บท
ตั้งค่า

8. หาที่ลง

นาธานถูกสิงหาพามายังโซนของไนต์คลับด้านล่าง มือของอีกฝ่ายก็ไม่ยอมปล่อยออกจากคอเขาเลย แม้จะงงๆ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ เพราะว่าเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่สายตาของทุกคนนี่สิที่มองมามันกลับดูแปลก

“ปกตินายมาดื่มกับใครเหรอ” เสียงทุ้มของสิงหาดังขึ้น

“กับเพื่อนครับ ส่วนมากก็กลุ่มเคที่และขิม”

“งั้นเหรอ คงสนิทกันมานานสิท่า”

“อะไรของเขา หรือว่าจะมาหาข้อมูลของขิม คงไม่มั้ง ดูเขาก็ไม่เห็นจะสนใจเธอเลย” อีกฝ่ายครุ่นคิดในใจจนไม่รู้ว่าคนที่ตัวโตกว่าขยับเข้ามาใกล้แล้วตอนนี้

“ทำไมถามแค่นี้ก็เงียบไปงั้นเหรอ” สิงหาพูดขึ้นข้างหูของนาธาน ทำเอาเขาถึงกับขนลุกกันเลยทีเดียว

“เปล่าครับ แค่เห็นว่าปกติไม่มีใครสนใจถามแบบนี้”

“งั้นเปลี่ยนเรื่องก็ได้ นายมีแฟนหรือยัง” สิงหาถามออกไปตรงๆ เพราะเขาชอบนาธาน เลยอยากรู้ว่าอีกฝ่ายคิดยังไงกับเรื่องที่ผู้ชายคบกัน สิงหาไม่ชอบบังคับใคร แม้จะรู้สึกดีกับคนคนนี้มากก็เถอะ แอบมองอีกฝ่ายทุกวันแต่นาธานก็ยังไม่รู้ตัว

“เอ๋! ทำไมถามเรื่องนี้ล่ะครับ” เพราะสงสัยคนอย่างนาธานเลยไม่ทน เขาเองก็รู้สึกแปลกๆ ที่อีกฝ่ายเข้าใกล้ขนาดนี้ ผิดวิสัยของผู้ชายที่ไม่สนิทกันเอามากๆ

“แค่ตอบ ถ้านายมีแฟนฉันจะไม่ยุ่ง” เขาตอบตามตรง จนคนฟังถึงกับนิ่งไป กว่าจะพูดออกมาได้ก็นานเป็นนาที

“เอ่อ ไม่มีครับ แต่ก็ไม่เคยคิดจะชอบผู้ชาย” คนน้องตอบออกไป เพราะหวังจะตัดปัญหา

“ก็แค่ยังไม่คิด ถ้าเราได้คุยกันมากกว่านี้นายอาจจะชอบฉันก็ได้ ฉันรักจริงไม่เจ้าชู้หรอกนะ” เขาตอบเสียงหนักแน่น แต่คนฟังกลับยิ้มแหยใส่ เพราะตอนนี้อีกฝ่ายดูเหมือนจะขยับเข้ามาใกล้อีกแล้ว

“คนอะไรมั่นหน้าขนาดนี้ คนไม่ได้ชอบผู้ชาย จะให้รู้สึกได้ยังไง” นาธานนึกในใจพร้อมกับยกแก้วขึ้นกระดกจนหมด สิงหายิ้มมองอีกฝ่ายที่ดูท่าคงจะสับสนเอามากๆ เป็นแบบนี้แหละดี แค่คนน้องไม่ลุกขึ้นมาชกเขาก็พอ

“เอ้า! ไอ้ธารมึงอู้งานมาดื่มกับไอ้สิงอยู่นี่เอง ว่าแต่น้องขิมไปไหนแล้ววะกูไม่เห็นเลย” กันตะพูดขึ้น หลังจากที่เดินเลี่ยงออกมาจากเสี่ยอำพลได้

