07 หมั่นไส้
@ห้างใหญ่
ฉันละรู้สึกรำคาญตาจริงๆเลยแม่หยกขานั่น อ้อนจะเอานั่นจะเอานี่ลืมเอากระเป๋าตังค์มาบ้างเครดิตเสียบ้างอะไรบ้างให้พี่พรานจ่ายให้ ไม่มีตังจ่ายเองก็บอกมาตามตรงสิคิดว่าฉันไม่รู้หรือไงพี่พรานก็โง่โดนนางหลอกยังไม่รู้ตัวอีกถ้าไม่พูดว่าโง่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดว่าอะไรแล้ว
“น้องเจ้าขา น้องว่าชุดนี้มันเหมาะกับพี่มั้ยคะ”นางหยิบชุดกระโปรงราคาเฉียดหมื่นมาให้ฉันดู
“อืมม...ชุดมันดูดีไปนะคะไม่เหมาะกับพี่เลย ชุดแบบนี้มันสำหรับพวกคนไฮโซคนมีอันจะกินน่ะค่ะ หนูว่าแบบพี่ตัวละ199ก็หรูแล้วนะ”
“เจ้าขา...”พี่พรานกดเสียงต่ำข้างหูฉัน
“อะไรคะ? ก็พี่หยกขาเค้าถามหนูก็ตอบไปตามความจริงเดี๋ยวจะหาว่าตอแหล”ฉันเน้นคำว่าตอแหลหันไปหานาง
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพราน หยกคงจะเป็นอย่างที่น้องเจ้าขาพูดจริงๆ ชุดนี้มันดูดีไปไม่เหมาะกับคนอย่างหยกหรอกค่ะ”นางหยกขาพูดเสียงเศร้าอยากตบให้ซีลีโคนบนหน้าหลุดออกมาจริงๆเลย
“อย่าคิดมากเลยหยกอยากได้อะไรก็เอาไปเลยเดี๋ยวพรานจ่ายให้”นี่สินะคนโง่
“ค่ะ”นางหันมากระตุกยิ้มให้ฉันทีนึง
“หึ้ยย ขอตัวนะพี่พราน!!”ฉันอยู่นานกว่านี้ไม่ได้หรอกเพราะฉันเป็นคนที่มีความอดทนต่ำกับคนที่ชอบยั่วโมโห ออกมาหาอะไรกินข้างนอกดีกว่าปล่อยให้คนโง่กับคนตอแหลเค้าอยู่ด้วยกันนั่นแหละดีแล้วส่วนคนฉลาดอย่างฉันมาหาอะไรอร่อยๆกินดีกว่าเผื่อได้เจอหนุ่มหล่อๆจะได้ขอเบอร์ด้วย คิก คิก
“อ้าวเจ้าขา!!” ฉันหันไปตามเสียง “อ้าวพวกมึง”
“ไหนมึงบอกว่าวันนี้ไม่ออกไปไหนไงแล้วไหงออกมาเที่ยวห้างได้”อีเกวถาม
“ถูกบังคับให้ออกมาช่วยแฟนพี่พรานเลือกซื้อเสื้อผ้าน่ะ”ฉันตอบ
“แล้วไหนล่ะพี่ชายกับแฟนพี่ชายของมึง”พวกมันชะเง้อใหญ่เลย
“อยู่ตามร้านเสื้อผ้านั่นแหละ กูไม่อยากอยู่ใกล้รำคาญยัยหยกขานั่นผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้ทำท่าแอ๊บแบ๊วได้ทั้งวันน่าถีบ”
“แฟนพี่พรานชื่อหยกเหรอ”ทอมมี่ถาม
“เออ...มึงจำผู้หญิงที่หาเรื่องกูที่ร้านเหล้าวันนั้นได้ไหม”
“อย่าบอกนะว่า....”
“ใช่! คือคนคนเดียวกัน”
“หู้ยย มึงเจอศึกหนักแล้วล่ะอีเจ้าขา แฟนพี่ชายมึงปากจัดซะขนาดนั้นมึงจะอยู่ด้วยได้เหรอวะ”
“มึงต้องไปเห็นตอนนี้ต่อหน้าพี่พรานนะแอ๊บแบ๊วชิบหาย แต่พอลับหลังพี่พรานด่ากูไฟแล่บเลย”ฉันพูดพร้อมกับเบะปากกรอกตามองบน
“....”
