5. เจ้าเล่ห์
ภารัญดันหลังคนน้องให้เข้าไปในห้องน้ำ
“ลองซ่อมดูสิ ทำไมมันถึงไม่ไหล” เขาบอกพร้อมกับยืนกอดอกบังประตูเอาไว้ รมิตาเลยต้องหันไปเช็คตามที่เขาบอก พอหมุนเปิดน้ำเท่านั้นแหละ ตัวเธอก็เปียกทันที เพราะคนตัวโตเปิดระบบด้านบนเอาไว้ เรียกง่ายๆ ก็คือเขาตั้งใจแกล้งเธอนั่นแหละถึงได้เรียกมา
“เอ้า! อยากอาบน้ำก็ไม่บอก ดูสิเสื้อผ้าก็ไม่ถอด” เขาแซวคนน้องทันที พร้อมกับทำหน้ากวนใส่
“สนุกมากไหมคะ” รมิตาถามเสียงเรียบ พร้อมกับยกมือขึ้นปิดน้ำที่ยังคงไหลลงมาจนเปียกชุ่มไปทั้งตัว ก่อนจะลูบหน้าตัวเองเพื่อให้มองเห็นหน้าอีกฝ่ายชัดเจน ภารัญรีบหุบยิ้มทันที ก่อนจะทำทีตีหน้าขรึมต่อ
“สนุกสิ ก็เธออยากมาวอแวเข้าใกล้ฉันเอง บอกแล้วไงว่าถ้าทำแบบนี้เธอเจอดีแน่” เขายังคงปากดีใส่คนน้องอีก
“แน่ใจเหรอว่าฉันทำแบบนั้น หึ! ถ้างั้นก็ถอยฉันจะออกไปจากห้องของคุณ” เธอบอกเสียงแข็งใส่อีกฝ่ายเหมือนกัน คนที่ร้ายมารมิตาไม่จำเป็นต้องดีตอบ เธอเป็นคนมีเหตุผลและสติมากพอ แต่ก็ต้องเลือกว่าจะใช้มันกับใคร คงไม่ใช่คนตรงหน้านี้แน่
“อย่ามาทำเก่งรมิตา ตัวเปียกขนาดนี้จะลงไปได้ยังไง ดูเสื้อสิบางจนจะเห็นหัวนมอยู่แล้ว” ภารัญพูดอย่างหัวเสีย เมื่อคนน้องบอกว่าจะออกไปทั้งอย่างนี้
“หึ!สนใจทำไม ยังไงคุณกับฉันก็ไม่เกี่ยวกันอยู่แล้ว ใครจะมองยังไงก็ไม่มีทางเสียมาถึงคุณแน่” คนตัวเล็กตอบกลับทันควัน ทำเอามาเฟียหนุ่มถึงกับชะงัก
ก่อนจะขบกรามแน่นแล้วทำในสิ่งที่ทั้งคู่เองก็ไม่คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้น นั่นคือดันคนน้องจนติดผนัง แล้วพรมจูบไปทั่วใบหน้าสวย ก่อนที่เขาจะมาหยุดลงที่ปากอิ่มของเธอ ที่พยายามหันหนี แต่ก็ไม่รอดอุ้งมือใหญ่ของอีกฝ่ายที่จับตรึงเอาไว้จนขยับไปไหนไม่ได้
เขาขบเม้มริมฝีปากคนน้องให้เปิดออก จนเธอเผยอปากร้องเพราะรู้สึกเจ็บ เพียงเท่านั้นปลายลิ้นชื้นของคนตัวโตก็ได้โอกาสสอดแทรกเข้าไป สัมผัสหวานละมุนคราแรกที่แตะกันทำเอารมิตาถึงกับขนลุกซู่ เพราะเธอยังไม่เคยถูกใครล้วงล้ำขนาดนี้มาก่อน
เสียงครางต่ำพอใจของภารัญทำเอาคนน้องอดคล้อยตามไม่ได้ เขาเก่งและสามารถชักพาให้เธอตกหลุมพลางโดยไม่อาจต่อต้าน ยิ่งถูกบีบเค้นเนินอกจากมือหนาของสามีด้วยแล้วรมิตาแทบจะลืมหายใจเลยด้วยซ้ำ