“น้องเขาก็ทำหน้าที่ของเขาสิ แล้วไอ้จินล่ะ”

“ไปเข้าห้องน้ำ ว่าแต่มึงสองคนทำไมมานั่งหลบมุมจู๋จี๋กันแบบนี้” กันตะยังไม่วายสงสัย

“เรื่องของกูต้องรายงานมึงด้วยเหรอ ว่าแต่ปาร์ตี้พรุ่งนี้เตรียมของขวัญอะไรให้เมียล่ะมึง มานั่งอยู่นี่เดี๋ยวก็ถูกบ่นหรอก” สิงหาย้อนอีกฝ่าย จนหน้าเสีย

“เออจริง เคที่น่าจะใกล้เลิกงานแล้วเดี๋ยว ไปก่อนนะ” กันตะรีบเดินออกจากมุมไปทันที จินตัยที่พึ่งมาถึงก็ได้แต่มองตามความเร่งรีบของเพื่อน

“อะไรของมัน จะรีบไปไหน” เขาพูดขึ้นก่อนจะนั่งลงข้างนาธาน พร้อมกับมองหน้าอีกฝ่ายไปด้วย

“อย่าถามเยอะ จะดื่มก็ดื่ม ไม่ดื่มก็ออกไป”

“เชี้ย! อะไรของมึงทำยังกะกูมาขัดจังหวะงั้นแหละ มึงกับกูยังไม่เคลียร์กันเรื่องน้องขิมเลยนะ”

“เคลียร์อะไรของมึง น้องเขาไม่สนมึงหรอก เลิกยุ่งได้เลย” สิงหาบอกเสียงเรียบ ทำเอาคนที่นั่งตรงกลางถึงกับทำตัวไม่ถูก ดูท่าคงต้องเป็นกรรมการให้สองคนนี้แล้ว

ด้านภารัญเขาอุ้มรมิตาเข้าห้องมา เขาวางคนน้องลงบนเตียง ทำเอารมิตาถึงกับตัวหดทันที เพราะดูจากคำพูดเขาก่อนนี้ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่พอใจ ซ้ำยังประกาศออกไปแบบนั้นอีก ไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไรกันแน่ นัยน์ตาคมของมาเฟียหนุ่มจ้องมองคนน้องนิ่ง

“เอ่อ! คุณพาฉันขึ้นมาทำไมคะ เหลืออีกตั้งสามชั่วโมงนะ ฉันถึงจะเลิกงาน” เธอถามเขาเสียงเบา ตอนนี้ไม่กล้าอวดเก่งกับอีกฝ่ายเลย ยิ่งเขาปีนขึ้นมาคร่อมตัวเธอเอาไว้ด้วย บอกเลยตอนนี้รมิตายิ่งกว่าลูกแมวเจอน้ำอีก

“ต่อไปนี้ไม่ต้องไปทำงานที่แผนกนั้นแล้ว ขึ้นมาเป็นเลขาให้ฉัน” เสียงทุ้มเอ่ยบอก แต่ไม่ยอมขยับตัวออกจากคนน้อง แถมยังเบียดตัวเข้าหาเธออีกต่างหาก จนตอนนี้สองขาเรียวของรมิตามีร่างแกร่งแทรกกายทาบทับอยู่

“คะ คุณทำไมถึงทับลงมาแบบนี้ล่ะ” เสียงหวานท้วงทันที เพราะดูท่าคนตัวโตคงไม่หยุดแค่นี้แน่

“ผัวอยู่บนตัวเมียมันก็เรื่องปกติอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ หรือว่าเธออยากอยู่บนฉันล่ะ” พูดจบรมิตาก็ถูกจับพลิกตัวให้มาอยู่ด้านบนแทนซึ่งมีแขนแกร่งกอดรัดเอาไว้ด้วย ใจดวงน้อยเต้นรัวทันที ภารันยื่นมือมาถอดแว่นตาคนน้องออก ทำให้ตอนนี้เขาได้เห็นดวงตาสีฟ้าครามอีกครั้ง และเชื่อว่าคงมีแค่เขาที่ได้เห็นมัน

