๒ ตบมือข้างเดียวมาตลอด (๓)
“ผมนัดปลัดบนอำเภอกินด้วยกันครับ แล้วก็กำนันบางตำบลจะได้คุยงาน อีกอย่างจะได้ช่วยผมกินอาหารที่มีคนเอามาฝากด้วย” รอยยิ้มค่อยหุบลงทันที เธออุตส่าห์ดีใจนึกว่าจะได้กินข้าวกับภูมิรพีสองคน
ที่ไหนได้...กินทั้งอำเภอ
“อ้อ เยอะเลย อาหารเยอะเลยนะคะ” เธอค่อยเดินไปวางอาหารของตนลงบนโต๊ะ เพิ่มจำนวนให้มากกว่าเดิมแล้วพูดติดตลก
“ครับ” เขาไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร ดูเหมือนคนอำเภอนี้จะต้อนรับตนเองอย่างดี เพิ่งมาบรรจุเป็นนายอำเภอครั้งแรกไม่คิดว่าจะได้รับความรักมากมาย ตนก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันนอกจากยิ้มรับน้ำใจจากชาวบ้าน
แม้รู้ว่าผู้หญิงที่เข้าหาบางคนก็คิดไม่ซื่อกับตัวเอง
“งั้นกริ้งไม่รบกวนดีกว่า นี่ของกริ้งนะคะ กินให้อร่อยค่ะ” ชี้ไปยังอาหารของตน แล้วค้อมศีรษะเป็นการบอกลา เสียดายอยากพูดคุยกับเขามากกว่านี้แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ว่าง เธอเดินออกมาข้างนอกเตรียมจะกลับร้าน แต่ก็มีคนโผล่เข้ามาทักทาย
“กิ่ง!” เรียกเสียงดังเล่นเอาหล่อนถึงกับสะดุ้ง เหลียวมองคนมาใหม่พบว่าเป็นชายหนุ่มรูปงามที่ตนรู้จักเป็นอย่างดี
ปลัดปลื้ม อติกานต์ วัฒนาพิบูลย์นั่นเอง!
เขาเป็นคนหล่อที่คนทั่งอำเภอหมายปอง แต่ไม่นานก็มีเจ้าของหัวใจอีกทั้งมีนายอำเภอรูปหล่อมาแทนที่จึงตกกระป๋องอย่างรวดเร็ว
“โอ้ยพี่ปลื้ม! ตกใจหมดเลย แล้วมาทำอะไรที่อำเภอ...อ้อ เป็นปลัด โทษทีลืมไป” นึกได้เงียบเสียงลง เผลอปล่อยไก่ไปตัวเบอเร้อแต่ก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ ใบหน้าหวานหงอยเหงาลงเมื่อคิดว่ายังมีสาวอีกหลายคนสนใจภูมิรพี
อติกานต์เห็นน้องสาวหน้าหงอยก็นึกสงสัย พวกเขารู้จักกันเพราะพ่อของเธอมักมาอุดหนุนร้านของชายหนุ่มเสมอ เห็นตั้งแต่ตัวเล็กจนเติบใหญ่มีเส้นทางเป็นของตัวเอง เจอกันเมื่อไหร่เป็นต้องทักทายตลอด
“เรานั่นแหละมาทำอะไร ไม่มีประชุมผู้ใหญ่บ้านไม่ใช่เหรอ หรือมากับพ่อ...รู้แล้ว มาจีบนายอำเภอล่ะสิ” มองหาพ่อพิมานก็ไม่เห็น จึงหันไปเห็นว่าหญิงสาวเพิ่งออกมาจากห้องทำงานของนายอำเภอจึงยิ้มกริ่ม รู้ทันทีว่าเธอมาทำไม
ช่วงนี้หญิงสาวมากหน้าหลายตาเข้าออกเป็นว่าเล่น เสน่ห์ของภูมิรพีไม่ใช่น้อยเลยสักนิด...
