซ้ำ โชคดีที่ในชีวิตที่สอง เธอได้สืบประวัติของเขามาและรู้ว่าอีกฝ่ายชอบมาที่ผับแห่งนี้เป็นประจำ หากไม่ใช้ประโยชน์เหล่านั้นบางทีเธอคงจะมาไม่ทันแน่

เรวัชมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเข้าใจว่าสิ่งที่ลอยมากระแทกหน้าเขาเมื่อครู่คงจะเป็นแหวนวงนั้น เมื่อก้มลงไปมองก็เห็นว่าเป็นแหวนเงินที่เขาบอกเธอจริงๆ แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไร การ์ดในผับก็มาจับตัวของเขมจิราเอาไว้เสียก่อน

“ปล่อยเธอ” เรวัชพูดเสียงเข้ม ก่อนจะส่งสัญญาณให้ทุกคนบนโต๊ะออกไป เหลือไว้เพียงแค่เขาและเธอเท่านั้น เมื่อหยิบแหวนขึ้นมาดูมุมปากก็ยกขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ “ผมประทับใจความตั้งใจของคุณนะ แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ดันเลยเที่ยงคืนไปแล้ว”

เขมจิราหลุดขำออกมา ส่ายหน้าเบาๆ จนคนที่นั่งอยู่เริ่มไม่พอใจ

“คุณคงเป็นพวกชอบตั้งนาฬิกาก่อนเวลาจริงใช่ไหม ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดูเวลาอีกทีสิ” พูดจบเขมจิราก็ชูหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นมาและเห็นว่าเป็นเวลา 23:59 น.

เรวัชรีบคว้านาฬิกาของคนตรงหน้ามาดูทันทีและมันก็เป็นจริงอย่างที่เธอพูด เขาตั้งนาฬิกาก่อนเวลาจริงห้านาทีเสมอ แต่กลับลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท

“คุณแพ้แล้ว หวังว่าจะทำตามสัญญานะ” เขมจิราเดินเข้ามาใกล้เขามากขึ้นเรื่อยๆ จนอีกฝ่ายต้องปิดจมูกเพราะกลิ่นเหม็นอับยิ่งชัดเจนมากขึ้น โต๊ะอื่นๆ ที่รายล้อมอยู่รอบตัวพวกเขาต่างเบือนหน้าหนีกันหมด “ยกชีวิตของเด็กคนนั้นให้ฉัน”

“ผมจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณหาแหวนวงนี้เองจริงๆ อีกอย่างมุมนั้นก็ดันไม่มีกล้องวงจรปิดด้วย บางที-”

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ก่อนจะไปหาแหวนฉันตั้งกล้องถ่ายวิดีโอไว้แล้วเรียบร้อย” พูดจบเขมจิราก็เปิดคลิปบางส่วนให้เขาดู คิดเอาไว้แล้วว่าชายเจ้าเล่ห์แบบเขาคงสามารถหาทางหนีทีไล่ได้แน่นอน “หวังว่าคุณจะทำตามที่พูดเอาไว้นะ”

เรวัชไม่ตอบกลับอะไร เขาคาดไม่ถึงไม่คิดว่าเขมจิราจะรอบคอบมากขนาดนี้ ส่วนเขมจิรายังคงยืนนิ่งไม่ไปไหนเพื่อรอคำตอบ

“พรุ่งนี้” เขาเริ่มพูดอีกครั้ง

“คุณหมายถึง?”

“พรุ่งนี้พวกเราจะไปเอาตัวของต้นน้ำกลับมา” เขาจ้องมองไปยังเธออย่างมาดมั่น ยกวิสกี้ขึ้นมาดื่มช้าๆ พร้อมกับสบตาเธออย่างไม่ลดละ “ส่วนคุณก็กลับไปได้แล้ว นี่การ์ดให้คุณเข้ามาได้ไงเนี่ย เหม็นชะมัด”

เขาบ่นอุบอิบอย่างไม่พอใจพร้อมทำจมูกฟุดฟิดเพื่อให้อีกฝ่ายขายหน้า เขมจิรานึกขึ้นได้ว่าสภาพของเธอตอนนี้นั้นแย่มากจึงเดินออกไปโดยไม่กล่าวลา

“พี่-” เขตเดินเข้ามาหา หลังจากที่เห็นเธอเดินจากไปแล้ว

“ไปสืบประวัติของเธอมาอย่างละเอียดที่สุด แล้วก็หาด้วยว่าเธอรู้แผนของเรามาจากใคร”

“เธอรู้แผนเรื่องที่เราจะ-”

“เธอรู้ทุกอย่าง” เขาตอบเสียงราบเรียบ นัยน์ตาคมกริบคู่นั้นมองแผ่นของผู้หญิงที่กำลังเดินจากไปอย่างสงสัยใคร่รู้

ถึงแม้ว่าเขาจะแพ้ในเกมนี้และแม้ว่าเขมจิราจะไม่ได้แสดงตนว่าเหนือกว่า แต่จากที่ได้พูดคุยกันทำให้เขามั่นใจว่าเธอรู้ว่าพวกเขาจะทำอะไรในอนาคต

แล้วเขาจะปล่อยให้เธอมาทำลายแผนนี้ได้อย่างไร?

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel