บทย่อ
หึ! การแต่งงานที่ผมไม่เต็มใจ จะให้ทำดีด้วยน่ะเหรอ ไม่มีทางซะหรอก กฎที่เธอต้องทำตามคือ ห้ามยุ่งเกี่ยวเรื่องส่วนตัว ห้ามวอแว ห้ามเข้าใกล้ แหกกฎเมื่อไหร่เจอดีแน่
1. สัมภาษณ์งาน
“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ" รมิตาก้มหน้ารับผิดที่เดินชนอีกฝ่าย เพราะเธอมัวแต่มองมือถือจนไม่ได้ดูว่ามีคนเดินสวนมา
"หึ! ถ้าจะเล่นโทรศัพท์ทำไมไม่นอนอยู่บ้านไปล่ะน้อง จะมาเดินในผับแบบนี้ทำไม" กันตะบ่นออกมาเสียงดังแข่งกับเพลงที่เปิดกระหึ่มอยู่
"ขอโทษจริงๆ นะคะ ขิมกำลังโทรหาเพื่อนอยู่ไม่ทันมองจริงๆ" เด็กสาวพูดขึ้น เธอแต่งตัวมิดชิดสวมเสื้อฮู้ดและหมวกแก๊ปสีดำ ปิดบังใบหน้าเอาไว้
"ไปเถอะ เด็กมันก็ขอโทษแล้วจะเอาอะไรนักหนา" ใครบางคนพูดขึ้นเสียงเรียบ ก่อนจะเดินนำเพื่อนซึ่งโต้เถียงกับรมิตาไปโดยไม่สนใจ ทำให้กันตะต้องผละหนีจากผู้หญิงที่แต่งตัวประหลาดในสายตาเขา
"อ้าว!ไอ้สิงษ์รอกูด้วยสิวะ" ร่างสูงวิ่งตามเพื่อนสนิทขึ้นด้านบนทันที ทำให้รมิตายืนหมุนตัวอยู่ท่ามกลางผู้คน
เธอเดินวนหาเพื่อนต่อแต่ก็ไม่พบ กว่าอีกฝ่ายจะส่งข้อความมาเธอก็เกือบจะออกจากร้านแล้ว รมิตามองมือถือก่อนจะถอนหายใจอีกครั้ง
"เฮ้อ! นี่เราต้องขึ้นไปหาข้างบนอีกเหรอเนี่ยะ ทำไมถึงไม่ลงมารับฉันให้มันจบๆ ไปนะไอ้เพื่อนบ้า" เธอบ่นกับตัวเอง ก่อนจะเดินขึ้นไปด้านบน
"พี่คะ ห้องวีไอพีสี่อยู่ทางไหนคะ" เธอถามการ์ดที่ยืนอยู่ไม่ไกล ดูเหมือนจะมาเฝ้าคนใหญ่คนโตนั่นแหละ
"มาหาใครล่ะ" เสียงเย็นของอีกฝ่ายถามมา ทำเอารมิตาอดขนลุกไม่ได้ แต่ก็ยิ้มสู้แล้วตอบกลับไป
"มาหาคุณจินตัยค่ะ นัดไว้จะมาสัมภาษณ์งาน"
"งั้นเหรอ ตามมาสิ" การ์ดหน้าหล่อแต่หุ่นล่ำบึกพูดขึ้น ก่อนจะเดินนำเธอไปยังโซนด้านใน รมิตามองดูการตบแต่งก็นึกขยาด เพราะคงจะแพงน่าดู
"ก็อก!ก็อก!" การ์ดยืนนิ่งตัวตรงเคาะประตูสองครั้ง จนคนด้านในเปิดออกมา รมิตาเองก็ถึงกับถอดใจ อยากกลับมันซะตอนนี้เลย
"เด็กที่จะมาสัมภาษณ์ครับคุณจิน"
"มาแล้วเหรอ เข้ามาเลยหุ้นส่วนอยู่กันครบพอดี" เสียงทุ้มน่าฟังพูดขึ้น ก่อนที่ประตูจะเปิดอ้าออกต้อนรับคนตัวเล็กเข้าไป รมิตาตัวหดเหลือนิดเดียวเพราะในห้องมีสาวสวยและผู้ชายนั่งรายล้อมกันเกือบสิบคน รวมถึงเพื่อนเธอที่แต่งตัวเหมือนเด็กนั่งดริ้ง ส่วนอีกคนก็หล่อเนี้ยบเชียว
"ขิมทำไมแกแต่งตัวแบบนี้ห๊ะ" เคที่หันมาบ่นเพื่อนทันที เพราะอีกฝ่ายใส่เสื้อผ้ายังกับว่าเมืองไทยอากาศติดลบเสียอย่างนั้น
"ก็ท่าจะให้แต่งแบบแกก็คงไม่ไหวมั้ง" เธอตอบเสียงเรียบ ก่อนจะยกมือไหว้ทุกคนที่อยู่ในห้องแล้วสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่ร่างสูงของใครบางคน ภารัญ ศิวะพิพัฒน์ธีรกุล หรือภาม นักธุรกิจใหญ่ผู้มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่ง เรียกได้ว่าเขาคือมาเฟียตัวพ่อ ที่เย็นชาไร้หัวใจก็ว่าได้