“ถามจริงนะพี่ มีผู้หญิงมาหาคุณอั๋นบ่อยเหรอ เมื่อกี้ฉันเข้าไปอาหารกองเต็มโต๊ะ เห็นแล้วมันขัดใจชะมัด ฉันมาช้าสุดเลยด้วย” ยอมรับแต่โดยดีเพราะต้องการระบายความอึดอัด ลากอติกานต์มาคุยกันตรงหน้าห้องน้ำที่ไม่ค่อยมีคนผ่าน
แววตาเต็มไปด้วยความกังวล เธอเทใจให้เขาไปหมดหน้าตักไม่พร้อมรับความเสียใจ แต่หนทางที่จะชนะใจของนายอำเภอรูปหล่อก็ค่อนข้างเลือนรางจนเริ่มถอดใจ
“ไม่เยอะนะ วันล่ะห้าหกคนเอง แต่เขาขนข้าวของมาเยอะ ช่วงทำคะแนนแหละ พอรู้ว่านายโสดก็อยากเป็นคุณนายกันเต็ม อีกอย่างนายก็รูปหล่อพ่อรวย ใครจะไม่อยากเข้าหาบ้างล่ะ เราก็เอากับเขาด้วยไม่ใช่หรือไง” พูดยาวเหยียดแล้วค่อยมองร่างแบบบางที่ยืนนิ่งไม่พูดจา
ภูมิรพีมีครอบครัวที่คอยสนับสนุน บิดาเป็นถึงปลัดกระทรวงศึกษาธิการ มารดาก็มีเชื้อสายเป็นหม่อมหลวง ความจริงเขาควรรับตำแหน่งอยู่เมืองหลวงแต่ก็อยากมาหาประสบการณ์ในการทำงานต่างถิ่น คิดว่าไม่ถึงปีคงได้ย้ายไปอยู่ในจังหวัดใหญ่กว่านี้
ใช้เวลาไม่ถึงสิบปีอาจเลื่อนขั้นเป็นถึงผู้ว่าราชการจังหวัดซะด้วยซ้ำ ไม่แปลกที่หญิงสาวหลายคนจับจ้องอยากเป็นเจ้าของ เพราะหมายถึงอนาคตที่ดีของตนด้วย
รวมถึงกนกวดี...
“ของฉันคือความรัก ความรักล้วนๆ เลย” ตอบอย่างถือดีพลางเชิดหน้า พยายามแสดงออกว่ามันคือความรัก แต่ดูเหมือนคู่สนทนาจะไม่เชื่อ
“อ้อเหรอ”
“ได้ข่าวว่าจะแต่งงาน กับใครล่ะ” รีบเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว
อติกานต์เป็นหนุ่มหล่อที่สาวหลายคนหมายปอง พอกลับมาทำงานที่บ้านก็ยังมีคนแวะเวียนไปหาไม่ขาดสาย เพิ่งมีช่วงหลังที่เขาประกาศชัดเจนว่ามีคนในใจ อีกไม่นานก็จะแต่งงานกัน สาวหลายคนจึงล่าถอย
“กับกระต่ายนั่นแหละ อย่าลืมมางานด้วย อีกสามเดือนจะแต่ง...บอกเลยว่าของกินเพียบ” ยิ้มกว้างยามเอ่ยถึงคนรักพ่วงตำแหน่งแม่ของลูก กนกวดีเห็นแล้วก็หมั่นไส้จนต้องบึนปาก พรูลมหายใจเสียงดังอิจฉาคนมีความรัก
ขณะที่ตนพยายามไขว่คว้าแต่ทำไมมันถึงยากเย็นนักก็ไม่รู้
“ส่งซองมาล่ะกัน งานนี้ไม่พลาดหรอก มีหมอลำหรือเปล่า ถ้ามีไม่ไปนะกลัวเจอไอ้พวกเด็กแว๊นตีกัน” รีบออกตัวทันทีเพราะคิดว่าลูกชายเจ้าของกิจการใหญ่โตประจำอำเภอแต่งงานทั้งทีจะไม่ฉลองได้อย่างไร
“ไม่มี งานเสร็จก็เข้านอน เร่งทำลูกคนที่สองมากกว่า” ยักคิ้วอย่างเจ้าเล่ห์จนเธอต้องส่ายศีรษะ หมั่นไส้ซะเหลือเกิน
