2. ทำงานวันแรก
หลังจากวันสัมภาษณ์งาน ที่ดูไม่เหมือนการสัมภาษณ์เลยสักนิด รมิตาก็ได้มาเริ่มงานแล้วในวันนี้โดยเข้ากะตอนห้าโมงเย็น เธอได้รับการต้อนรับอย่างดีจากรุ่นพี่ในแผนก ซึ่งเป็นห้องทำงานขนาดใหญ่พอดู มีโต๊ะทำงานแยกเป็นสัดส่วนเหมือนออฟฟิศในสำนักงานใหญ่ ดูเหมือนเจ้านายของบริษัทนี้จะดูแลใส่ใจลูกน้องเป็นอย่างดี
"น้องขิมนั่งโต๊ะนี้นะครับ พี่ชินทำความสะอาดให้แล้ว" ชินพูดขึ้นอย่างเอาใจ เขาเป็นคนเจ้าชู้ เห็นพนักงานสาวๆ เข้ามาไม่ได้ ต้องอ้อล้อก้อติดอยู่ตลอด
"ขอบคุณมากนะคะ" รมิตายกมือไหว้อีกฝ่าย ก่อนจะยิ้มแหยออกมา เพราะดูเหมือนเขาจะมือไวมาก ทำท่าจะโอบบ่าเธอเสียอย่างนั้น
"ไอ้ชินจะทำอะไรน้องห๊ะมึงน่ะ" พงษ์สิทธิ์หัวหน้าฝ่ายควบคุมเดินเข้ามาส่งเสียงดังใส่ทันที ทำเอาคนที่กำลังจะโอบไหล่รมิตาถึงกับสะดุ้ง
"บ้าเหรอ ใครจะไปทำอะไรน้องตัวเล็กแค่นี้"
"เออ ไม่ทำอะไรก็ดี รีบไปเช็คคอมพิวเตอร์ที่ห้องคุณภามเลย เห็นว่าเครื่องมันค้างอีกแล้ว ให้ไวนะมึง เดี๋ยวนายเข้ามาโดนดีแน่"
"คร้าบ ไปเดี๋ยวนี้แหละ พี่ไปก่อนนะน้องขิม ยังไงตอนพักกินข้าวรอพี่ด้วยนะ วันนี้พี่จะเลี้ยงต้อนรับ" ร่างสูงของรุ่นพี่เดินออกไปแล้ว รมิตาถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ทันที ก่อนจะออกไปตรวจระบบกับเพื่อนร่วมงาน
เพื่อดูว่าอะไรอยู่ตรงไหน เพราะที่นี่มีถึงสิบเก้าชั้น แบ่งเป็นโซนอย่างชัดเจน ชั้นแรกเป็นไนต์คลับและผับแบ่งอย่างละครึ่ง ชั้นสองเป็นบาร์นั่งดื่มและห้องวีไอพีที่มีโต๊ะสนุกเกอร์ด้านในมากกว่าสิบห้อง สองชั้นบนเป็นคาสิโนที่เหล่าเศรษฐีมักมาเสี่ยงโชคกัน และมีห้องทำงานใหญ่ของภารัญซึ่งสามารถมองเห็นนักพนันที่มาเสี่ยงโชคได้ด้วย ส่วนชั้นห้าคือสำนักงานฝ่ายบัญชีและทุกแผนก
ชั้นหกขึ้นไปคือโรงแรมห้องพักสุดหรู ที่ตกคืนละหนึ่งหมื่นบาท รมิตาใช้เวลาในการเดินสำรวจกว่าสามชั่วโมง แต่ก็ยังไม่ทั่วเพราะที่นี่ใหญ่มาก ไม่คิดว่าสามีเธอจะรวยขนาดนี้ แต่ก็นั่นแหละมาเฟียทรงอิทธิพลนี่นะ
"เป็นไงบ้างขิม" เคที่ถามขึ้นเมื่อเจอกันโดยบังเอิญที่ชั้นสอง ซึ่งเป็นส่วนของบาร์นั่งดื่ม
"อืม ก็ดี ว่าแต่แกล่ะเป็นไง"
"สบายมาก ทำบัญชีเสร็จว่าจะลงมาหาอะไรกิน"