และที่สำคัญเขาคือสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของเธอ แค่เข้ามาในห้องนี้รมิตาก็ตัวหดเหลือนิดเดียวแล้ว ยิ่งมาเจอคนหน้ายักษ์มองอยู่อีก บอกเลยว่าโคตรจะอึดอัด
"เขาคงไม่คิดว่าเราจะตามมาหรอกนะ" เธอคิดในใจ ดวงตาสวยใต้กรอบแว่นไม่กล้าแม้แต่จะเงยขึ้นมอง
"คนนี้เหรอที่มาสมัครเป็นช่างเทคนิค" ภารัญถามขึ้นทันที พร้อมกับยิ้มเหยียดคนตัวเล็ก เขารู้ว่าเธอเรียนจบแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะมีความสามารถมาทำงานในเครือของเขาได้ เพราะต้องสอบหลายอย่าง
"เออ น้องคนนี้แหละ ที่ซ่อมเครื่องให้ตอนที่มาฝึกงาน แต่พอจบก็หายไปเลยดีนะที่ยังติดต่อได้" จินตัยพูดขึ้น
จะไม่ให้หายไปได้ยังไง เรียนจบเธอก็แต่งงานกับพ่อหนุ่มหล่อมาดเท่ห์ ที่มีสาวสวยนั่งขนาบข้างถึงสองคนนี้แหละ แล้วดันมาเป็นหุ้นส่วนของที่นี่อีก แต่อันที่จริงมันคือคาสิโนของสามีเธอต่างหาก คนอื่นมีหุ้นแค่เล็กน้อย เรื่องพวกนี้รมิตาไม่เคยรู้และไม่อยากรู้
เพราะข้อเสนอที่อีกฝ่ายยื่นมาให้ เธอต้องรีบตะครุบไว้อยู่แล้ว แค่รอให้หมดสัญญาเท่านั้น และเขาก็ตั้งกฎขึ้นมาแล้วว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกัน ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น ครบสองปีเมื่อไหร่ตอนนั้นเธอจะได้รับใบหย่าทันที และอีกฝ่ายยังอนุญาตให้ออกมาหางานทำได้ เธอเลยตอบตกลง แต่ไม่คิดว่าจะมาเจอกันที่นี่น่ะสิ
"ถอดแว่นออกเลยขิม แกจะใส่มาทำไมเนี่ย แล้วชุดนี้ก็เหมือนกัน" นาธานบ่นเพื่อนสนิททันที ไม่ใช่ว่าอายอะไรหรอก แค่กลัวคนอื่นจะหัวเราะเยาะเธอเท่านั้น
"ไม่เอาฉันสะดวกแบบนี้" รมิตาตอบเสียงใส ก่อนจะหันไปหาคนที่บอกจะสัมภาษณ์เธอ แต่อีกฝ่ายก็มองมาด้วยสายตาตำหนิ
"พี่เข้าใจว่าน้องสะดวกแบบนี้ แต่ยังไงก็ช่วยถอดเสื้อนอกออกได้ไหม บอกตรงๆ รู้สึกขัดตามากเลย" จินตัยพูดขึ้น ทำให้ในห้องต่างก็พากันหัวเราะชอบใจ ยกเว้นเพื่อนสนิทของเธอที่หน้าเจื่อนไปทันที
รมิตาเห็นแบบนั้นก็ไม่อยากทำให้เพื่อนต้องลำบากใจ เธอเลยลุกขึ้นถอดเสื้อฮู้ดเต็มตัวออก เผยให้เห็นชุดเดรสสีฟ้าอ่อนผูกไหล่สองข้าง เว้ามาถึงเนินอกอวบยาวมาถึงเข่า ทำเอาทุกคนต่างก็เงียบเสียงหัวเราะเมื่อครู่
เธอถอดหมวกออกก่อนจะปล่อยผมที่มัดรวบลงมาดูน่ามอง แต่ก็ยังสวมใส่แว่นปิดบังดวงตาสีฟ้าครามเอาไว้ เพราะไม่อยากให้ใครถามถึงที่มาให้เจ็บปวดอีก มือเล็กพับเสื้อฮู้ดวางไว้ข้างตัว ก่อนจะยิ้มส่งให้คนที่จะสัมภาษณ์ตามมารยาท แล้วถามอีกฝ่ายขึ้น
"พอได้ไหมค่ะ คือขิมไปงานแต่งเพื่อนมา ไม่คิดว่าคุณจินจะเปลี่ยนมาสัมภาษณ์วันนี้ เลยกลัวจะเสียมารยาทมากกว่าถ้ามาชุดนี้"
