ตอนที่ 1 แนะนำตัว
ตอนที่ 1 แนะนำตัว
@ นาคินทร์ หรือ เฮียคิน
สวัสดีครับ ผมนาคินทร์ อายุ 29 ปี เป็นผู้บริหารห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่มีสาขาเกือบทุกจังหวัดในประเทศไทย และที่ผมได้มายืนอยู่จุดนี้ได้ก็เพราะคุณพ่อของผมมีหุ้นส่วนอยู่เกินครึ่งของที่นี่ ท่านประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปพร้อมกับคุณแม่เมื่อเจ็ดปีก่อน ผมที่เป็นทายาทจึงได้ขึ้นรับตำแหน่งแทน
ผมมีน้องสาวหนึ่งคน เธอชื่อฉัตรแก้ว อายุ 20 ปี ยังเรียนไม่จบ แถมยังดื้อมากอีกด้วย คงเป็นเพราะหลังจากที่คุณพ่อกับคุณแม่ของพวกเราเสียไป ตอนนั้นเธอมีอายุเพียงแค่สิบสามปีเท่านั้น ทุกคนในบ้านต่างก็ตามใจเธอรวมถึงผมด้วย
อุบัติเหตุในวันนั้น ไม่ได้มีแค่คุณพ่อและคุณแม่ของผมที่เสียชีวิตเท่านั้น แต่ยังมีคนขับรถของคุณพ่อที่เสียชีวิตด้วยกันอีกหนึ่งคน ท่านมีลูกชายหนึ่งคน ชื่อชานนท์ ผมเรียกมันว่าไอ้นนท์ ผมเห็นว่ามันไม่ได้มีญาติพี่น้องที่ไหน ผมก็เลยรับส่งเสียน้องชายคนนี้ให้เรียนจนจบ ตอนนั้นผมที่มีอายุมากสุดจึงพยายามดูแลน้องๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ผมก็คือเด็กคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตเล่นสนุกไปวันๆ
ผมให้ไอ้นนท์ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันตั้งแต่วันที่พ่อแม่ของพวกเราเสียชีวิต ซึ่งตอนนั้นมันมีอายุแค่ 18 ปีเท่านั้น หลังจากที่มันเรียนจบมันก็ได้เข้ามาช่วยผมทำงานจนถึงทุกวันนี้
ช่วงนั้นพวกเราเศร้ากันมาก ผมที่เป็นพี่ชายคนโตเหมือนแบกรับภาระทั้งหมดเอาไว้คนเดียว แต่ผมก็มีกำลังใจเมื่อมองไปที่น้องสาวคนเล็กของผม ผมเข้าบริษัทและเรียนรู้งานอยู่ประมาณสองปีก่อนที่จะได้มายืนอยู่ตรงจุดนี้ จนผมสามารถนั่งเก้าอี้ตัวที่คุณพ่อของผมนั่งได้
วันเวลาผ่านไปความเศร้าที่พวกเราพบเจอก็เริ่มเลือนรางลงไปทีละนิด จนพวกเราสามารถอยู่กับมันได้ สามารถใช้ชีวิตให้มีความสุขได้ในทุกๆวัน
เมื่อเจ็ดปีก่อนผมยังเด็ก อายุก็ยังน้อย ประสบการณ์ก็ไม่มี คู่กรณีที่ทำให้รถของคุณพ่อผมเกิดอุบัติเหตุก็คือเพื่อนรักของผมเอง ผมไม่รู้ว่าช่วงนั้นเกิดอะไรขึ้น หลังจากเกิดอุบัติเหตุมันรับโทษทางกฎหมายอยู่ไม่นานก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ แล้วหลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ข่าวมันอีกเลย
นิสัยส่วนตัวของผมไม่ได้เงียบขรึมอย่างที่คนทั่วไปเข้าใจ ผมเป็นคนตลก ช่างพูด น่ารัก โดยเฉพาะกับคนที่ชอบ น้องสาวของผมชอบหนีเที่ยวอยู่บ่อยๆแล้วผมก็มักจะดุเธอเป็นประจำ แต่ไม่มีสักครั้งเลยที่เธอจะกลัว
“ยัยแก้ว!!” คุณหนูเล็กของตระกูล น้องสาวเพียงคนเดียวของผมเอง เธอกำลังจะออกเที่ยวกลางคืนอีกแล้ว
“อุ๊ย! เฮียเรียกทำไมเสียงดัง ตกอกตกใจหมด” ไม่ว่าผมจะโหด หน้าเข้ม เสียงดุ เสียงดังใส่เธอขนาดไหน เธอก็ไม่เคยกลัว เพราะเธอรู้ว่าผมใจดีและมักจะตามใจเธอเสมอ แต่ตอนนี้เธอโตเป็นสาวแล้ว จะออกนอกบ้านค่ำๆมืดๆ ทำให้ผมเป็นห่วง กลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเดิมอีก หลังจากที่ผมสูญเสียคุณพ่อกับคุณแม่ไปผมก็ไม่อยากสูญเสียใครไปอีกแล้ว
“จะไปไหน นี่มันมืดค่ำแล้วไม่ใช่เหรอ”
“แก้วโตแล้วนะเฮีย อยากออกไปสังสรรค์กับเพื่อนสักหน่อย”
“ไม่ให้ไปกลับขึ้นห้องไปเดี๋ยวนี้เลยนะ หนังสือเรียนน่ะอ่านบ้างหรือเปล่า” ผมยังพูดไม่ทันจบดี เธอก็วิ่งจู๊ดออกไปเลย ไม่ได้คิดจะฟังเสียงด่าที่ลอยตามหลังไปเลยสักนิด
“นี่!...” ไม่เคยฟัง!