"งั้นแกไปก่อนเถอะ พอดีฉันจะขึ้นไปดูกล้องที่ชั้นสี่หน่อย เห็นว่ามันไม่หมุน น่าจะคอหักไปแล้วมั้ง" รมิตาตอบติดตลก ทำเอาคนที่พึ่งเดินเข้ามาถึงกับหัวเราะ
"เออ ถ้ามันหักจริงแล้วแกจะทำให้มันมีชีวิตอีกได้หรือไงวะ" นาธานพูดแซวเพื่อน พร้อมกับยกมือขึ้นคล้องคออีกฝ่ายด้วย เพราะเขาทำแบบนี้เป็นประจำ นาธานกับรมิตาโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก เลยสนิทกันมาก เรื่องนี้เคที่รู้ดี
"แกไม่รู้เหรอว่าฉันมันหัตถ์เทวดานะจะบอก อะไรที่ตายไปแล้วก็ฟื้นได้ทั้งนั้นเพราะมือนี้เลยนะแก" รมิตาพูดพร้อมกับขยับแว่นไปด้วย
"ชิ! แกน่ะเหมือนโคนันมากกว่าอีก ไปดีกว่าหิวแล้ว" เคที่พูดขึ้นก่อนจะหยุดชะงัก เมื่อเห็นหนุ่มหล่อเจ้าของคาสิโนแห่งนี้
"อุ๊ยคุณภามมายืนตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ยะ" เสียงหวานทักทายอีกฝ่ายทันที แต่ดูเหมือนภารัญจะไม่ได้สนใจสาวสวยตรงหน้าเลยสักนิด เขามองผ่านมายังร่างเล็กของรมิตา ซึ่งตอนนี้มีเพื่อนชายยืนขนาบข้างอยู่
"หึ!" เสียงจากลำคอเจ้าของคาสิโน ฟังดูรู้ทันทีว่าคิดยังไงกับภาพตรงหน้า เขายกยิ้มก่อนจะเดินผละออกไปจากตรงนี้ด้วยท่าทางเรียบเฉย
รมิตามองตามพร้อมกับเบ้ปากใส่ ก่อนจะแยกขึ้นไปตรวจงานต่อที่ชั้นสาม ซึ่งเป็นส่วนของคาสิโน เธอแยกจากเพื่อนตรงไปยังลิฟต์ และมีร่างสูงของสามียืนอยู่ด้วย
ภารัญหันมาหาคนตัวเล็ก ก่อนจะใช้สายตามองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า
"หึ! อย่าให้ใครรู้เชียวนะว่าเธอแต่งงานกับฉัน น่าขายหน้าจริงๆ" เสียงหยันดังขึ้น ก่อนจะก้าวเท้าเข้าลิฟต์ พร้อมกับกดปิดมันทันที จนเกือบจะหนีบเอาคนที่กำลังเดินเข้ามา รมิตาเงยหน้ามองเขา ก่อนจะยิ้มส่งให้ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"หน้าด้าน" คนตัวโตยังไม่วายก่นด่าอีกฝ่าย เพราะหงุดหงิดที่เธอดูจะไม่สนใจคำพูดหรือการกระทำเขาเลย ทำขนาดนี้แล้วเธอก็ยังตีหน้าเฉยอีก พอลิฟต์เปิดรมิตาก็เดินออกไปทันที โดยไม่ได้หันมามองอีกฝ่ายเลย
"น้องขิม รอก่อนครับ" จินตัยร้องทักเมื่อเห็นเธอเดินออกมาจากลิฟต์ จนไม่ได้มองว่ายังมีใครอยู่ข้างใน
"สวัสดีค่ะคุณจิน" เสียงหวานเอ่ยตอบพร้อมกับยกมือไหว้อีกฝ่ายด้วย เพราะเขาก็รุ่นเดียวกับสามี
