06 พังประตู
สายๆวันต่อมา
วันนี้ฉันไม่ตื่นเช้าเพราะไม่ได้ไปไหนมันเป็นวันหยุด นอนอยู่บ้านสบายๆเพราะฉันไม่ค่อยเที่ยว(กลางวัน)เท่าไหร่ถ้าเพื่อนไม่ชวนไป ฉันไม่อยากไปไหนหรอกแค่ออกบ้านก็รู้สึกเบื่อแล้ว ในความรู้สึกของฉันอะไรมันก็เดิมๆไปหมดไม่มีอะไรแปลกใหม่เข้ามาเลย ไปตรงนั้นมันก็ที่เดิมไปตรงนี้มันก็ยังเป็นที่เดิมเหมือนกันฉันอยากไปไหนที่มันแปลกหูแปลกตาดูบ้างแต่ฉันก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี ส่วนเพื่อนของฉันน่ะเหรอคงไปเที่ยวล่าแต้มกันที่ไหนแหละเหลือแต่ฉันนี่แหละที่นอนตายแห้งอยู่ ฉันก็อยากทำตัวสบายๆไม่สนโลกเหมือนกับพวกมันบ้างแต่ฉันก็ทำไม่ได้ไม่รู้เพราะอะไร คงเป็นเพราะฉันไม่เคยได้รับอิสรภาพเลยเหมือนเป็นนกน้อยในกรงทองจะออกบินเล่นได้ก็ต่อเมื่อเค้าเปิดกรงให้ฉัน ถ้าแอบออกไปโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตก็จะถูกลากกลับมาเหมือนกับวันนั้นนั่นแหละ
ก๊อก ๆ ๆ “เจ้าขาตื่นหรือยัง”
ฉันรีบเอาผ้าห่มคลุมหัวทันทีเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูตามด้วยเสียงเรียกของคนที่ฉันไม่อยากได้ยิน วันนี้เป็นวันหยุดของฉันจะมาอะไรอีกละเนี่ยเค้าไม่มีการมีงานทำหรือยังไงตามฉันอยู่ได้ตั้งแต่เช้าจนเย็นตื่นนอนก็ไม่เว้น
ก๊อก ๆ ๆ “เจ้าขา ออกมาเปิดประตูให้พี่หน่อยพี่มีเรื่องจะคุยด้วย”
ฉันก็ยังคงเงียบไม่ตอบกลับไม่ลุกไปเปิดประตูให้ด้วย อยากเคาะก็เคาะไปเถอะเคาะให้ตายยังไงก็ไม่ไปเปิดประตูให้หรอก
“พี่รู้นะว่าเราตื่นแล้วแต่เราตั้งใจที่จะไม่เปิดประตูให้พี่”
“รู้แล้วก็ดี จะได้รู้ว่าที่ไม่ไปเปิดประตูให้เพราะไม่อยากเห็นหน้า”ฉันพูดอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะลุกออกจากเตียงคว้าผ้าขนหนูเดินเข้าไปในห้องน้ำโดยที่ไม่ได้สนใจเสียงเรียกจากด้านนอกเลย
ลัล ละ ลัล ลั๊ล ลา หื้ออ หึ่มม
ฉันร้องรำทำเพลงอย่างสบายใจก่อนจะถอดเสื้อผ้าออกจนหมดแล้วลงไปแช่น้ำอุ่นในอ่าง
“อ่าา สบายจัง หื้มม”ฉันนอนหลับตาพริ้มได้คนมานวดต้นคอสักคนน่าจะดีนะ มันคงจะรู้สึกผ่อนคลายมากแน่ๆเลย
ฉันนอนเล่นอยู่ในอ่างน้ำจนเพลินไม่หลับก็เหมือนหลับเพราะมันสบายเอามากๆ
“งู!! เจ้าขางู!”
“ห๊ะ!!”ฉันรีบลุกออกจากอ่างน้ำทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น
“ฮ่า ๆ ๆนี่ไงงู”พี่พรานคว้ามือของฉันไปจับหมับเข้าที่เป้าของตัวเอง
“กรี๊ดดด ไอ้พี่พรานอีกแล้วนะ”ฉันร้องกรี๊ดเสียงดังลั่นก่อนจะรีบหาผ้ามาปิดเรือนร่างของตัวเองเอาไว้ ก็ใช่สิฉันตกใจจนลืมไปว่าตัวเองโป๊อยู่
“จะอายทำไม พี่เห็นของเธอมาหมดแล้วเคยดูดเคยจับเคยอะ...”