อารมณ์ของภารัญตอนนี้เรียกว่ากู่ไม่กลับแล้ว เขาลืมคำพูดทุกอย่างของตัวเอง มีแค่ความต้องการตรงหน้าเท่านั้นที่เขาอยากระบายมันออก รมิตาตัวอ่อนอยู่ภายใต้ร่างแกร่งที่เบียดเข้าหาเธอจนติดผนัง เขารั้งท้ายทอยเธอให้แหงนขึ้นมารับจูบที่มันเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ ภารัญไม่จูบกับใครมานานมากแล้ว ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้นตอนเรียนมหาลัย รมิตาคือผู้หญิงคนแรกหากไม่นับแฟนสาวสองของเขา
พอได้สัมผัสแบบนี้ก็ยิ่งไม่อยากหยุดมันเลย พออีกฝ่ายเริ่มตอบรับกลับมามันยิ่งทำให้เลือดในตัวเขาสูบฉีด ซึ่งคนน้องก็รู้สึกไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก เพราะถูกกระตุ้นหนักเหลือเกิน แต่ยังดีที่เธอยังพอหลงเหลือสติอยู่บ้าง ทันทีที่ริมฝีปากหนาผละออก แล้วก้มลงดูดกินเม็ดทับทิม ซึ่งเผยออกมาเพราะเขารั้งเสื้อลง เธอก็ร้องท้วงทันที
“พอแล้ว พอซะที คุณทำบ้าอะไรเนี่ยะ จะรังแกกันไปถึงไหน” เสียงสั่นเครือดังขึ้น ทำเอาอีกฝ่ายชะงักไปด้วย ภารัญผละปากออกจากเนินเขาและเม็ดทับทิมสีแดงที่พึ่งจะได้กลืนกินมันไม่ถึงครึ่งนาทีด้วยซ้ำ
เขาหน้าถอดสีเมื่อเห็นคนน้องร้องไห้ ก่อนจะดึงเสื้อที่ถูกกระชากจนกระดุมหลุดขึ้นมาปิด มือหนารั้งเอาคนน้องเข้ามากอด ตอนนี้เขารู้ตัวแล้วว่าทำผิดมากที่ไม่ยอมยับยั้งชั่งใจ อารมณ์ชั่ววูบเกือบทำทุกอย่างพัง
“ขอโทษนะ เธออาบน้ำเถอะ เดี๋ยวฉันจะออกไปบอกเก่งให้เอาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน” เสียงทุ้มบอกก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำ และยังไม่ลืมล็อคประตูให้คนน้องด้วย เพื่อกันตัวเองไม่ให้ทำเรื่องบ้าๆ นี่อีก เพียงแค่สองวันที่อีกฝ่ายเข้ามาอยู่ใกล้ มันก็ทำให้เขาสติแตกได้ขนาดนี้ ลืมคำพูดของตัวเองจนหมด
รมิตาอยู่ในห้องน้ำนานพอสมควร หวังให้คนข้างนอกคุมอารมณ์ตัวเองได้ เธอถึงจะออกไป เสียงเคาะประตูห้องน้ำดังขึ้น พร้อมกับเสียงของสามี
“ฉันจะลงไปข้างล่าง เปลี่ยนเสื้อผ้าซะ แล้วไม่ต้องลงไปอีกนะ คืนนี้นอนที่นี่ ถ้าเธอไม่ฟังที่ฉันบอก อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะรมิตา” เขาออกคำสั่ง ก่อนจะวางถุงผ้าบนโต๊ะหน้าห้องน้ำ เสียงประตูปิดลง รมิตาถึงได้ออกมา เธอรีบหยิบเอาเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยน ก่อนจะเป่าผมให้แห้งแล้วออกมา ภายในห้องดูว่างเปล่าจนเธอถอนหายใจ
