

ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร 3
ร่างบางโก่งคออาเจียนในห้องน้ำอย่างทรมาน เมื่อไม่มีอะไรออกมาสักอย่างนอกจากน้ำสีใส ใบหน้าซีดเซียว ดวงตาแดงก่ำ น้ำตารื้นดวงตา สองมือจับขอบเคาน์เตอร์ล้างหน้าไว้ เพื่อพยุงตัวเองไม่ให้ล้มลงไป ยืนหอบเหนื่อยอยู่สองสามนาที ก่อนจะหยิบทิชชูในกระเป๋าขึ้นมาเช็ดปาก มองตัวเองที่สะท้อนในกระจกเงา
พลางนึกน้อยใจในโชคชะตาที่ไร้คนรักข้างกาย ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นมีเขาคอยดูแลไม่ห่าง แต่ เธอต้องนั่งรับแรงกดดัน แรงกระแทก สายตาเหยียดหยาม ดูถูก ดูแคลน เสียงต่อว่าที่ปล่อยตัวเองท้องทั้งที่อยู่ในชุดนักศึกษา
เมื่อคิดก็พานจะอาเจียนออกมาอีกระลอก จึงรีบสลัดความคิดแย่ๆ ทิ้งไป หาพลังบวกให้ตัวเอง คิดซะว่าท้องตอนนี้จะได้มีลูกทันใช้ เธอจะได้เป็นคุณแม่ยังสาว พิมพ์มาดาก้มลงมองท้องตัวเองด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้มบาง เมื่อรู้สึกดีจึงเดินออกจากห้องน้ำมา
“พ่อของเด็กไปไหนล่ะ ทำไมไม่มาด้วยกัน หรือว่าเขาไม่รับผิดชอบ” เมื่อเดินพ้นประตูห้องน้ำ ก็มีเสียงคุ้นหูดังขึ้นราวกับกำลังเยาะเย้ย แต่พิมพ์มาดาก็ไม่ได้หันกลับไปมองแต่อย่างใด เพียงแค่หยุดยืนอยู่กับที่เท่านั้น เจ้าของประโยคจึงเป็นฝ่ายเดินเข้ามายืนขวางด้านหน้าแทน
ตรัยคุณเผลอขมวดคิ้วใส่อย่างไม่รู้ตัว เมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาว หัวใจของชายหนุ่มกระตุกวูบขึ้นมา ทำไมใบหน้าเธอถึงได้ซีดเซียวนัยน์ตาแดงก่ำขนาดนั้น และดูเหมือนจะผอมลงจากเดิมเสียด้วยซ้ำ รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองท้องไม่คิดบำรุงเลยหรือไง
“หลบหน่อยได้ไหมคะ” คิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยกยิ้มมุมปาก เมื่อคนตรงหน้าไม่มีแม้แต่หางตาจะมองมาที่ตน เอาแต่หันหน้าหนีมองไปทางอื่น
“จะไม่ทักทายกันหน่อยหรือไง ทำเหมือนคนไม่รู้จักกันไปได้” ทั้งที่ตัวเองเป็นคนเฉยชาใส่ก่อนแท้ๆ แต่เมื่อเห็นพิมพ์มาดาเฉยชากลับ ชายหนุ่มกลับทนไม่ได้จนต้องมาดักรอถึงหน้าห้องน้ำ
พิมพ์มาดาหน้าหันมองคนใจร้ายเต็มสองตา จ้องมองใบหน้าผู้ชายที่เธอรักอย่างโง่เขลาไร้สติ ราวกับจะจดจำใบหน้าของเขาไว้เป็นบทเรียนแสนแพงของชีวิต ว่าต่อไปนี้อย่าใช้หัวใจนำทางให้มากนัก แต่จงใช้สมองควบคู่ไปด้วย จะได้ไม่เจ็บเจียนตายอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้
“ก็คุณกับเพลงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันนี่คะ ก็ไม่จำเป็นต้องทักทาย”
“พี่รักษ์คะ อยู่นี่นี่เองน้องหาตั้งนาน” เจ้าของเสียงในชุดคลุมสีชมพูหวานไม่ต่างจากใบหน้า เดินเข้ามาหาตรัยคุณพร้อมกับเกาะแขนชายหนุ่มไว้ มองหญิงสาวที่ยืนสนทนากับชายหนุ่มด้วยความสงสัย
“พอดีพี่มาเข้าห้องน้ำ เห็นน้องคนนี้เหมือนจะล้มก็เลยเข้ามาพยุงไว้ แล้วน้องหาหมอเสร็จแล้วเหรอคะ ได้ลูกผู้หญิงหรือผู้ชาย” พิมพ์มาดาไม่อยากรับรู้ถึงเรื่องราวของคนทั้งคู่ เพราะยิ่งฟังยิ่งเจ็บปวดในใจ หญิงสาวจึงเดินเลี่ยงออกมา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังได้ยินเสียงตอบของผู้หญิงคนนั้นดังไล่หลังตามมาอยู่ดี
“ผู้หญิงค่ะ”
"จริงเหรอ!! เป็นผู้หญิงแบบนี้พี่ก็หลงตายเลยสิ คงขี้อ้อนเหมือนแม่น่าดู"
พิมพ์มาดาหลับตาลงช้าๆ พร้อมกับลมหายใจอุ่นที่ผ่อนออกมา พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาตอนนี้ แม้ใจจริงเธอแทบจะปล่อยโฮออกมาก็ตามที ยกมือขึ้นมาวางบนหน้าท้องตัวเองที่มีลูกน้อยอยู่ในนั้น
ไม่เป็นไรนะลูก ไม่เป็นไรนะ เขาไม่รักเราก็ไม่เป็นไร ไม่มีเขาแม่กับคุณตาก็เลี้ยงหนูได้อยู่แล้ว