“ขอให้สมหวังจ้า ไปแล้วนะ...พี่ปลื้ม ถ้ามีข่าวอะไรเกี่ยวกับคุณอั๋นส่งไลน์มาบอกฉันด้วยนะ ส่วนฉันจะช่วยดูพี่กระต่ายให้เอง” รีบหาพรรคพวกเมื่อคิดว่าตนไม่อาจจับตาดูภูมิรพีได้ตลอดเวลา อย่างน้อยก็ต้องขอร้องคนที่พอจะช่วยเหลือได้
แน่นอนว่าต้องเป็นปลัดปลื้มที่อยู่ห้องทำงานถัดไปเพียงเล็กน้อย
“คิดออกพอดี วันเสาร์นี้นายจะไปเป็นประธานเปิดงานวัดที่หมู่บ้านกิ่ง แต่ไม่รู้จะอยู่เดินเล่นช่วงเย็นหรือเปล่า ยังไงก็ลองชวนดูสิ” ดวงตากลมเป็นประกายทันที
บิดาเอ่ยชวนให้ไปช่วยดูแลงานวัดที่จัดเพื่อฉลองสร้างโบสถ์ใหม่เสร็จ แต่เธอก็ปฏิเสธบอกว่ายุ่งกับงานบัญชีที่รับมาทำ ทั้งที่ความจริงก็แค่ขี้เกียจเท่านั้นเอง สงสัยต้องไปบอกพ่อใหม่แล้วล่ะ
“พี่ปลื้มพี่รักของน้อง ไม่เสียแรงที่เคยแอบชอบพี่นะเนี่ย” ตบบ่าหนาพลางเอ่ยหยอกล้อ แต่คนตัวสูงกลับถามอย่างกังขา
“จริงเหรอ”
“ไม่อ่ะ พูดไปงั้นให้ดูดี กลับก่อนนะ...อย่าลืมมาใช้บริการกรุ้งกริ้งก็อปปี้ ถ้ารู้ว่าไปร้านอื่นจะมาโวยถึงอำเภอเลย” คนอย่างเธอน่ะเหรอจะชอบอีกฝ่าย เห็นเป็นแค่พี่ชายเท่านั้นแหละไม่เคยคิดเป็นอย่างอื่นหรอก
“ครับ คุณน้องสาวร่วมโรงเรียน” พวกเขาแลกไลน์กันเรียบร้อยเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง เธอค่อยกลับไปร้านถ่ายเอกสารเพื่อทำงาน แต่ก็โดนมารดาเรียกตัวให้ไปช่วยเสิร์ฟอาหาร จนกนกวดีร่ำอยากจะไปเปิดร้านให้ไกลจากแม่วรรณ
โดนเรียกใช้ตลอดเลย!
ร้านซ่อมรถหรืออู่ซ่อมรถที่ชาวบ้านมักมาใช้บริการอยู่กลางหมู่บ้าน เช่าพื้นที่ใกล้ร้านขายของเพื่อจะได้เรียกลูกค้า บ้านชั้นมีหลังคายื่นออกมาข้างหน้าเพื่อให้เป็นส่วนของลานซ่อม ของทุกอย่างจัดเรียงเป็นระเบียบเพราะแม่สร้อยมาดูแลด้วยตัวเองทุกเช้า พอตกเย็นก็กลับมาวางระเกะระกะเพราะเจ้าของร้านหาของไม่ค่อยเจอ
ร้านไม่เคยขาดลูกค้าเพราะทั้งหมู่บ้านมีเพียงร้านเดียว จึงกลายเป็นแหล่งรวมเด็กวัยรุ่นที่ชอบมาเปลี่ยนท่อรถให้กลายเป็นเสียงดัง แต่ก็ถูกเสือด่ากลับไปทุกรายพร้อมขู่ให้กลับมาใส่ท่อปกติ เขาหนวกหูตอนกลางคืนที่คนพวกนี้รวมตัวเป็นกลุ่มเพื่อขับรถรอบหมู่บ้าน
ช่วงหลังค่อยดีขึ้นหน่อย เนื่องจากทุกคนดูจะเชื่อฟังพี่เสือเป็นอย่างมาก กลายเป็นหัวหน้าแก็งค์วัยรุ่นไปโดยปริยายโดยที่เจ้าตัวไม่ค่อยเต็มใจ
“เสาร์นี้พี่จะชวนครูมลไปเดินงานวัดไหม เห็นว่าจัดเต็มทุกกิจกรรมเลยนะ จ้างหมอลำมาด้วย...แต่ตกดึกตีกันแน่นอน” ลูกน้องในร้านอย่างพร้อมเอ่ยถาม ทุกคนรู้ดีว่าลูกพี่กำลังตามจีบครูมลคนสวย