“เมียใครน่ารักจัง” เสียงของเขาบ่งบอกให้รู้ว่าคิดแบบนั้นจริง ทำเอาคนถูกชมถึงกับอายหน้าแดงเพราะไม่ชิน คนพี่เห็นแบบนั้นก็ได้โอกาส มือเรียวรั้งท้ายทอยคนน้องลงมาประกบริมฝีปากโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัวทันที รมิตาเบิกตากว้างเพราะถูกจู่โจมอย่างรวดเร็ว กำปั้นน้อยยกขึ้นทุบอกแกร่ง เธอไม่อยากให้มันเกิดเหตุการณ์เหมือนวันนั้นอีก หากนานเกินไปเธอคงต่อต้านไม่ไหวแน่

“ปล่อยฉันนะเป็นบ้าอะไรของคุณเนี่ยะ สั่งห้ามฉันทุกอย่างแต่ดูการกระทำของคุณสิ ดีแต่ใช้แรงข่มเหงกันแบบนี้เหรอลูกผู้ชาย” คนน้องแผดเสียงก่นด่าเขาทันทีที่พ้นจากริมฝีปากหนา เธอจะไม่ยอมให้เขารังแกอีกต่อไปแล้ว

ภารัญนอนนิ่งมองอีกฝ่ายที่ตอนนี้น้ำตาลื่นออกมาจนหยดแหมะลงที่แก้มเขา ทำเอาใจแกร่งวูบไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อาการสับสนเกิดขึ้นในฉับพลัน มันจริงอย่างที่เธอว่าเขาคิดเอาเปรียบรมิตา เพียงแค่เห็นว่าเธอไม่ต่อต้านเท่านั้น แต่ที่น่าแปลกคือเขาหยุดความคิดไม่ได้ เวลาที่อยู่ใกล้เธอคนนี้ วงแขนใหญ่คลายออกจนอีกฝ่ายลุกออกจากเตียงไป

“จะไปไหนอีก” เขาถามเสียงเรียบ เมื่อเห็นคนน้องเดินไปที่ประตู แต่อีกฝ่ายกลับไม่ตอบทำให้เขาหงุดหงิดขึ้นมา

“จะลงไปหาไอ้สิงงั้นเหรอ”

“คุณอย่ามามั่วนะ ฉันจะกลับไปทำงาน” เธอย้อนเขาเสียงดัง ก่อนจะเปิดประตูออกไป

“หึ! อย่าให้รู้นะว่าลงไปอ่อยใคร ไม่งั้นเจอดีแน่” มาเฟียหนุ่มขบกรามแน่น เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องหงุดหงิดขนาดนี้ สุดท้ายก็ต้องลงมาข้างล่างเหมือนเคย และให้คนสนิทหาผู้หญิงให้ทั้งที่ตลอดทั้งเดือนเขาไม่เอ่ยปากเรื่องนี้เลย ทำเอาเก่งถึงกับงง

“มาแล้วครับนาย รออยู่ที่ห้อง” เก่งเดินเข้ามารายงาน พ้อมกับถึงอุปกรณ์ที่พึ่งซื้อมา ภารัญรับของก่อนจะเดินออกจากห้องไปยังชั้นห้องพักด้านบน สาวสวยถอดเสื้อผ้านอนรออยู่บนเตียงอย่างรู้งาน ยิ้มร้ายผุดขึ้นก่อนจะเริ่มถอดของตัวเองเหมือนกัน เพียงเท่านั้นดวงตาสวยของเธอก็เบิกกว้าง

“อุ๊ย!ใหญ่ดีจังเลยค่ะ ขอชิมได้ไหมคะ”