"ทานข้าวหรือยังครับ นี่ก็จะห้าทุ่มแล้วนะ" เสียงทุ้มไถ่ถาม พร้อมกับสายตาอ่อนโยนที่ส่งให้คนตรงหน้า ทำเอารมิตาถึงกับยิ้มแห้ง เพราะดูเหมือนอีกฝ่ายตั้งใจเข้าหา
"ยังค่ะ พอดีขิมยังอิ่มขนมปังอยู่เลย เชิญคุณจินเลยนะคะ" เธอตอบเลี่ยงทันที เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาตามมา ยิ่งเห็นท่าทางจับผิดของคนด้านหลังด้วยแล้ว เธอยิ่งไม่อยากยุ่งกับกลุ่มเพื่อนของภารัญ
"เด็กมันไม่อยากไปด้วยก็อย่าไปฝืนเลย เดี๋ยวแฟนตัวจริงเขาจะเข้าใจผิดเอาได้" ภารัญพูดขึ้นเสียงดัง พร้อมกับเดินเข้ามาใช้มือโอบไหล่เพื่อน
"ฟะ แฟน หมายความว่าน้องขิมมีแฟนแล้วงั้นเหรอ คะใครครับ" จินตัยถามเสียงตะกุกตะกัก รมิตามองสามีที่ยกยิ้มมองอยู่ คงกลัวว่าเธอจะมาจับเพื่อนๆ เขานั่นแหละ เสียงถอนหายใจดังขึ้นก่อนจะตอบออกไปเพื่อตัดปัญหา
"ขิมมีแฟนแล้วค่ะ พอดีสามีอนุญาตให้มีได้" คำตอบของรมิตาทำเอาภารัญถึงกับลมออกหู พร้อมกับขบกรามแน่นเพราะไม่สามารถตอบกลับอะไรอีกฝ่ายได้
เพราะเธอเดินหลบเข้ากลางฝูงชนที่กำลังเสี่ยงโชคแล้ว
"มะ หมายความว่าไงวะ ตกลงน้องมีทั้งแฟนและผัวเลยเหรอ ได้ไงเนี่ยะ" จินตัยยังคงสับสนในคำตอบของรมิตา แต่แทนที่เพื่อนสนิทจะพูดอะไร เขากลับเดินเข้าห้องทำงานไปด้วยท่าทางหงุดหงิด
"อะไรเนี่ยะ!!! ทำไมไอ้ภามมันถึงตั้งแง่กับน้องนักวะ รมิตาก็ดูเหมือนจะไม่กลัวมันเหมือนคนอื่นๆ เลย โอ๊ย! ยิ่งคิดยิ่งงง"
ในห้องทำงานของภารัญตอนนี้เขากำลังยืนมองนักพนันด้านล่าง สายตาเหลือบไปเห็นสาวสวยในชุดเดรสสั้นสีแดง ยิ้มร้ายก็ผุดขึ้นมาทันที ก่อนจะเดินลงไปเพื่อตะครุบเหยื่ออย่างที่ตั้งใจ รมิตามองตามร่างสูงของสามี ซึ่งดูเหมือนจะเร่งรีบมาก เขาหยุดยืนข้างกายสาวสวย ก่อนจะใช้มือโอบเอวเธอเอาไว้
"แทงสีแดงสิครับ มันเป็นสีนำโชคนะ" เขาบอกเสียงกระเส่า
"แทงเลยเหรอคะ ไม่ลองดูก่อนเหรอสักตา เอมพึ่งมาถึงเองนะ"
"แทงเลยสิครับ ไม่งั้นจะรู้ได้ไงว่ามันจะวินหรือเปล่า"
"งั้นก็เอาสิคะ" เสียงหวานตอบแค่นั้น ก่อนที่ทุกอย่างจะไปจบลงที่เตียง บนห้องนอนชั้นหกของคาสิโน เสียงกระเส่าดังขึ้นแข่งกันราวกับคนออกวิ่ง ภารัญจัดว่าเป็นเสือหิวตัวหนึ่ง เรียกได้ว่าแค่กระดิกนิ้วก็มีสาวๆ เดินเข้ามาหาแล้ว มือหนาบีบเค้นเนินเขาของอีกฝ่าย ซึ่งจับดูแล้วก็รู้ว่ามันคือของปลอม แต่มันไม่ใช่อุปสรรคใหญ่สำหรับเขาแม้แต่น้อย ตอนนี้มือเรียวกำลังเอื้อมเข้าไปรั้งชุดเดรสของอีกฝ่ายให้ร่นขึ้น แต่จู่ๆ ก็มีคนเปิดประตูเข้ามา