“เฮ้อ! เขาเป็นบ้าอะไรขึ้นมาเนี่ยะ หรือเก็บกดเรื่องเมื่อวาน เลยอยากหาที่ลง” เสียงหวานเอ่ยออกมาเบาๆ เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
“แต่ตอนนี้คงลงไปหากินแล้วมั้ง” เธอพูดขึ้นเบาๆ อีกครั้ง แต่คราวนี้ใจดวงน้อยมันกลับวูบไหวเหมือนบางอย่างขาดหายไป มันเต้นรัวกระตุกเป็นบางครั้งจนเธอรู้สึกหดหู่ยังไงไม่รู้ มือเล็กวางลงที่หน้าอก
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ อย่าบอกนะว่า ไม่สิ ต้องไม่เป็นแบบนี้” รมิตารู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับใจตัวเอง เธอไม่ใช่เด็กไร้เดียงสา จนไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้คืออะไร เธอแค่ไม่อยากให้มันเกิดกับคนคนนี้ต่างหาก
ด้านภารัญ เขาลงมาสั่งให้เก่งหาเหยื่อให้อย่างที่รมิตาคิด เพราะอึดอัดจนไม่สามารถควบคุมได้ ทั้งปวดทั้งทรมาน เพราะช่วงล่างมันตื่นเต็มที่กว่าทุกครั้งที่เคยเป็นมา ตั้งแต่เขาเจอเรื่องนั้น เจ้าลูกชายตัวดีมันก็ไม่ค่อยทำงานเลย น้อยนักที่มันจะสู้คือต้องเจอคนถูกใจ จริงๆ
แต่กลับรมิตาแค่นึกถึงภาพคืนนั้นมันก็ตื่นตัวซะแล้ว ยิ่งได้มาสัมผัสลิ้นอุ่นและเม็ดทับทิมที่แตะลงเพียงครู่ของเธอ มังกรใต้กางเกงสแล็คราคาแพงก็ทำงานทันที
“อู้ว! ใหญ่ดีจังเลยค่ะ แบบนี้แนนสู้ตายเลยนะคะ” เสียงหวานของสาวสวยใต้ร่างของภารัญพูดขึ้น ตอนนี้เขาไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น ใส่เครื่องป้องกันได้ ก็กดเข้าร่องอีกฝ่ายทันที ก่อนจะจับสองขาอ้าออกแล้วกระแทกลงอย่างไม่ปราณีเลยสักนิด แต่คนใต้ร่างก็ดูเหมือนจะถูกใจ ร้องครางกระเส่าไม่หยุดเลย จนกระทั่งร่างแกร่งเกร็งกระตุก
“หันหลัง” เขาออกคำสั่งกับเธอ ก่อนจะจับท่อนลำสอดใส่เข้าไปอีก เสียงเนื้อกระทบกันดังมาต่อเนื่องจนเขาปลดปล่อยเป็นรอบที่สอง ถึงได้ไล่สาวสวยออกไปรับเงินด้านนอก เขาไม่เคยสนใจว่าอีกฝ่ายจะเป็นยังไง ถึงจุดหมายเหมือนกันหรือเปล่า แค่เขาเสร็จก็พอ
“วันนี้นานนะครับนาย คนนี้เด็ดเหรอ ให้ผมเอาเบอร์ไว้ไหม” เก่งถามขึ้นทันที เพราะปกติภารัญให้ผู้หญิงอยู่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แต่คราวนี้นานเป็นชั่วโมงเลย
“ไม่ต้อง เรื่องที่กูสั่งทำตามหรือเปล่า” เขาถามขึ้นทันที เมื่อเดินกลับมาที่ห้องทำงานแล้ว
“ครับ คงหลับไปแล้ว เพราะเธอไม่ได้เปิดประตูออกมาเลย ไอ้มิตรกับไอ้ชาเฝ้าอยู่”
“อืม มีเอกสารอะไรอีกไหมที่ต้องเซ็น”
