๑ ตกหลุมรักขึ้นไม่ไหว (๓)
“เอ่อ ขอบคุณมากนะครับ” รับมาถือไว้แล้วนิ่งเงียบ ยืนอยู่ระหว่างสาวทั้งสองที่กำลังจ้องกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
นายอำเภอภูมิรพีไม่รู้ว่าควรพูดอะไร เขากระแอมเหมือนต้องการให้สองคนเริ่มบทสนทนาแต่กลับกลายเป็นความเงียบ โชคดีที่มีผู้ใหญ่บ้านเดินเข้ามาทัก แทบจะพรูลมหายใจด้วยความโล่งอกที่ออกจากสถานการณ์น่าอึดอัดได้
“นายครับ ผมอยากขอเชิญนายไปเป็นประธานงานแต่งให้ลูกสาวผมได้หรือเปล่าครับ”
“ขอตัวก่อนนะครับ ขอบคุณสำหรับอาหารมากเลย” ค้อมศีรษะให้สองสาวแล้วเดินไปคุยรายละเอียด เหลือเพียงกนกวดีและจินลดาซึ่งมองหน้ากันกำลังประเมินคู่ต่อสู้ ลูกสาวแม่วรรณยกมือขึ้นกอดอก มองอีกฝ่ายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยแววตาเยาะเย้ย
“อีกิ่ง มึงมาทำไม” เริ่มประโยคเสียงแข็ง เชิดใบหน้าขึ้นอย่างไม่ยอมเช่นเดียวกัน
พวกเธอเรียนด้วยกันมาตลอด ความสวยก็สูสีแต่ผู้ชายเข้าหาจินลดามากกว่าเพราะอีกฝ่ายเปิดรับตลอด ไม่เคยขาดแฟนต่างจากกนกวดีที่เลือกเยอะ จนตอนนี้ก็ยังไม่มีผู้ชายเป็นตัวเป็นตน
ทว่าก็เคยมีข่าวลูกสาวผู้ใหญ่บ้านไปบอกรักชายหนุ่ม แต่ถูกเขาปฏิเสธจนกลายเป็นฝังใจไม่กล้ารักใครอีก
ซึ่งมันก็เป็นแค่ข่าวลือ...
“กูก็มาหาพ่อกูสิ มึงล่ะอีจิ้งหรีด มึงมาทำไม พ่อไม่ได้เป็นผู้ใหญ่บ้านหรือกำนันสักหน่อย เสนอหน้าไม่เปลี่ยน” โต้กลับไม่ยอมแพ้ พวกเขาใช้สรรพนามที่ค่อนข้างสนิทสนมเพราะอยู่ห้องเดียวกันมาตลอด ทั้งยังไม่ปิดบังว่าเกลียดกันด้วย
แสดงออกให้ทุกคนได้เห็นจนเวลาร่วมรุ่นเพื่อนต้องเลือกว่าจะเชิญใคร
ถ้ามีกนกวดีต้องไม่มีจินลดา ถ้ามีจินลดาต้องไม่มีกนกวดีเช่นเดียวกัน...
“กูมาหาท่านนายอำเภอ” ทำลอยหน้าลอยตาอย่างเหนือกว่า เธอรู้จักกับนายอำเภอตั้งแต่วันแรกที่อีกฝ่ายมาประจำการอยู่ที่ว่าการอำเภอ หมายมั่นไว้ในใจว่าจะต้องจีบให้ติด อยากเป็นคุณนายจนตัวสั่นจึงเช้าถึงเย็นถึงตลอด
“อ้อ คุณอั๋นเหรอ เขาไปกินข้าวที่ร้านแม่กูบ่อยมากเลย ไม่รู้ว่าชอบข้าวมันไก่หรือชอบกูกันแน่ เอาจริงๆ กูก็ไม่อยากทำให้มึงเสียใจหรอกนะ แต่ทำใจรอรับความผิดหวังบ้างก็ดี เพราะดูท่าว่าคุณอั๋นเขาจะมีใจให้กู”
หล่อนเอ่ยพลางบิดตัวอย่างกระมิดกระเมี้ยน คนมองหมั่นไส้เป็นอย่างมากจนต้องกำมือแน่น อยากกรีดร้องแต่เพราะมีคนอยู่เยอะจึงไม่อาจทำตามใจตัวเองได้
“แหม่ หลงตัวเอง คิดว่ามึงสวยมากหรือไง” เสียงกระแทกแดกดันแต่มีหรือที่กนกวดีจะสะเทือน กลับเชิดหน้ายอมรับสิ่งนั้นพร้อมเอ่ยถึงรางวัลการันตีความสวยของตัวเอง จนคนตรงข้ามถึงกับหน้าถมึงทึง
“แน่นอน! ชนะเลิศนางนพมาศสามปีซ้อน ส่วนมึงก็ได้ที่สาม...สามปีซ้อนเหมือนกัน วัดจากหน้าตาก็รู้แล้วนะว่าใครจะแพ้” แสยะยิ้มมุมปากอย่างเหนือกว่า เธอสามารถข่มคนตรงหน้าด้วยตำแหน่งนางนพมาศ ต้องพูดค่อนขอดทุกครั้งที่เจอหน้ากัน
สะใจจริง!