“ไม่เคยฟังสักครั้งเลยนะครับ ครั้งเดียวก็ไม่เคย” เป็นเสียงของชานนท์ที่พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม บทท่านประธานสุดโหดของผมจะถูกทำลายลงก็เพราะน้องสาวตัวแสบนี่แหละ
“อยากโดนตีนหรือไง แล้วต้องทำยังไง” ทุกครั้งที่ยัยแก้วดื้อคนที่เดือดร้อนก็คงหนีไม่พ้นชานนท์ที่ต้องเป็นฝ่ายรับกรรม
“เหมือนเดิมมั้ยครับ” เหมือนเดิมที่ว่าก็คือให้ตามไปดูแลนั่นเอง
“อือก็รีบไปสิ เดี๋ยวก็ตามไม่ทันหรอก” คนเป็นพี่ชายอย่างผมนอกจากจะปวดหัวเรื่องงานแล้วยังต้องมาปวดหัวเรื่องน้องสาวอีก แต่ถึงอย่างนั้นเราก็เหลือกันแค่สองคนพี่น้อง
@ จันทรัตน์ หรือ พริกแกง
สวัสดีค่ะฉันชื่อจันทรัตน์ชื่อเล่นว่าพริกแกงค่ะ ตอนนี้ฉันอายุ 24 ปีแล้ว เพิ่งได้เข้ามาช่วยงานในบริษัทเมื่อไม่นานมานี้เองค่ะ
ฉันมีพี่ชายหนึ่งคนและน้องสาวอีกหนึ่งคน น้องสาวเป็นลูกคุณพ่อแต่คนละแม่ค่ะ พี่ชายเป็นคุณหมอ ส่วนน้องสาวเปิดร้านอาหารค่ะ
ชีวิตของฉันตั้งแต่เกิดจนโต มีความสุขมาตลอด โบราณเขาว่ากันว่า อายุย่างเข้าเลขยี่สิบห้าเป็นช่วงวัยที่อาจจะมีเคราะห์หรือเรียกว่าเบญจเพส
ฉันไม่รู้ว่าเบญจเพสของฉันจะมาในรูปลักษณะแบบไหน แต่ยังไงก็ขอฟ้าประทานผู้ชายหล่อๆมาก่อนสักคนเถอะนะคะ ช่วงนี้พี่ชายก็ไม่อยู่บ้านไปทำงานเป็นคุณหมออาสาอยู่บนดอยโน่น ฉันเป็นคนเพื่อนน้อย พอเรียนจบต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปทำงานกันหมด บางคนก็ไปทำงานไกลถึงต่างประเทศโน่น ช่วงนี้ฉันจึงรู้สึกเหงาเป็นพิเศษ
ตอนนี้ฉันได้เข้ามาช่วยคุณพ่อทำงานในบริษัทเต็มตัวแล้ว ซึ่งงานที่ว่าก็ค่อนข้างยากสำหรับฉันมาก ฉันเพิ่งเรียนจบมาใหม่ๆ ยังไม่มีประสบการณ์เลยด้วยซ้ำ แต่ในเช้าวันนี้ฉันต้องเป็นคนไปติดต่อเรื่องงานกับคุณนาคินทร์ ผู้บริหารห้างสรรพสินค้าชื่อดังเพื่อที่จะเอาสินค้าของบริษัทขึ้นไปขายบนห้างสรรพสินค้าของเขาที่มีสาขาทั่วประเทศเกือบทุกจังหวัดในประเทศไทย
ซึ่งตอนนี้ฉันได้มายืนอยู่ที่หน้าบริษัทของเขาแล้ว และดูเหมือนว่าความตื่นเต้นของฉันทำให้ฉันมาเร็วเกินไปจากที่ได้นัดเวลาเอาไว้