“หมดแล้วครับ”
“อืม ถ้าไอ้พวกนั้นแวะมาก็บอกว่ากูขึ้นไปนอนแล้วละกัน” เขาตอบเสียงเหนื่อย เพราะปกติไม่เคยเอาผู้หญิงนานขนาดนี้มาก่อน ไม่ใช่อะไรหรอก เจ้าลูกชายมันไม่สู้มากกว่า บางครั้งยังไม่ถึงรอบก็คอตกแล้ว แต่ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเขานึกถึงแต่ภรรยาตัวน้อยนั่นแหละ
“จัดหนักจนเพลียสินะครับ ว่าแต่นายจะนอนห้องเดียวกับคุณขิมอีกแล้วเหรอ ตื่นมาเธอจะไม่เอ่อ”
“จะหนีไปไหนได้ สุดท้ายก็ต้องกลับบ้านกูอยู่ดี”
“นั่นสินะครับ เธอก็คงรอให้ครบสองปีเหมือนนายนั่นแหละ ต้องทำตามคำสั่งพ่อแม่เหมือนกัน เป็นผู้หญิงด้วยจะไปขัดอะไรได้ พ่อแม่ให้แต่งกับใครก็ต้องแต่ง เธอยังรู้จักกตัญญู ไม่เหมือนคนที่หนีการแต่งงานอย่างคุณแพร”
คำพูดของเก่งทำเอาภารัญนิ่งไป มันจริงอย่างที่คนสนิทเขาบอก ทั้งเขาและรมิตาต่างก็ทำตามความต้องการของพ่อแม่ คนเป็นลูกจะขัดอะไรได้ ถึงตัวเขาจะทำได้ก็เถอะ แต่คงไม่ใช่รมิตาที่เป็นแค่ลูกเมียน้อยแน่ๆ
“พูดมากนะมึง เห็นกูเป็นคนใจร้ายรังแกผู้หญิงหรือไง” เขาตอบก่อนจะเดินออกจากห้องทำงาน เพื่อกลับขึ้นเพ้นเฮาส์ทันที ราวกับกลัวว่าบางสิ่งบนนั้นจะหนีหาย
“ไอ้เก่ง ลูกพี่มึงไปไหนวะ วันนี้ก็ยังไม่เห็นเลย เดี๋ยวถ้ามาหลังเที่ยงคืนนี้คือไม่เจอแล้วใช่ไหม” กันตะพูดขึ้น
“ช่วงนี้นายลงมาเร็วครับ พวกคุณนั่นแหละที่เข้าสาย เลยไม่เจอกันสักที” เก่งตอบเลี่ยงไปอย่างนั้นเอง เพราะขี้เกียจตอบอีกหลายคำถามที่อาจจะตามมา
“เอ่อ แล้ววันนี้น้องขิมมาทำงานหรือเปล่า เห็นว่าเมื่อวานผื่นขึ้นหนักเลยนี่” จินตัยถามถึงคนสวยที่เขาหมายตาทันที เก่งยิ้มแห้งก่อนจะตอบ
“คนนี้เจ้าของเขาน่าจะหวงนะครับ อย่าไปยุ่งเลย”
“ตกลงเด็กนั่นมีแฟนแล้วจริงๆ เหรอเก่ง” เป็นสิงหาที่ถามขึ้นมาบ้าง หลังจากที่นั่งเงียบอยู่นาน
“ยิ่งกว่าแฟนอีกครับ ส่วนเรื่องอื่นผมไม่รู้หรอกครับ ขอตัวไปทำงานก่อนดีกว่า” เก่งตอบพร้อมกับรีบลุกออกจากห้องทำงานของเจ้านายไปทันที
“อะไรของมันวะ ถามถึงน้องขิมทีไรบ่ายเบี่ยงทุกที” จินตัยพูดขึ้นอย่างสงสัย
“เออ กูก็ว่าแปลกๆ ไอ้ภามอีกคนหมู่นี้ทำตัวลับๆ ล่อๆ”
“หึ! ถ้ามันอยากให้พวกมึงรู้เดี๋ยวก็จะได้รู้เองนั่นแหละ” สิงหาพูดออกมาก่อนจะกระดกน้ำสีอำพันขึ้นดื่มเพียวๆ
# สงสัยนิยายจะไม่ถูกใจนักอ่าน จะปิดเรื่องไปเลยก็นึกคนที่เก็บเข้าชั้น ขอบคุณที่รอกันนะคะ
เป็นท้อ