"แบบนี้แหละครับดูน่ามองมากเลย น้องขิมน่ารักขนาดนี้มีแฟนหรือยังครับ" คนที่ตอบไม่ใช่ใคร แต่เป็นกันตะคนที่ต่อว่าเธอก่อนจะขึ้นมาที่นี่นั่นแหละ
"พอเลยมึง น้องเขามาสัมภาษณ์งาน" สิงหาพูดขึ้นหลังจากที่นั่งเงียบอยู่นาน เขาเองก็จ้องเธอไม่วางตาเหมือนกัน ทำเอาคนที่นั่งกระดกเหล้าอยู่ถึงกับคิ้วขมวด และดูเหมือนจะหงุดหงิดขึ้นมา
"ที่อื่นไม่มีทำหรือไงถึงมาที่นี่" เสียงเย็นดังขึ้น
"เฮ้ย! อะไรของมึงไอ้ภาม มึงเองไม่ใช่เหรอที่ตกลงรับเป็นคนแรก หลังจากที่รู้ว่าน้องเขาซ่อมเครื่องได้ เปลี่ยนใจตอนนี้ไม่ได้นะเว้ย" จินตัยพูดขึ้นเสียงดัง
"กูก็แค่ถามเฉยๆ มึงจะอะไรนักหนา" ภารัญพูดตอบกลับไปหน้าตาย ก่อนจะหันมาคลอเคลียคนข้างกายต่อ
"เออ! ไม่อะไรก็ดี ยุ่งกับเด็กมึงไปนั่นแหละดีแล้ว" กันตะพูดขึ้น ตอนนี้เขาตั้งท่าจะจีบคนตัวเล็ก เลยคิดจะกำจัดเพื่อนสนิทที่โปรไฟล์ดีกว่าทิ้งไป
"เอาเป็นว่าไม่ต้องสัมภาษณ์อะไรมากแล้วกัน วันจันทร์น้องทั้งสามมาเริ่มงานเลยนะ ว่าแต่พักกันไกลหรือเปล่า" จินตัยหันมาถามเสียงอ่อนโยน
"ไม่ค่ะ เคที่มาพร้อมขิมได้" สาวสวยหุ่นเซ็กซี่พูดขึ้น
"เอ่อใช่ยังไม่รู้ชื่อน้องเลย ลืมแนะนำตัวนะเรา"
"ชื่อรมิตาค่ะ ชื่อเล่นขิม" เสียงหวานใสตอบออกไป ก่อนจะยิ้มส่งให้ตามมารยาท แต่คนรับกลับใจฟูจนบอกไม่ถูก
"ชื่อเพราะนะครับ"คนถามเอ่ยชมต่อหน้าทุกคน
"เคร้ง!!"
"อะไรของมึงไอ้ภาม วางเบาๆ ก็ได้" กันตะหันไปดุเพื่อนสนิททันที
"พอดีน้องเขาโดนจุดเสียวกูอ่ะ เลยมืออ่อน" ภารัญตอบออกมาหน้าตาย แต่สายตากลับเหลือบไปมองภรรยาในนามของเขา ที่ตอนนี้กำลังนั่งคุยอยู่กับเพื่อนผู้ชาย ไม่หันมามองเขาเลยสักนิด
"หึ! หวังว่าจะนิ่งได้ตลอดนะรมิตา" ภารัญนึกในใจ ห้าเดือนก่อนแต่งงานกับเธอ เขาอยากจะบีบคออีกฝ่ายให้ตาย เพราะสัญญาบ้าบอของปู่ที่มีต่อกัน กับเพื่อนรักสมัยที่ยังไม่ประสบผลสำเร็จเหมือนอย่างทุกวันนี้
ทางด้านครอบครัวของรมิตาช่วยเหลือเอาไว้มาก เลยตกลงว่าถ้ามีหลานจะเอามาเกี่ยวดองกัน และกรรมก็ตกมาที่เขา ถ้าแต่งกับพี่สาวของเด็กคนนี้ยังพอฟัง เพราะอีกฝ่ายทั้งสวยและเรียนเมืองนอกมา และอายุก็ไล่เลี่ยกับเขา แต่เด็กนี่ห่างกันตั้งสิบสี่ปี
ใช่ รมิตาอายุห่างจากภารัญมาก เพราะตอนนี้เขาสามสิบห้าแล้ว แต่ยังคงรักสนุกไม่อยากผูกพันธ์กับใคร สุดท้ายก็โดนบังคับเพราะเหลือเขาคนเดียวที่ยังไม่แต่งงาน แต่คนอย่างเขาเหรอจะยอมง่ายๆ
ข้อต่อรองในการแต่งงานคือสองปี เธอจะต้องหย่าให้เขา กฎเหล็กก็ตั้งขึ้นมาเพื่อไม่ให้รมิตาล้ำเส้น ไม่ว่ายังไงห้ามยุ่งเกี่ยวเรื่องส่วนตัว วอแว และห้ามเข้าใกล้เขาเด็ดขาด และรมิตาก็ทำตามทุกอย่าง เพราะเธอเองก็ไม่ได้เต็มใจเหมือนกัน และที่สำคัญเรื่องนี้ต้องเก็บเป็นความลับห้ามให้ใครรู้
# ทำเป็นเข้มนะคุณภาม