“อีกิ่ง!” เรียกเสียงดังจนคนที่เดินผ่านสะดุ้ง กำลังถลาพลางยกมือหวังจะตบ เลือกใช้ชื่อเก่าที่เพื่อนทุกคนต่างเรียกซึ่งเจ้าของชื่อไม่ค่อยชอบจนต้องโต้กลับไม่ยอมแพ้
“ทำไมอีจิ้งหรีด! มึงมาสิ มึงตบกูถีบกลับ ลองไหมล่ะ” กนกวดีก็ไม่ยอมเช่นกัน เธอเชิดหน้าขึ้นแล้วเรียกอีกฝ่ายด้วยชื่อเก่าเช่นเดียวกัน ใช่ว่าตนจะมีประวัติแค่คนเดียวซะเมื่อไหร่ จินลดาก็ไม่ต่างกันนักหรอก
“ฝาก ฝากไว้ก่อนเถอะ” กำมือที่ง้างเตรียมตบแล้ววางไว้ข้างลำตัวเหมือนเดิม จ้องหน้าแล้วทำได้เพียงขู่ แต่เธอไม่รู้สึกกลัวสักนิด ยิ้มเยาะแล้วตะโกนไล่หลังคนที่เดินจ้ำอ้าวหนี
“ไม่รับฝาก กูหนักค่ะ!”
หล่อนเองก็สะบัดหน้าไปทางอื่นแล้วรีบเดินออกมาจากหอประชุมทันที ศึกของสองสาวได้เริ่มขึ้นแล้วโดยมีตำแหน่งคุณนายเป็นเดิมพัน แต่ไม่รู้ท่านนายอำเภอจะชอบใคร เพราะผู้หญิงที่เข้ามาให้เลือกก็เยอะซะเหลือเกิน...
รถมอเตอร์ไซค์จอดลงตรงหน้าร้านถ่ายเอกสารที่ติดกับร้านขายข้าวมันไก่ พลขับถึงกับหน้าตึงเมื่อมองเห็นชื่อร้านที่เด่นหรา ‘กรุ้งกริ้งก็อปปี้’ ส่งเสียงหัวเราะในลำคอแล้วมองคนที่นั่งซ้อนหลัง
คุณครูคนสวยที่อยู่ในชุดผ้าไหมตามคำสั่งของโรงเรียนให้สวมเพื่ออนุรักษ์ซึ่งความเป็นไทย โดยที่เขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ เธอลงมายืนแล้วกำลังจะก้าวเข้าร้าน แต่ก็ถูกคว้าแขนเอาไว้จากคนที่อาสามาส่งด้วยความเต็มใจ
ชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มอยู่ในชุดเสื้อยืดทับด้วยยีนส์สีซีด สวมแว่นตาสีเข้มเพื่อบดบังแสงแดดที่ส่องเปรี้ยงกลางศีรษะ เสือ ก้องคำราม ลูกชายคนโตของพ่อกำนันสงัด ก้องคำรามยิ้มให้สาวหน้าหวานแล้วเอ่ยชวนเสียงนุ่ม
“ร้านอื่นมีเยอะแยะ ทำไมไม่ไปถ่ายเอกสารร้านอื่นล่ะครับ พี่ว่าร้านตรงนู้นถ่ายดีกว่านะ” ชี้ไปยังร้านที่อยู่ถัดไปอีกสองตึก พยายามโน้มน้าวให้เธอเชื่อแต่กลายเป็นว่าครูสาวส่ายศีรษะทันที ยืนยันจะอุดหนุนร้านประจำของตัวเอง
“แต่มลว่าร้านนี้ทำเนี้ยบดีค่ะ” คุณครูคนสวยผู้เป็นที่รักของเด็กๆ บอกเหตุผลที่ทำให้ตนต้องมาใช้บริการร้านนี้ประจำ
มธุริน จุลินทิพย์ เพิ่งมาบรรจุที่โรงเรียนในอำเภอได้ไม่นาน พวกเขาเจอกันตอนที่หญิงสาวล้อรถแบนอยู่ข้างทาง ร่างสูงจึงอาสาช่วยเหลือทุกอย่างโดยไม่คิดเงิน ถูกตาต้องใจในความสวยและอ่อนหวานของคนตรงหน้าเข้าเต็มเปา จึงเทียวไล้เทียวขื่อตลอดหลายสัปดาห์
แต่เธอก็ยังให้เขาเป็นแค่พี่ชาย ไม่ได้ขยับสถานะไปไหน
ทว่าเสือพอจะดูออกว่าหล่อนก็ชอบตนอยู่บ้าง แค่ยังไม่มั่นใจเท่านั้นเอง คงต้องใช้เวลาอีกสักหน่อยถึงจะยอมตกลงเป็นแฟน
