บทย่อ
"กนกวดี" หมายปอง "นายอำเภอภูมิรพี" อยากได้มาเป็นแฟนจึงทำทุกอย่าง แต่ดันหลงกลตกหลุมพรางของคนไม่หวังดี จนพลาดจากการเป็นคุณนาย เพราะดันมาพลอดรักกับ "เสือ" คู่อริวัยเด็กจนคนทั้งหมู่บ้านเอาไปพูดสนุกปาก สองบ้านจึงต้องดองกันเพื่อสยบข่าวลือ ด้วยความไม่เต็มใจของคนทั้งคู่!
บทนำ
บทนำ
ร้านแม่วรรณข้าวมันไก่ เป็นร้านประจำที่อยู่ตรงข้ามกับที่ว่าการอำเภอแดงใหญ่ มีเพียงถนนคั่นกลางเอาไว้ ลูกค้าส่วนมากที่มากินจึงเป็นข้าราชการผู้ใส่ชุดสีกากี ทว่าถัดไปมีการก่อสร้างอาคารพาณิชย์ของเสี่ยงเฮง เหล่าคนใช้แรงงานทั้งหลายจึงกลายเป็นลูกค้าประจำทันที
นอกจากรสชาติอร่อยยังเสิร์ฟรวดเร็วทันใจ แต่ต้องรีบมาหน่อยเพราะหมดเร็วมาก เปิดตั้งแต่เจ็ดโมงเช้ายาวถึงบ่ายสามก็ปิดร้าน นอกจากข้าวมันไก่ยังขายข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบและก๋วยเตี๋ยวที่เรียกได้ว่าน้ำซุปเด็ดมาก
ภายในร้านมีโต๊ะให้นั่งประทานค่อนข้างเยอะ แต่พนักงานเสิร์ฟมีแค่สองคน ช่วงเที่ยงก็เสิร์ฟอาหารมือเป็นระวิง จนต้องขอแรงลูกสาวที่เปิดร้านถ่ายเอกสารอยู่ข้างกันมาช่วยเหลือ
“กิ่ง! มันไก่พิเศษสองจานโต๊ะสาม” สาวสวยที่อยู่ในชุดเดรสสีหวานพร้อมรีดผมมาอย่างสวยงาม ติดกิ๊บเพิ่มความหวานให้แก่ใบหน้า ทั้งยังแต่งหน้าตามแบบฉบับสาวเกาหลีเพื่อเรียกลูกค้าอีกต่างหาก ทว่าคนก็ไม่ค่อยเข้าร้านเธอเท่าไหร่
จะมีก็แต่ร้านข้าวมันไก่ของแม่ที่ลูกค้ามาไม่ขาดสายจนน่าอิจฉา
กนกวดี สุขุมถิ่น สาวสวยที่ประกวดนางนพมาศจนได้แชมป์สามสมัยซ้อนก่อนจะแขวนมงกุฎ หันมาตั้งใจเรียนหนังสือแต่จบออกมากลับขอแม่เปิดร้านถ่ายเอกสารไม่ยอมสอบรับราชการตามที่ท่านคาดหวังเอาไว้
เธอเป็นลูกสาวผู้ใหญ่บ้าน ใครต่างก็พูดกันว่าหน้าตางดงามผิดแผกจากคนเป็นพี่สาวที่แสนธรรมดา แต่ก็ไม่ได้ถือเป็นประเด็นให้พี่น้องต้องทะเลาะกัน
ถึงแม้จะหน้าตางดงามแต่ผ่านร้อนหนาวมาถึงอายุครบ 27 ปี กลับไม่เคยคบใครเป็นแฟนสักคน ไม่ใช่ว่าไม่มีคนเข้ามาจีบ แต่เป็นเธอเองที่หัวสูงหวังคบชายหนุ่มรูปงาม ฐานะชาติตระกูลดี คาดหวังถึงขั้นหม่อมราชวงศ์ด้วยซ้ำ
แต่ดันทำงานอยู่บ้านเกิด ไม่เคยได้ออกไปเปิดหูเปิดตากับเขา
ไฉนเลยจะเจอเนื้อคู่ที่ตนเองฝันถึง จนแม่บ่นบ่อยครั้งว่าหล่อนฝันเฟื่อง
“บอกให้เรียกว่ากรุ้งกริ้งไงแม่ กิ่งฟังดูแล้วเชยชะมัดเลย” เปลี่ยนชื่อให้ตัวเองนานแล้วตามสมัยนิยมเพราะไม่ชอบชื่อที่มารดาตั้งให้ หล่อนมองว่ามันธรรมดามากเกินไปกับใบหน้าที่สวยงามของตัวเอง คิดอยู่นานจนได้ชื่อเล่นใหม่ที่แสนสดใส
กรุ้งกริ้ง...ชื่อนี้เหมาะเป็นที่สุด!
