ตอนที่ 2 จุดเริ่มต้น
ตอนที่ 2 จุดเริ่มต้น
หญิงสาวใบหน้าสวยหวานสวมรองเท้าส้นสูงสีขาวราคาไม่ต้องพูดถึง เดินเข้ามาในบริษัทใหญ่ด้วยความมั่นใจ แล้วมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์
“สวัสดีค่ะ ดิฉันพริกแกงจากบริษัทxxx มาขอพบคุณนาคินทร์ค่ะ”
“ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าได้นัดเอาไว้หรือเปล่าคะ”
“นัดค่ะ”
“คุณนาคินทร์ยังไม่เข้าบริษัทเลยค่ะ น่าจะกำลังเดินทางมา”
“ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันรอได้” เป็นเธอเองที่มาก่อนเวลา
“ถ้างั้นเชิญทางด้านนี้เลยค่ะ” พนักงานพาหญิงสาวขึ้นไปนั่งรอในห้องผู้บริหารบนชั้นสูงสุดของตึกแห่งนี้ จากนั้นพนักงานคนนั้นก็เดินออกไปทิ้งให้หญิงสาวนั่งรออยู่คนเดียว
เวลาผ่านไปได้สักครู่เธอรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมา ซึ่งภายในห้องทำงานแห่งนี้มีห้องน้ำอยู่พอดี เธอจึงไม่รีรอขอเข้าห้องน้ำส่วนตัวทั้งๆที่เจ้าของห้องยังไม่ได้รับอนุญาต...ก็ไม่มีใครอยู่จะให้เธอขออนุญาตใคร!
เมื่อเสร็จธุระส่วนตัวในห้องน้ำแล้ว เธอเห็นว่าเจ้าของห้องยังไม่มาสักที เธอจึงยืนแต่งหน้าและเติมลิปสติกนิดหน่อยก่อนที่จะก้าวเท้าออกมา แต่แล้วเธอก็ได้ยินเสียง
“คุณนาคินทร์คะ ใจเย็นๆสิคะ เดี๋ยวก็มีคนมาเห็นเข้าหรอกค่ะ” น้ำเสียงกระซิบกระซาบแบบมีจริตจะก้านเอ่ยขึ้น ทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวเดินออกมาหยุดชะงักทันที
“ไม่มีใครหรอกน่า ถ้ามีก็เห็นแล้วสิ”
หญิงสาวใบหน้าสวยหวานแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง ค่อยๆเปิดประตูออกมาเห็นชายหญิงกำลังกอดรัดกันอยู่บนโซฟาราคาแสนแพงที่เมื่อสักครู่นี้เธอนั่งอยู่ตรงนั้น
“ปัก!” เสียงกระเป๋าถือแบรนด์ดังในมือเรียวสวยล่วงหล่นสู่พื้นจนเกิดเสียงทันทีเมื่อไม่คาดคิดว่าจะได้มาเห็นอะไรแบบนี้
“ใครน่ะ!” เธอวิ่งกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง ด้วยจังหวะหัวใจที่เต้นโครมครามไม่ยอมหยุด
“กลับไปก่อนป่ะ” นาคินทร์ผู้มีใบหน้าหล่อเหลาหันมาพูดกับหญิงสาวตรงหน้าเมื่อนึกขึ้นได้ว่าได้นัดลูกค้าคนหนึ่งเอาไว้
“แต่...”