“หยุดพูดเดี๋ยวนี้เลยนะ!!”ฉันรีบยกมือขึ้นปิดปากของพี่พราน นี่ถ้าแม่บ้านเข้ามาเห็นแล้วเอาไปฟ้องคุณพ่อขึ้นมาจะเป็นยังไง
“ปล่อยก่อน”
“ถ้าปล่อยแล้วก็หยุดพูดด้วยไม่อย่างนั้นหนูจะหากาวตราช้างมาอุดปากพี่ไว้”ฉันพูดขู่ไปงั้นแหละ ความจริงก็ไม่กล้าทำหรอก
“ทำไมถึงไม่มาเปิดประตูให้พี่”
“ก็ ก็ ก็อาบน้ำอยู่นี่ไง ไม่ได้ยิน”ฉันตอบไป
“เหรอ อาบน้ำอยู่หรือตั้งใจไม่เปิดประตูให้พี่กันแน่”พี่พรานเข้ามาประชิดตัวฉัน พร้อมกับโน้มหน้าลงมาใกล้ฉันมาก
“อะ อาบน้ำอยู่ พี่ก็เห็นแล้วนี่ไง”
“แล้วไป ออกไปใส่เสื้อผ้าได้แล้วอยากเป็นปอดบวมอีกหรือยังไง”
“ไอ้พี่บ้าในหัวมีแต่เรื่องใต้สะดือ อยากมากก็ไปขอหยกขาของพี่โน่น”
ฉันเดินหัวเสียออกมาจากห้องน้ำ พูดถึงแฟนของพี่พรานแล้วก็หงุดหงิดผู้หญิงอะไรทำท่าแอ๊บแบ๊วได้ทั้งวัน ตัวจริงเป็นยังไงเน่าในหมดแล้วมั้ง ต่อหน้าทำมาเป็นพูดดีทำตัวแอ๊บแบ๊วพี่อย่างนั้นพี่อย่างนี้หยกอย่างนั้นหยกอย่างนี้อยากกระโดดถีบยอดหน้าให้หงายหลังไปเลยข้อหาทำตัวน่าหมั่นไส้
“พี่พราน!! นี่พี่ทำอะไรกับประตูห้องของหนู”ฉันตกใจมากที่เห็นลูกบิดประตูห้องมันหักห้อยลงมาไม่เหมือนเก่า
“ก็พี่เคาะประตูอยู่ตั้งนานเราก็ไม่ออกมาเปิดประตูซักที พี่ก็เลยพังลูกบิดเข้ามา”
“ไอ้พี่พราน!!!”
“ห้ามว่าพี่เด็ดขาด เพราะว่าพี่เป็นห่วงเราไงพี่ถึงได้พังประตูเข้ามา”
“นี่พี่บ้านรวยขนาดนั้นเลยรึไง นี่มันกี่ครั้งแล้วที่พี่พังประตูห้องของหนู”ฉันพูดอย่างเหลืออด นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่พรานพังประตูห้องของฉันมันนับครั้งไม่ถ้วนแล้วต่างหาก
“เอาน่า เดี๋ยวพี่ให้ช่างมาเปลี่ยนประตูให้ ระหว่างรอช่างมาทำกลอนประตูให้ใหม่ก็ไปนอนที่ห้องของพี่ก่อนก็ได้พี่ไม่ว่า”
“ห้องรับแขกมีค่ะเดี๋ยวหนูไปนอนที่นั่นดีกว่า คนอย่างพี่มันไว้ใจไม่ได้”
“....”