แต่อาจเพราะเธอเปลี่ยนชื่อช้าเกินไป คนเลยติดเรียกว่ากิ่ง จะมีเพียงเพื่อนสนิทสมัยเรียนมหาวิทยาลัยราชภัฏเท่านั้นถึงเรียกกรุ้งกริ้งให้พอชุ่มชื่นหัวใจบ้าง
“เออ ข้าจะเรียกอะไรก็เรื่องของข้า เอ็งรีบเอาไปเสิร์ฟให้ไว ลูกค้าหิวข้าวหิ้วท้องรอไส้กิ่วหมดแล้ว เร็ว!” เร่งเสียงดังแล้วหันมาสับไก่เพื่อเสิร์ฟโต๊ะอื่น เธอหยิบจานมาใส่ถาดแล้วบ่นตามประสา
“งานร้านฉันก็ไม่ใช่ ยังจะมาเร่งกันอีก” ขนาดร้านถ่ายเอกสารเธอยังมาเพื่อนั่งเล่นไปเรื่อย ไม่ค่อยได้จับงานอะไรเพราะจ้างลูกน้องสองคนไว้ทำเรียบร้อยแล้ว ส่วนตนก็รับทำบัญชีให้ร้านค้าขนาดย่อม เนื่องจากจบด้านนี้มาโดยเฉพาะแต่ไม่อยากออกไปสมัครงานข้างนอก ชอบที่จะอยู่แบบนี้มากกว่า
เคยโดนแม่ไล่ให้ไปสอบราชการบ่อยครั้งแต่รู้ดีว่าไม่ใช่เส้นทางของตัวเอง จึงขัดคำสั่งไม่ทำตามเพราะอย่างไรพี่สาวของตนก็รับราชการเป็นครู พ่อก็เป็นผู้ใหญ่บ้าน แม่ยังจะมาเรื่องมากเอาอะไรกับหล่อนอีก
เมินเสียเถอะ!
กรุ้งกริ้งคนนี้ขอเปิดร้านถ่ายเอกสารกินเงินเล่นในแต่ละวันดีกว่า อีกอย่างก็ยังมีร้านข้าวมันไก่ของแม่ให้สืบทอด ชาตินี้ไม่อดตายหรอก
“วันนี้น้องกรุ้งกริ้งสวยจังเลย สนใจเปิดรับสมัครว่าที่สามีในอนาคตไหมจ๊ะ พี่ยินดีกรอกใบสมัครตอนนี้เลยนะ” ยกจานข้าวมาเสิร์ฟก็มีเหล่าคนงานที่นั่งล้อมวงคอยแซว เธอทำเพียงยิ้มหน้าตายไม่ตอบโต้อะไร รู้ดีว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่เป้าหมายของตัวเอง
ผู้ชายที่อยากเอามาเป็นสามีต้องดีเลิศทุกทาง หากอยากได้แบบดาษดื่นหล่อนคงมีผัวตั้งแต่อายุสิบหกปีแล้วล่ะ
เพราะเลือกเยอะแบบนี้เลยขึ้นคานจนอายุใกล้จะสามสิบอยู่รอมร่อ
“แหะๆ กินให้อร่อยนะคะ” รีบปลีกตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ความจริงจะต่อปากต่อคำก็ได้แต่คนเหล่านั้นพวกเยอะ เธอกลัวจะโดนเล่นงานทีหลัง
แต่ถ้าตนอยู่กับเพื่อนและมีพวกคอยสนับสนุน บอกเลยว่านังกิ่งคนนี้ก็ใส่ไม่ยั้งเช่นเดียวกัน ไม่ใช่ว่าหน้าตาดีอย่างเดียว ปากก็ดีด้วย!