“งานวัดเหรอ...น่าสนนะ มีบ้านผีสิงไหม” ความคิดเจ้าเล่ห์โผล่เข้ามาในหัว เขาอยากเป็นฮีโร่ในสายตาของมธุริน เธอคงกระโดดกอดยามมีผีโผล่มาตรงหน้า แค่คิดก็หุบยิ้มไม่อยู่ขณะที่มือก็ทำการปะยางรถที่รั่วให้ลูกค้าไม่หยุด
“โธ่พี่เสือ บ้านผีสิงบ้านเรามันจะน่ากลัวตรงไหนล่ะ พาไปขึ้นชิงช้าสวรรค์ดีกว่า บอกเลยขึ้นแล้วลงยาก” คิดภาพตามว่าตนกับครูคนสวยอยู่ในกระเช้าชิงช้าด้วยกัน มองภาพจากข้างบนแล้วพูดคุยหยอกล้อ คงมีความสุขก็น่าดูก็พยักหน้าทันที
“น่าสนนะ...เดี๋ยวกูลองชวนดีกว่า” หมายมั่นเอาไว้อย่างจริงจัง
ความคิดถึงของเขาอาจลอยไปหาคุณครูคนสวย เพราะไม่นานรถมอเตอร์ไซค์ก็จอดเทียบหน้าร้าน เขารีบเงยหน้ามองก็พบมธุรินที่มากับเพื่อนร่วมห้องสมัยเรียนประถมศึกษาอย่างจินตนาที่เปลี่ยนชื่อเป็นจินลดา
สองคนนี้อยู่บ้านใกล้กันจึงกลายเป็นสนิทไปทันที บางครั้งเขาก็จ้างจินลดาดูแลหล่อนแล้วให้นำเรื่องของครูสาวมาบอกตนตลอด
“พี่เสือ” ทักทายเสียงหวานพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน
มองแล้วให้ความรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจ เหมือนแม่ของเขาไม่มีผิด ชายหนุ่มคิดไว้แล้วว่าถ้าจะหาเมียก็อยากได้คนที่อ่อนหวาน เรียบร้อยเหมือนแม่ตัวเอง แล้วมธุรินก็เป็นอย่างนั้นทุกกระเบียดนิ้ว
“มาพอดีเลย วันเสาร์นี้มีงานวัดสนใจไปกับพี่ไหม เดี๋ยวจะดูแลให้ดีประดุจเจ้าหญิงเลยล่ะ สนใจหรือเปล่า” รีบล้างมือแล้วลุกยืนมาหยุดตรงหน้าหล่อนอย่างรวดเร็ว ปากยิ้มกว้างพร้อมแววตาที่เต็มไปด้วยความหวัง
“เสียใจไอ้เสือ ฉันจองตัวครูมลไว้แล้ว จะให้ช่วยไปแต่งหน้านางงามที่จะประกวดสาวงามงานวัด อดจ้ะอด” แต่ก็โดนขัดจนต้องทำหน้าหงอย เขามาช้าเกินไปอีกแล้ว
“ขอโทษนะพี่เสือ พอดีรับปากพี่จินนี่เอาไว้แล้ว โอกาสหน้านะ”
“ไม่เป็นไร พี่รอได้ มลพร้อมตอนไหนก็ตอนนั้นนะ” บอกอย่างใจกว้างขณะที่ตาก็จ้องใบหน้าหวานของครูสาวไม่กระพริบ จนเธออายม้วนต้องเหลือบมองไปทางอื่น จินลดาไม่อาจทนมองไหวจนต้องเอ่ยขัดบรรยากาศสีชมพูสักหน่อย
“หูย ทำมาเป็นปากหวาน ไม่เข้ากับหนังหน้าแกเลยไอ้เสือ”
“หุบปากสิจิ้งหรีด” เหลือบตามองเพื่อนแล้วเรียกด้วยชื่อเล่นสมัยเด็ก ทำเอาหล่อนถึงกับกรีดร้องเสียงดังพร้อมย้ำอีกครั้งถึงชื่อของตัวเอง
“กรี๊ด จินนี่! ชื่อจินนี่ย่ะ เรียกให้มันถูกหน่อย!”
เสือส่ายหน้าระอาแล้วรีบบริการมธุรินที่มากินข้าวร้านตรงข้าม ความรักของพวกเขากำลังเบ่งบานโดยที่ไม่รู้ว่าอีกไม่นานจะเกิดอะไรกับชีวิตของตัวเอง