“แล้วพวกมึงจะไปไหนกันต่อวะกูไปด้วยดิไม่อยากอยู่ใกล้พวกนั้นรำคาญ”
“ไปดิ ตอนเย็นพวกกูจะไปกินเลี้ยงวันเกิดเพื่อนเก่าที่เคยเรียนสมัยประถมด้วยกัน ดีเลยกูจะได้แนะนำมึงให้เพื่อนเก่ากูรู้จักบ้าง”
“เออๆ เดี๋ยวกูไปบอกพี่พรานก่อนไปเลยเดี๋ยวก็จะว่ากูไม่บอกไม่กล่าวอีก”
ฉันไม่ต่างอะไรกับเด็กสามขวบหรอกจะไปไหนก็ต้องขออนุญาตผู้ปกครองก่อน จะไปหรือไม่ให้ไปนั่นก็อีกเรื่องนึงเป็นฉันก็น่าเหนื่อยเหมือนกันนะไม่มีอิสระเป็นของตัวเองเลย
“พี่พราน”
“อ้าว หายไปไหนมาตั้งนานอ่ะเรา”
“พี่พรานเลือกซื้อของไปสองคนกับพี่หยกขาเลยนะคะ หนูจะไปกินเลี้ยงงานวันเกิดกับเพื่อนอาจจะกลับดึกๆ”
“เพื่อนที่ไหนผู้หญิงหรือผู้ชายแล้วพี่รู้จักหรือเปล่า บ้านอยู่ตรงไหน ไว้ใจได้หรือเปล่า”
“เอาเป็นว่าเป็นเพื่อนของหนูแล้วก็ไว้ใจได้พี่รู้แค่นี้ก็พอแล้ว ขอตัวนะคะ”
“เดี๋ยวสิเจ้าขา”
“อะไรอีก”ฉันหันไปถามพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างแรง
“พี่ให้ไปได้แต่ห้ามกลับดึกพี่โทรไปต้องรับห้ามตัดสายห้ามเมินสายพี่เด็ดขาด”
“....”ฉันพยักหน้าเบาๆก็จะหันหลังเดินออกมาหาพวกเพื่อนๆที่ยืนคอยอยู่
“พี่พรานเค้าอนุญาตให้มึงไปป่าววะ”
“อืม อนุญาตแล้วไปกันเถอะ”
ฉันเดินตามพวกอีทอมมี่กลับมาที่รถจากนั้นพวกมันก็พาฉันไปที่บ้านของเพื่อนมันเพื่อเตรียมจัดงานวันเกิดในคืนนี้ มันก็อยู่ไม่ไกลนี่นาอยู่ใกล้ๆบ้านฉันด้วยแต่ฉันไม่รู้จักเป็นเพื่อนสมัยประถมของพวกอีทอมมี่มันเรียนจบมัธยมแล้วจากนั้นก็ย้ายไปเรียนที่ต่างประเทศเพิ่งจะกลับมา
“เจ้าขา นี่ธามเพื่อนสมัยเรียนที่กูเล่าให้ฟังเจ้าของงานวันเกิดนี่แหละ”อีทอมมี่พาผู้ชายคนนึงเดินมาหาฉัน หล่อมากบอกเลยหล่อแบบละมุนอ่ะ ถ้าเทียบกับพี่พรานก็หล่อคนละแบบกันเลย เพราะพี่พรานมันเถื่อนมีรอยสักด้วย
“อ๋อ ยินดีที่ได้รู้จักนะธาม เราชื่อเจ้าขา”ฉันแนะนำตัวตามปกติ
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันเจ้าขา ทำตัวตามสบายเลยนะไม่ต้องเกรงใจถือซะว่าที่นี่เป็นบ้านของเจ้าขาเลย”
“ขอบคุณนะ”ฉันยิ้มให้ธามไปทีนึง
จากนั้นฉันก็หันไปช่วยพวกเพื่อนๆเตรียมงานวันเกิด จนกระทั่งถึงเวลากินเลี้ยงฉันปล่อยให้พวกเพื่อนๆนั่งกินกันไปส่วนฉันก็ยืนย่างบาร์บีคิวอยู่ตรงนี้แหละฉันไม่อยากดื่มมากเดี๋ยวก็ถูกพี่พรานด่าอีก
“เจ้าขา...ทำไมไม่ไปนั่งกินด้วยกันล่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอกธาม เราขอยืนอยู่ตรงนี้ดีกว่า”
“เจ้าขาเป็นเพื่อนกับพวกทอมมี่มานานแล้วเหรอ”
“ปีนึงเอง”ฉันตอบ
“อ๋อ”
“แล้วธามจะกลับมาเรียนที่นี่หรือว่ากลับไปเรียนต่อที่โน่นเหรอ”
“เราแค่กลับมาทำบุญให้พี่สาวน่ะ พี่สาวเราตายไปเมื่อสองปีก่อนเราเลยต้องไปอยู่กับป้าที่สวีเดน”
“เราเสียใจด้วยนะ”
“แล้วนี่เจ้าขาเรียนสาขาไหนเหรอ”
“เราเรียนออกแบบน่ะ อยากเป็นดีไซเนอร์ออกแบบไรงี้”
“อ๋อ ดีเลยนะเรียนจบมาเราขอจองตัวเจ้าขามาออกแบบร้านอาหารให้เราหน่อย”
“หืมม เราว่าธามไปหามืออาชีพมาออกแบบให้จะดีกว่านะ เพราะเรายังเป็นมือใหม่เรายังไม่ไว้ใจฝีมือตัวเองเลย”
“ไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไงล่ะ”
“....”ฉันยิ้มจางๆ
“แล้วนี่เจ้าขามีแฟนหรือยัง”
“ถามแบบนี้จะจีบเราเหรอ”ฉันเลิกคิ้วถามพร้อมกับพร้อมยิ้มออกมา
“ถ้าเราบอกว่าใช่เจ้าขาจะยอมให้เราจีบไหม”
“เราไม่อยากให้ความหวังใคร ทางที่ดีธามควรไปหาคนที่ดีกว่าเรานะ เราไม่ได้ดีเหมือนที่ธามเห็นหรอกนะ”
“.....”
ฉันมันเป็นผู้หญิงสกปรกเคยผ่านมือผู้ชายมาแล้ว ความสัมพันธ์ของฉันมันคลุมเครือซึ่งฉันก็บอกไม่ได้ว่าฉันโสดหรือมีแฟนแล้ว แต่ที่ฉันรู้คือฉันไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์อีกแล้ว ฉันไม่อยากให้คนดีๆต้องมาแปดเปื้อนไปกับคนอย่างฉัน