“ว้าย!” ไม่ทันมองทางข้างหน้า เธอจึงชนเข้ากับคนที่เดินเข้ามาอย่างแรงจนเกือบล้ม ถ้าไม่ได้อีกฝ่ายคว้าแขนเอาไว้ซะก่อน คงก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้นไปแล้วล่ะ
ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ยิ่งช้อนสายตามองคนที่อยู่ตรงหน้าก็อึ้งจนเอ่ยอะไรไม่ออก เขาอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงแสล็ค ดูดีผิดหูผิดตาเหมือนนักธุรกิจที่เธอไม่เคยเจออยู่ในอำเภอแดงใหญ่เลยสักครั้ง
กรอบหน้าหล่อคม ดวงตาเรียวยาว จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางเฉียบ...ประกอบกันแล้วดูดีจนไม่อยากละสายตาไปทางไหน
“เป็นอะไรไหมครับ” เสียงยังนุ่มทุ้มอีกต่างหาก เธอส่ายหน้าอย่างเชื่องช้า ตอนเขาปล่อยมือก็แสนเสียดาย ยืนด้วยลำแข้งของตัวเองแต่แววตากลมก็ยังจ้องเขาไม่คลาดเคลื่อนไปไหน บรรยากาศรอบข้างกลายเป็นสีชมพู
รักแรกพบเป็นอย่างไร กนกวดีรู้ซึ้งก็วันนี้แหละ!
“มะ ไม่ค่ะ” ส่ายศีรษะแทบไม่ต้องสำรวจตัวเองอีกรอบ
เธอภาวนาให้เขามาร้านคนเดียว อย่าได้มีผู้หญิงหน้าไหนมาเกาะแกะให้ระคายสายตา ทว่าไม่นานก็มีคนวิ่งเข้ามาพลางหอบด้วยความเหนื่อยเพราะวิ่งตั้งแต่หน้าอำเภอมาจนถึงร้านข้าวมันไก่
“นายครับ โธ่นาย จะมาก็ไม่รอผมเลย นึกว่าจะกินข้าวบนอำเภอซะอีก” คนฟังตาโตหูผึ่ง รีบคิดทันทีว่าหนุ่มหล่อที่ตนพบน่าจะเป็นข้าราชการที่มีตำแหน่ง แล้วเขาเป็นใครกันล่ะ
กนกวดียังคงยืนนิ่งไม่หลบไปไหน ส่งยิ้มตาหวานพร้อมโปรยเสน่ห์เต็มที่ ในอำเภอแดงใหญ่ไม่มีใครสวยไปกว่ากรุ้งกริ้งลูกพ่อผู้ใหญ่พิมานหรอก
“ผมอยากมากินที่ร้านมากกว่า อาหารร้อนกินแล้วอร่อย” เดินเข้ามาในร้านพร้อมคนของตัวเอง กลายเป็นเธอยิ้มเก้อเพราะเขาไม่ได้สนใจอีกเมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่เป็นอะไร
หล่อนได้ยินเหมือนเสียงของตก...หรือจะเป็นเสียงหน้าตนที่แตกกันนะ
“ท่านนายอำเภอ! มาค่ะ เชิญเลย เดี๋ยวน้าทำข้าวมันไก่จานพิเศษไปเสิร์ฟถึงโต๊ะเลยนะ” แม่วรรณหรือคุณมณีวรรณ สุขุมถิ่นรีบเอ่ยชวนลูกค้าประจำที่มาบ่อยเพราะร้านอยู่ใกล้ที่ว่าการอำเภอ ทั้งยังรสชาติอร่อยถูกปาก เขาจึงไม่ค่อยไปกินร้านอื่น
ลูกสาวได้ยินก็เบิกตากว้าง เขาไม่ใช่ปลัดอย่างที่เธอนึกสงสัย แต่เป็นถึงนายอำเภอเลยเหรอ!
ตำแหน่งใหญ่โตสร้างความตกใจแก่หล่อนเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าจะเจอคนที่ฝันถึงมานาน เขามายืนตรงหน้าแล้ว
ถึงว่าล่ะ!
เมื่อคืนหล่อนฝันเห็นงูตัวใหญ่มารัดตามตัว ที่แท้ก็จะเจอเนื้อคู่นี่เอง...
“ขอบคุณครับ” หล่อนมองตามหนุ่มร่างสูงไปจนเขานั่งลงโต๊ะที่ว่าง สายตาหวานเชื่อมไม่ปกปิดความรู้สึกสักนิด รีบคว้าแขนลูกจ้างในร้านของแม่แล้วพากันปลีกตัวออกมาคุยในที่คนไม่ค่อยเยอะ แต่ก็ยังอยู่ในร้านเผื่อแม่วรรณจะเรียกใช้
“กิ๊บ กิ๊บ”
“อะไรพี่กิ่ง...กรุ้งกริ้ง” เผลอเรียกชื่อเล่นที่คุ้นเคย แต่ก็ถูกสายตาจ้องดุจึงรีบเปลี่ยนพลางยิ้มแหยะเป็นการขอโทษ
“นั่นนายอำเภอเหรอ ทำไมฉันไม่เคยเห็นเลย เขาอายุเท่าไหร่ยังดูหนุ่มเหมือนสามสิบต้นๆ แล้วเขามาประจำการที่อำเภอนานหรือยัง” ถามรัวไม่เว้นช่องว่างให้คนตอบ กิ๊บอ้าปากพะงาบกำลังจะตอบก็มีคำถามใหม่อยู่เรื่อย
ดูเหมือนว่าลูกสาวแม่วรรณร้านข้าวมันไก่จะตื่นเต้นกับนายอำเภอที่เพิ่งมาประจำการ ความจริงก็ไม่ใช่แค่กนกวดีหรอกที่แอบชอบนายอำเภอ สาวหมายปองกันทั่วเพราะท่านหน้าตาดีทั้งยังอายุน้อย คิดว่าอนาคตต้องเป็นถึงผู้ว่าราชการจังหวัดแน่นอน
แล้วใครบ้างจะไม่อยากเป็นคุณนาย...
“ถามเยอะหนูจำไม่ได้หรอก รู้แค่ว่าเพิ่งมาได้หนึ่งอาทิตย์ อายุ 38 ปี สถานะโสด” ข้อมูลที่สาวทั้งอำเภอต้องทราบ เธอยิ้มแฉ่งเมื่อรู้ว่าเขาโสด ถึงจะอายุห่างจากตนหน่อยก็ไม่เป็นไร สมัยนี้ใครเขามองกันที่อายุบ้าง
ผู้ชายแก่ยิ่งเยอะประสบการณ์ เห็นแล้วก็ตัวสั่นระริกอยากเข้าไปทำความรู้จักทันที
“จริงเหรอ!”
“นังกิ่ง! เอาข้าวไปเสิร์ฟท่านนายอำเภอ” แม่บังเกิดเกล้าเรียกเสียงดัง แต่ครั้งนี้เธอกลับยิ้มกว้างยินดีเป็นอย่างยิ่ง รีบเดินแกมวิ่งไปหน้าร้านเพื่อรับจานข้าวจากมารดา ดวงตาเป็นประกายจนแม่วรรณถึงกับผงะ
ลูกเธอผีเข้าหรือเปล่า...
“จ้ะแม่ ไป ไปเดี๋ยวนี้เลยจ้า” ก่อนหยิบจานข้าวก็แอบส่องกระจกที่ติดอยู่ข้างตู้ข้าวมันไก่เพื่อสำรวจความสวย หน้าเป๊ะผมปัง เหมาะแก่การเข้าไปทำความรู้จักกับท่านนายอำเภอเป็นอย่างยิ่ง สวรรค์มีตาเปิดทางให้กรุ้งกริ้งคนสวยไม่โสดแล้ว
“ข้าวมันไก่พิเศษสองจานค่ะ...กรุ้งกริ้งนะคะเป็นลูกแม่วรรณ” วางจานข้าวให้ผู้ติดตามแล้วค่อยยิ้มกว้างให้แก่นายอำเภอ เธอโปรยเสน่ห์เต็มที่ไม่ลืมแนะนำตัวให้เขารู้จัก
ยิ่งมองใกล้ก็ยิ่งเห็นถึงความหล่อเหลาของคนตรงข้าม แม้อายุเยอะอาจมีริ้วรอยบนใบหน้าบ้างแต่สามารถมองข้ามได้ ชื่อว่าเราสองคนจะเข้ากันได้เป็นอย่างดี
“อ้อ สวัสดีครับ ผมชื่ออั๋น เพิ่งมาทำงานที่อำเภอได้หนึ่งสัปดาห์ ยินดีที่ได้รู้จักคุณกรุ้งกริ้งนะครับ” แนะนำตัวอย่างเป็นกันเองโดยไม่ได้เปิดเผยตำแหน่งหน้าที่การงาน ยิ้มเล็กน้อยตามมารยาทเพราะอย่างไรหล่อนก็เป็นลูกสาวของแม่ค้าร้านข้าวมันไก่ที่เขามาฝากท้องประจำ
“ยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ” รู้จักกันแล้ว ต่อไปก็คงได้ใกล้ชิดแล้วพัฒนาความสัมพันธ์เป็นคนรู้ใจในที่สุด
‘เจอเนื้อคู่แล้ว! ว่าที่พ่อของลูกในอนาคต!’
พบกันครั้งแรกกนกวดีก็ฝันไปไกล และเชื่อว่ามันต้องเป็นความจริง เธอจะจีบนายอำเภอมาเป็นแฟนให้ได้!