“ผมไม่ชอบพูดซ้ำ” น้ำเสียงดุดันบ่งบอกถึงความรำคาญแต่สายตากลับจับจ้องไปที่ประตูห้องน้ำอย่างไม่วางตา
“ก็ได้ค่ะ” เรไรคู่ขาที่ขอตามมาด้วยจากกิจกรรมอันแสนหวานตั้งแต่เมื่อคืน รีบจัดการเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยอยู่ให้กลับเข้าที่ดังเดิมก่อนที่จะเดินออกไปด้วยใบหน้าไม่พอใจ
“ออกมา...” นาคินทร์เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าเขาได้นัดกับลูกค้าคนหนึ่งเอาไว้ ไม่คิดว่าเธอจะมาเร็วก่อนเวลาแบบนี้
“..........” หญิงสาวที่อยู่ด้านในยังคงใจเต้นไม่หาย จะหนีก็ไม่ทัน จะปฏิเสธว่าไม่เห็น เขาก็คงไม่เชื่อเธอแน่ๆ
“บอกให้ออกมาไง!” เขาเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง จนหญิงสาวที่หลบอยู่ด้านในสะดุ้ง จากนั้นเธอจึงค่อยๆก้าวเท้าเดินออกมาด้วยท่าทางสั่นๆนิดหน่อย
“เห็นอะไรบ้าง” เขาถามขึ้นเสียงเรียบพร้อมกับจับจ้องไปที่ใบหน้าสวยหวานนิ่ง
“ตาฉันไม่ได้บอดนี่คะ” ครั้นจะบอกว่าไม่เห็นอะไรเลยก็คงจะโกหก
“คุณหนูพริกแกงสินะ” เขารู้จักเธอ
“ค่ะ”
“เชิญนั่งสิ” เขาผายมือให้เธอเดินนำไปที่โซฟาและก่อนที่เธอจะนั่งลง เธอมีท่าทีไม่อยากนั่งนึกรังเกียจกับเหตุการณ์ที่เห็นเมื่อสักครู่นี้ แต่!...
“ว้าย!! คุณจะทำอะไรน่ะ” ท่าทีของเธอนาคินทร์พอจะมองออก เขาจึงดึงเธอให้นั่งลงมาบนหน้าตักของเขาแทน แล้วกอดเธอเอาไว้ ด้วยใบหน้าที่แสนจะเจ้าเล่ห์สุดๆ
“ปล่อยนะคะ!” พริกแกงดิ้นไม่ยอมหยุด เธอรู้สึกขยะแขยงผู้ชายคนนี้เป็นที่สุด แต่ยิ่งเธอดิ้นเขาก็ยิ่งกอดเธอเอาไว้แน่น
“ถ้าคุณไม่หยุดดิ้น ผมจะทำกับคุณแทนผู้หญิงคนเมื่อสักครู่นี้” ประโยคนี้เขาก็แค่ขู่ อีกอย่างคือเขาไม่อยากให้เธอเอาเรื่องนี้ไปพูด เพราะมันไม่ใช่เรื่องดี
“นั่นมันแฟนคุณนะ คุณจะทำกับผู้หญิงอื่นแบบที่ทำกับแฟนของคุณไม่ได้” เธอรีบพูดขึ้นเพื่อให้ตัวเองรอด แต่เธอพูดผิด!
“แฟนเหรอ...ผมไม่มีแฟนนะ” เขาตอบออกมาอย่างหน้าด้านๆ
“แล้ว...”
“ก็แค่คู่นอนสนุกๆ” จบประโยคเขาก็โน้มใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเข้ามาใกล้ใบหน้าสวยของเธอ แล้วจดปลายจมูกลงไปที่แก้มขาวเนียนของเธอพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ
“ฟอด!” ทำไมผมถึงกล้าแสดงกิริยาแบบนี้ใส่เธอน่ะเหรอ ก็เพราะผมรู้จักเธอมานานแล้ว ถึงแม้ว่าการพบกันครั้งแรกอย่างเป็นทางการของผมกับเธอจะไม่ค่อยประทับใจสักเท่าไหร่ก็ตาม แต่เธอก็คือผู้หญิงที่ผมชอบแอบมองเสมอ ไหนๆเธอก็คงมองผมเป็นผู้ชายมักมากไปแล้ว ก็ไม่มีอะไรจะให้เสียแล้วนี่
“ไอ้บ้า ไอ้หื่น ไอ้โรคจิต ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” ยิ่งเขามีท่าทีที่ไม่ให้เกียรติเธอมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกขยะแขยงเขามากขึ้นเท่านั้น
“ไม่ปล่อย...มาคุยเรื่องงานไม่ใช่เหรอ เริ่มกันเลยมั้ย”
“ไอ้ทุเรศ คุณมันน่ารังเกียจ”