“ไม่ได้ หันหลังมาฉันจะกระแทกเธอให้จมเตียงไปเลย” มาเฟียหนุ่มพูดขึ้น เขากำลังหงุดหงิดไม่มีอารมณ์พูดดีดีกับเธอหรอก พออีกฝ่ายโก้งโค้งให้ ท่อนลำที่สวมเครื่องป้องกันแล้วก็ถูกสอดเข้าไปทันที

“อ๊า! ต้องแบบนี้สิ หึ! ต่อให้เธอไม่ยอมฉันก็มีคนอื่นอีกเยอะแยะที่ยอมรมิตา” เขาพูดขึ้น ก่อนจะเริ่มซอยสะโพกแกร่งของจัวเองเข้าออกร่องถ้ำของสาวสวยตรงหน้า

“เพียะ!! เพียะ!!” เสียงฝ่ามือฟาดลงที่ก้นขาว ภารัญไม่เคยปราณีคู่นอนเขาหรอก แม้บางครั้งตรงนี้จะไม่ค่อยแข็งก็เถอะ แต่ที่เห็นมันเป็นแบบนี้ก็เพราะเขาใช้ยา ไม่งั้นก็คงต้องทนอัดอั้นทรมานไปอีกแน่ๆ

พอนึกถึงคนที่ทำให้เขาต้องการ ภารัญก็ยิ่งขยับสะโพกตะบี้ตะบันใส่ไม่หยุด มือใหญ่เขาวางกดลงที่ลำตัวของอีกฝ่าย ก่อนจะยกเข่าชันขึ้นจนท่อนลำเข้าลึกกว่าเดิม ภารัญขบกรามแน่นตอนนี้เขาคิดว่าอีกฝ่ายคือรมิตา

เอวสอบเลยกระแทกลงไม่ยั้ง ราวกับว่ากำลังเอาอีกคนอยู่เสียอย่างนั้น จนคนใต้ร่างตัวสั่นคลอน แต่ดูเหมือนเธอจะถูกใจมากกว่าถึงได้ร้องครางขอให้เร็วขึ้นอีก

“อ๊า! แบบนี้ก็ดี ฮื้ม! ซี๊ด! เสียวดีจริงๆ” เสียงแหบพร่าดังออกมา ยิ่งนึกถึงคนตัวเล็กเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าเซ็กส์ครั้งนี้ใช้ได้ ท่อนลำใหญ่เองก็ทำหน้าที่ได้ดีจนพาให้เขาเสร็จ แต่กว่าจะปลดปล่อยก็เล่นเอาเขาเหนื่อยหอบ ช่วงล่างก็ยังคงแข็งตัวอยู่เพราะยาที่กินเข้าไป แต่เขากลับไม่ต้องการมันอีก สาวสวยถูกไล่ให้ออกไปจากห้อง พอดีกับที่รมิตาขึ้นมาเช็คกล้องวงจรปิด

ภารัญชะงักทันทีเมื่อเห็นคนน้องมองมาที่เขา ซึ่งรมิตาเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน เธอรีบเบือนหน้าหนีก่อนจะหันไปคุยกับชาญหัวหน้าฝ่ายราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ปัง!!

เสียงประตูปิดลงด้วยฝีมือภารัญ เขาคิดว่าจะได้เห็นสายตาตัดพ้อของรมิตาบ้าง แต่เปล่าเลย

“สงสัยนายคงหงุดหงิดผู้หญิงทำให้ไม่ถูกใจล่ะมั้งครับ” ชาญพูดขึ้นหลังจากที่เดินเลี่ยงออกมาแล้ว รมิตาเพียงแค่ยิ้มบางๆ เท่านั้น เธอทำงานต่อโดยที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยสักนิด กว่าจะถึงตีสอง ที่เป็นเวลาเลิกงาน รมิตาก็เหนื่อยอ่อน เพราะรับทำทุกอย่างถึงแม้จะไม่เกี่ยวกับหน้าที่ของตัวเองเลย วันนี้เธออยากทำให้ตัวเองยุ่ง จะได้ลืมเรื่องบางอย่างในหัว 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel