พริกแกงแผลงฤทธิ์

77.0K · จบแล้ว
มะนาว​สีชมพู​
40
บท
6.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เรื่อง...พริกแกงแผลงฤทธิ์ นิยายเรื่องนี้เขียนต่อจากเรื่อง คุณหมอเจ้าแผนการ และ คุณหมออาสากับยัยเด็กบนดอย เป็นตอนของพริกแกง น้องสาวของคุณหมอแสงเหนือ จากทั้งสองเรื่องที่กล่าวมาเมื่อสักครู่นี้นะคะ สามารถอ่านแยกได้ค่ะ คำโปรย เมื่อเธอโดนยานรกเข้า จึงขอร้องให้เขาช่วย แต่เธอไม่แม้แต่จะเรียกร้องใดๆจากเขา แต่เป็นเขาเองต่างหากที่เรียกร้องให้เธอรับผิดชอบ ข้อตกลงของทั้งสองจึงเกิดขึ้น นำพาให้เขาและเธอสนิทกัน แนะนำตัวละคร นาคินทร์ หรือ เฮียคินทร์ อายุ 29 ปี ผู้บริหารห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จันทรัตน์ หรือ พริกแกง อายุ 24 ปี ลูกสาวเจ้าของบริษัทนำเข้าและส่งออกอาหารสดทุกชนิด ชานนท์ หรือ นนท์ อายุ 25 ปี ลูกน้องคนสนิทของนาคินทร์ อยู่บ้านหลังเดียวกัน ฉัตรแก้ว หรือ แก้ว อายุ 20 ปี น้องสาวคนเล็กของนาคินทร์ -------------------------- คำเตือน...นิยายเรื่องนี้เป็นแนว รักโรแมนติก&ดราม่านิดหน่อย ไม่มีมือที่สาม เหมือนเดิมค่ะ

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันประธานนางเอกเก่งรักหวานๆรักแรกพบเศรษฐีโรแมนติกฟินๆ

ตอนที่ 1 แนะนำตัว

ตอนที่ 1 แนะนำตัว

@ นาคินทร์ หรือ เฮียคิน

สวัสดีครับ ผมนาคินทร์ อายุ 29 ปี เป็นผู้บริหารห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่มีสาขาเกือบทุกจังหวัดในประเทศไทย และที่ผมได้มายืนอยู่จุดนี้ได้ก็เพราะคุณพ่อของผมมีหุ้นส่วนอยู่เกินครึ่งของที่นี่ ท่านประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปพร้อมกับคุณแม่เมื่อเจ็ดปีก่อน ผมที่เป็นทายาทจึงได้ขึ้นรับตำแหน่งแทน

ผมมีน้องสาวหนึ่งคน เธอชื่อฉัตรแก้ว อายุ 20 ปี ยังเรียนไม่จบ แถมยังดื้อมากอีกด้วย คงเป็นเพราะหลังจากที่คุณพ่อกับคุณแม่ของพวกเราเสียไป ตอนนั้นเธอมีอายุเพียงแค่สิบสามปีเท่านั้น ทุกคนในบ้านต่างก็ตามใจเธอรวมถึงผมด้วย

อุบัติเหตุในวันนั้น ไม่ได้มีแค่คุณพ่อและคุณแม่ของผมที่เสียชีวิตเท่านั้น แต่ยังมีคนขับรถของคุณพ่อที่เสียชีวิตด้วยกันอีกหนึ่งคน ท่านมีลูกชายหนึ่งคน ชื่อชานนท์ ผมเรียกมันว่าไอ้นนท์ ผมเห็นว่ามันไม่ได้มีญาติพี่น้องที่ไหน ผมก็เลยรับส่งเสียน้องชายคนนี้ให้เรียนจนจบ ตอนนั้นผมที่มีอายุมากสุดจึงพยายามดูแลน้องๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ผมก็คือเด็กคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตเล่นสนุกไปวันๆ

ผมให้ไอ้นนท์ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันตั้งแต่วันที่พ่อแม่ของพวกเราเสียชีวิต ซึ่งตอนนั้นมันมีอายุแค่ 18 ปีเท่านั้น หลังจากที่มันเรียนจบมันก็ได้เข้ามาช่วยผมทำงานจนถึงทุกวันนี้

ช่วงนั้นพวกเราเศร้ากันมาก ผมที่เป็นพี่ชายคนโตเหมือนแบกรับภาระทั้งหมดเอาไว้คนเดียว แต่ผมก็มีกำลังใจเมื่อมองไปที่น้องสาวคนเล็กของผม ผมเข้าบริษัทและเรียนรู้งานอยู่ประมาณสองปีก่อนที่จะได้มายืนอยู่ตรงจุดนี้ จนผมสามารถนั่งเก้าอี้ตัวที่คุณพ่อของผมนั่งได้

วันเวลาผ่านไปความเศร้าที่พวกเราพบเจอก็เริ่มเลือนรางลงไปทีละนิด จนพวกเราสามารถอยู่กับมันได้ สามารถใช้ชีวิตให้มีความสุขได้ในทุกๆวัน

เมื่อเจ็ดปีก่อนผมยังเด็ก อายุก็ยังน้อย ประสบการณ์ก็ไม่มี คู่กรณีที่ทำให้รถของคุณพ่อผมเกิดอุบัติเหตุก็คือเพื่อนรักของผมเอง ผมไม่รู้ว่าช่วงนั้นเกิดอะไรขึ้น หลังจากเกิดอุบัติเหตุมันรับโทษทางกฎหมายอยู่ไม่นานก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ แล้วหลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ข่าวมันอีกเลย

นิสัยส่วนตัวของผมไม่ได้เงียบขรึมอย่างที่คนทั่วไปเข้าใจ ผมเป็นคนตลก ช่างพูด น่ารัก โดยเฉพาะกับคนที่ชอบ น้องสาวของผมชอบหนีเที่ยวอยู่บ่อยๆแล้วผมก็มักจะดุเธอเป็นประจำ แต่ไม่มีสักครั้งเลยที่เธอจะกลัว

“ยัยแก้ว!!” คุณหนูเล็กของตระกูล น้องสาวเพียงคนเดียวของผมเอง เธอกำลังจะออกเที่ยวกลางคืนอีกแล้ว

“อุ๊ย! เฮียเรียกทำไมเสียงดัง ตกอกตกใจหมด” ไม่ว่าผมจะโหด หน้าเข้ม เสียงดุ เสียงดังใส่เธอขนาดไหน เธอก็ไม่เคยกลัว เพราะเธอรู้ว่าผมใจดีและมักจะตามใจเธอเสมอ แต่ตอนนี้เธอโตเป็นสาวแล้ว จะออกนอกบ้านค่ำๆมืดๆ ทำให้ผมเป็นห่วง กลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเดิมอีก หลังจากที่ผมสูญเสียคุณพ่อกับคุณแม่ไปผมก็ไม่อยากสูญเสียใครไปอีกแล้ว

“จะไปไหน นี่มันมืดค่ำแล้วไม่ใช่เหรอ”

“แก้วโตแล้วนะเฮีย อยากออกไปสังสรรค์กับเพื่อนสักหน่อย”

“ไม่ให้ไปกลับขึ้นห้องไปเดี๋ยวนี้เลยนะ หนังสือเรียนน่ะอ่านบ้างหรือเปล่า” ผมยังพูดไม่ทันจบดี เธอก็วิ่งจู๊ดออกไปเลย ไม่ได้คิดจะฟังเสียงด่าที่ลอยตามหลังไปเลยสักนิด

“นี่!...” ไม่เคยฟัง!

“ไม่เคยฟังสักครั้งเลยนะครับ ครั้งเดียวก็ไม่เคย” เป็นเสียงของชานนท์ที่พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม บทท่านประธานสุดโหดของผมจะถูกทำลายลงก็เพราะน้องสาวตัวแสบนี่แหละ

“อยากโดนตีนหรือไง แล้วต้องทำยังไง” ทุกครั้งที่ยัยแก้วดื้อคนที่เดือดร้อนก็คงหนีไม่พ้นชานนท์ที่ต้องเป็นฝ่ายรับกรรม

“เหมือนเดิมมั้ยครับ” เหมือนเดิมที่ว่าก็คือให้ตามไปดูแลนั่นเอง

“อือก็รีบไปสิ เดี๋ยวก็ตามไม่ทันหรอก” คนเป็นพี่ชายอย่างผมนอกจากจะปวดหัวเรื่องงานแล้วยังต้องมาปวดหัวเรื่องน้องสาวอีก แต่ถึงอย่างนั้นเราก็เหลือกันแค่สองคนพี่น้อง

@ จันทรัตน์ หรือ พริกแกง

สวัสดีค่ะฉันชื่อจันทรัตน์ชื่อเล่นว่าพริกแกงค่ะ ตอนนี้ฉันอายุ 24 ปีแล้ว เพิ่งได้เข้ามาช่วยงานในบริษัทเมื่อไม่นานมานี้เองค่ะ

ฉันมีพี่ชายหนึ่งคนและน้องสาวอีกหนึ่งคน น้องสาวเป็นลูกคุณพ่อแต่คนละแม่ค่ะ พี่ชายเป็นคุณหมอ ส่วนน้องสาวเปิดร้านอาหารค่ะ

ชีวิตของฉันตั้งแต่เกิดจนโต มีความสุขมาตลอด โบราณเขาว่ากันว่า อายุย่างเข้าเลขยี่สิบห้าเป็นช่วงวัยที่อาจจะมีเคราะห์หรือเรียกว่าเบญจเพส

ฉันไม่รู้ว่าเบญจเพสของฉันจะมาในรูปลักษณะแบบไหน แต่ยังไงก็ขอฟ้าประทานผู้ชายหล่อๆมาก่อนสักคนเถอะนะคะ ช่วงนี้พี่ชายก็ไม่อยู่บ้านไปทำงานเป็นคุณหมออาสาอยู่บนดอยโน่น ฉันเป็นคนเพื่อนน้อย พอเรียนจบต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปทำงานกันหมด บางคนก็ไปทำงานไกลถึงต่างประเทศโน่น ช่วงนี้ฉันจึงรู้สึกเหงาเป็นพิเศษ

ตอนนี้ฉันได้เข้ามาช่วยคุณพ่อทำงานในบริษัทเต็มตัวแล้ว ซึ่งงานที่ว่าก็ค่อนข้างยากสำหรับฉันมาก ฉันเพิ่งเรียนจบมาใหม่ๆ ยังไม่มีประสบการณ์เลยด้วยซ้ำ แต่ในเช้าวันนี้ฉันต้องเป็นคนไปติดต่อเรื่องงานกับคุณนาคินทร์ ผู้บริหารห้างสรรพสินค้าชื่อดังเพื่อที่จะเอาสินค้าของบริษัทขึ้นไปขายบนห้างสรรพสินค้าของเขาที่มีสาขาทั่วประเทศเกือบทุกจังหวัดในประเทศไทย

ซึ่งตอนนี้ฉันได้มายืนอยู่ที่หน้าบริษัทของเขาแล้ว และดูเหมือนว่าความตื่นเต้นของฉันทำให้ฉันมาเร็วเกินไปจากที่ได้นัดเวลาเอาไว้