"ไอ้ภามหยุดเลยนะมึง" สิงหาตะโกนเสียงดัง ทำให้ร่างสูงของภารัญต้องหยุดชะงัก ในขณะที่เขากำลังคร่อมร่างของอีกฝ่ายอยู่
"ว๊าย!! เข้ามาได้ยังไงเนี่ยะ"เสียงของสาวสวยดังขึ้นอย่างตกใจ
"พวกมึงเข้ามาขัดจังหวะกูทำไม ออกไป!!" ภารัญพูดขึ้นอย่างหัวเสีย เพราะกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มแท้ๆ
"ไอ้เก่งพาเด็กนายมึงออกไปสิ แม่ง! ไม่กลัวตายเลยมั้งมาหลอกเพื่อนกูเนี่ยะ" สิงหาพูดขึ้น เขามองหน้าเพื่อนซึ่งดูเหมือนมันจะไม่สบอารมณ์ที่ถูกขัดจังหวะ
"พวกมึงทำแบบนี้ทำไม กูอารมณ์ค้างใครจะรับผิดชอบ" ภามบอกเสียงหงุดหงิด แต่ก็ไม่ได้โกรธมากมายนัก คิดว่าเพื่อนคงมีเหตุผลเพียงพอที่ทำแบบนี้
"ผู้หญิงมีเยอะแยะทำไมมึงไม่เอาวะ" จินตัยพูดขึ้น ทำเอาภามถึงกับคิ้วขมวดทันที
"มึงพูดแบบนี้หมายความว่าไง นี่อย่าบอกนะว่า" ภามถามเสียงติดขัดด้วยอาการตื่นตระหนก
"เออ! น้องเขาเป็นสาวสอง แปลงมาทุกอย่างแล้ว มึงนี่ฉลาดทุกเรื่อง แต่ดันไม่มีเซ็นต์เรื่องนี้เลยสักนิด ขนาดเคยโดนมาแล้วแท้ๆ" กันตะพูดขึ้นเสียงเรียบ
ภามชะงักงันไปไม่คิดว่าเขาจะพลาดเรื่องนี้เป็นครั้งที่สองอีก มันเป็นความทรงจำที่บาดลึกในใจเขามานาน ตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย เขาคบผู้หญิงคนหนึ่งจนอยากสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่จู่ๆ เธอก็อยากให้เขาร่วมเพศตามแบบเพศที่สาม ซึ่งเขาไม่โอเคกับเรื่องนี้เท่าไหร่นัก
แต่ก็จบลงที่เขายังอยู่กับเธอต่อไม่ทำแบบที่เธอต้องการ เพราะรักอีกฝ่ายมากจึงตัดสินใจจะจดทะเบียนกับเธอ แม้ว่าพ่อแม่เขาจะคัดค้านให้เรียนรู้กันไปก่อน แต่เขาก็ยังดึงดันจะทำให้ได้
สุดท้ายความมาแตกเมื่อเธอไม่ยอมจดทะเบียนกับเขา เพราะกลัวภารัญรู้ว่าคำนำหน้าคือ นาย เรื่องเขาระหว่างเธอเลยจบตรงนั้น และกลายเป็นปมให้ภารัญจนถึงทุกวันนี้
#อีพี่เขามีปมแหละเนาะ
#เนื้อหาตอนนี้ไม่ได้มีเจตนาเหยียดเพศแต่อย่างใด ไรท์ต้องการสื่อไปในเรื่องของคนรักที่ไม่ซื่อสัตย์ การหลอกลวงไม่จริงใจ ถ้ากระทบจิตใจใครขออภัยด้วยนะคะ