“งั้นพี่ไปซื้อของรอนะ ถ้าเสร็จแล้วค่อยโทรบอกเดี๋ยวพี่วกรถกลับมารับ” แค่อยู่หน้าร้านเขายังรู้สึกกระอักกระอวน จึงเลือกไปขับรถเล่นดีกว่า
“ค่ะ” ครูคนสวยตอบรับแล้วยิ้มหวานให้เขา จากนั้นจึงเข้ามาในร้านแล้วสั่งถ่ายเอกสารปึกใหญ่พร้อมบอกว่าจะมารับของตอนเย็น พนักงานของร้านยิ้มแย้มพร้อมชวนคุยอย่างเป็นเอง
ไม่นานก็โทรหาเสือให้มารับตนที่หน้าร้าน พอขึ้นซ้อนท้ายก็ขับออกไปอย่างรวดเร็ว แต่เจ้าของร้านก็เดินมาทันเห็นคนทั้งสองพอดี หล่อนขมวดคิ้วมุ่นพลันวิ่งเข้ามาในร้านอย่างเร่งรีบ เรียกลูกน้องของตนเองที่สนิทสนมตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม จนตอนนี้กลายเป็นคนในความดูแลหรือพนักงานเพียงคนเดียวของร้านถ่ายเอกสาร
ทำแทบทุกอย่างให้เจ้านายเพราะกนกวดีเหมือนเปิดร้านเพื่อมานอนเล่น ทำอะไรเกี่ยวกับการถ่ายเอกสารไม่เป็นสักอย่าง เคยทำเครื่องพังด้วยความสะเพร่ามาแล้ว
“จ๋ายๆ เมื่อกี้ไอ้เสือหรือเปล่า มันมากับใคร..เห็นผู้หญิงนั่งซ้อนท้าย” จำหน้าคู่อริของตนได้เป็นอย่างดี แค้นตั้งแต่สมัยเรียนอนุบาลที่ถูกอีกฝ่ายเปิดกระโปรง พอมาประถมก็ยังเรียนห้องเดียวกันแล้วโดนแกล้งเป็นประจำ
แต่ที่น่าเจ็บใจคือวันครูของทุกปีเธอจะได้ถือพานคู่กับอีกฝ่าย เพราะเป็นหนุ่มหล่อสาวสวยประจำห้อง เคยหกล้มต่อหน้าคนมากมายเนื่องจากโดนอีกฝ่ายขัดขามาแล้ว จากนั้นเธอก็แค้นเขาเป็นอย่างมาก
ไม่สิ...มันมีเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นที่เหมือนตราบาปไม่กล้าบอกใคร
“ครูมลไงพี่กริ้ง เป็นครูที่โรงเรียนแดงใหญ่ศึกษา เพิ่งมาบรรจุด้วยมั้งมาร้านเราประจำเลย น่ารัก ยิ้มเก่ง อ่อนหวาน” พยักหน้าตามคำบอกเล่า เห็นแค่หลังยังรู้ว่าสวยจึงไม่แปลกใจ แต่ที่เธออยากรู้คือสถานะของทั้งสองมากกว่า
“แล้วเป็นไรกับไอ้เสือ”
“เห็นว่าพี่น้องนะ แต่พี่เสือกำลังตามจีบแค่ครูมลยังไม่ใจอ่อน แต่เท่าที่จ๋ายดูอีกไม่นานได้เลื่อนขั้นเป็นแฟนกันแน่นอน” พนักงานเล่าอย่างออกรสเพราะตนก็แอบปลื้มเสืออยู่ไม่น้อย เขาเป็นรุ่นพี่หน้าตาหล่อเหลา ทั้งยังร่ำรวยอีกต่างหาก
ใครบ้างจะไม่ชอบ...
“เหอะ อย่างมันเหรอจะจีบติด แต่ถ้าติดผู้หญิงก็ตาถั่วมาก คนอย่างนั้นมีอะไรดี” กอดอกพลางเอ่ยเยาะเย้ย แต่จ๋ายก็รีบขัดทันทีจนคนที่แสยะยิ้มถึงกับหน้าตึง
“หือ พี่เสือดีมากเลยนะ ถอดท่อไอ้พวกเด็กแว๊นไปตั้งหลายคน บอกว่าถ้าใครขับรถเสียงดังผ่านหน้าบ้านแกจะเอาหนังสติ๊กยิง ตอนนี้เลยไม่มีเด็กแว๊นขับตอนกลางคืนในหมู่บ้านเลย...” คำชมยังไม่หมดแต่เป็นเจ้าของร้านถ่ายเอกสารที่ไม่อาจทนฟังต่อได้
“พอ ไม่ได้อยากฟัง” เชิดหน้าไปทางอื่นแล้วเดินกอดอกเข้าร้าน พลางคิดในใจอย่างหมายมาดและมุ่งร้ายต่อคนตัวสูง
‘เหอะ ขอให้ไม่สมหวัง ขอให้อกหักรักคุด!’