“แล้วนี่เข้ามาหาหนูแค่นี้ใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้นก็ออกไปได้แล้วค่ะหนูปลอดภัยดีไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น คราวหน้าคราวหลังก็อย่าสุ่มสี่สุ่มห้าพังประตูเข้ามาอีกนะคะแล้วจะหาว่าหนูไม่เตือน”
“พี่ว่าจะมาชวนเราไปห้าง”
“ไม่ไปค่ะ จะนอน”
“ไปเถอะนะอยากได้อะไรเดี๋ยวพี่จะซื้อให้หมดเลย แพงแค่ไหนพี่ยอมจ่ายขอแค่เธอไปกับพี่”
“บอกความประสงค์ที่แท้จริงของพี่มา”
“พอดีว่าหยกเค้าจะไปซื้อเสื้อผ้าพี่เลือกเสื้อผ้าไม่เป็นด้วยเลยอยากจะให้เราไปช่วยหยกเลือกหน่อย”อ๋อ อย่างนี้สินะถึงมาชวนฉันไปเที่ยวได้
“ได้ค่ะ หนูจะไปถ้าอย่างนั้นหนูขอแต่งตัวก่อนก็แล้วกันนะคะ แล้วจะตามลงไป”
“โอเค อย่านานล่ะ”
ฉันเริ่มคิดอะไรสนุกๆขึ้นมาได้ซะแล้วสิทำให้คนแอ๊บแบ๊วแอ๊บแตกเนี่ยมันจะเป็นยังไงกันนะ ต่อหน้าทำมาเป็นพูดดีที่ลับหลังเถอะด่าฉันอย่างกับอะไรดี นี่ถ้าวันนั้นทอมมี่ไม่ลากฉันออกมาก่อนนะได้วางมวยกับนางแน่นอน เปรียบมวยฉันชนะขาดเพราะนางตัวเล็กมากเก่งแต่ปากฉันไม่กลัวหรอก แม่จะซัดให้เต็มๆเบ้าตาเลยเอาให้รีบบินกลับไปทำหน้าใหม่ที่ต่างประเทศไม่ทันเลย
“นานนะเรา”
“ธรรมดาค่ะ ออกไปเที่ยวห้างทั้งทีจะไปแบบโทรมๆได้ยังไงล่ะคะเดี๋ยวเจอหนุ่มๆก็อายกันพอดี”ฉันพูดยั่วพี่พรานเล่นไปงั้นแหละ ความจริงฉันก็ไม่ได้แต่งหน้าอะไรมากมายหรอกแต่นั่งเล่นมากกว่า
“ห้ามยุ่งกับผู้ชายคนไหนถ้าไม่อยากโดนแบบคืนนั้นอีก”
“ไม่รู้ ไม่สน ไม่ใส่ใจ”
“เจ้าขา!”
“หนูว่ารีบไปกันดีกว่านะคะเดี๋ยวหยกขาของพี่จะรอนาน”
ฉันรีบเดินไปรอพี่พรานที่รถ จากนั้นพี่พรานก็เดินตามมาแล้วสตาร์ทรถขับพาฉันออกไปจากบ้านทันที
“แล้วพี่จะไปรับหยกขาของพี่ที่ไหนเนี่ย”
“ที่คอนโดที่เดิมแหละ”พี่พรานตอบ
ไม่นานพี่พรานก็ขับรถมาถึงหน้าคอนโดของยัยหยกขานั่น ทันทีที่นางเห็นรถของพี่พรานก็รีบวิ่งมาหาทันทีเลย
ก๊อก ๆ ๆ ฉันลดกระจกลงเมื่อนางเคาะกระจกรถ คงอยากจะมานั่งข้างหน้าล่ะสิท่าแต่เสียใจค่ะฉันไม่ให้นั่ง
“น้องเจ้าขา พี่ขอนั่งข้างหน้ากับพรานได้ไหม”
“แล้วนั่งข้างหลังมันจะตายหรือยังไง”ฉันหันไปตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว
“เจ้าขา...ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะพี่เค้าแก่กว่าเรานะ”
“ถ้าพี่ไม่พอใจก็กลับไปส่งหนูที่บ้านแล้วไปกันสองคน”ฉันหันไปพูดใส่พี่พราน
“ไม่เป็นไรค่ะพราน หยกนั่งข้างหลังได้”
“....”ฉันนั่งเบะปากให้กับคำพูดของนาง ไม่เมื่อยปากเมื่อยหน้าบ้างหรือยังไงทำตัวแอ๊บแบ๊วได้ทั้งวัน