บทย่อ
พราน ชายหนุ่มเสน่ห์แรงขวัญใจสาวๆที่ชอบแนวมาดเข้มขรึม ลูกชายคนเดียว เรียนจบแล้วตอนนี้เปิดผับเล็กๆกลางเมือง พ่อทำงานอยู่ที่ปารีสเพราะมีบริษัทเป็นของตัวเองอยู่ที่นั่น แม่เสียไปตั้งแต่เด็กๆแล้ว และพ่อของเขาก็ได้มีภรรยาใหม่ชื่อสุภามีลูกติดมาด้วยคนนึง อายุห่างจากเขา 7 ปี ตอนนั้นพรานอายุ 10ขวบพอรู้เรื่อบ้างแล้ว ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีจนกระทั่งสุภาล้มป่วยอย่างหนักและได้เสียชีวิตลงไป ความรับผิดชอบเลยตกอยู่ที่พรานคนเดียวเพราะพ่อของเขาต้องไปมาระหว่างประเทศ เลยไม่มีเวลาดูแลเด็กคนนี้ ซึ่งเธอก็ไม่มีญาติที่ไหนอีกแล้ว (ถ้าไม่เชื่อฟังพี่อีก พี่จะตัดค่าขนมสั่งห้ามเที่ยวเป็นเวลา1เดือนเต็ม อย่าลืมนะว่าพ่อเป็นคนให้พี่คอยดูแลเรา) เจ้าขา อายุ19ปี เด็กดื้อแก่นแก้ว แสบและซนมาก หลายครั้งที่ทำเอาพรานต้องปวดหัว สองพี่น้องอยู่บ้านเดียวกันแต่ต้องแยกอยู่กันคนละที่เพราะถ้าอยู่ที่เดียวกัน ทั้งสองจะตีกันตลอด เจ้าขาเธอเป็นเด็กสู้คนไม่ยอมใครทุกครั้งที่ทะเลาะกับพี่ชายจึงมีการเตะต่อยพี่ตลอด (ก็ทำอะไรเขาไม่ได้แหละเลยทำแบบนี้555) แต่ความจริงแล้วเธอเป็นเด็กน่ารัก น่าสงสารเอามากๆ แต่ที่เธอเป็นแบบนี้ก็เพราะว่าเธอปกปิดความอ่อนแอเอาไว้ข้างในต่างหากล่ะ (พี่มันก็ดีแต่ขู่แบบนี้แหละ เอาสิถ้าพี่ทำแบบนั้นเจ้าขาก็จะฟ้องพ่อว่าพี่อุ้มผู้หญิงขึ้นคอนโดตั้งหลายครั้ง) เมื่อไม่มีใครยอมใครมันจะเกิดอะไรขึ้น....
บทนำ
เรื่องราวของทั้งสองคนเกิดขึ้นในวันแต่งงานของเพลิงและวันใหม่ ด้วยความเมาจากแอลกอฮอล์ทำให้ทั้งสองคนไม่มีสติและเผลอมีอะไรกันในที่สุด ครั้งแรกของเด็กสาวที่เธอเก็บและทะนุถนอมมันเอาไว้เพื่อมอบให้กับคนที่เธอรักมากที่สุด แต่ผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าพี่ชายได้พรากมันไปแล้ว
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ใช้ชีวิตตามปกติ แต่เด็กสาวจะพูดกับผู้เป็นพี่ชายน้อยลงเพราะยังรู้สึกโกรธที่พี่ชายทำแบบนั้นกับตนเอง และก็รู้สึกโกรธตัวเองที่ใจง่ายแบบนั้น แต่ทุกอย่างมันผ่านมาแล้วมันไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว เธอจึงต้องจำใจยอมรับมันเธอไม่ได้ต้องการความรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น เธออยากให้ทุกอย่างมันจบสิ้นลงตรงนี้ และผู้เป็นพี่ชายก็ไม่อยากมีพันธะเช่นกัน ทั้งสองคนจึงตกลงกันเอาไว้ว่าจะทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่ทว่า...
นับวันชายหนุ่มเริ่มใช้อิทธิพลคำว่าผู้ปกครองกับเธอมากขึ้น เธอมีความรู้สึกว่าชายหนุ่มเริ่มหวงเธอเวลาเธอไปไหนกับเพื่อนผู้ชาย หรือออกเที่ยวกลางคืน หลายครั้งที่ถูกต่อว่าด้วยถ้อยคำที่เจ็บปวดจากชายหนุ่ม ไม่รู้ว่าทุกคำที่เขาพูดออกมามันแสดงออกถึงความหึงหวงหรือโกรธเกลียดเธอกันแน่
หลายครั้งที่เด็กสาวต้องไปนั่งแอบร้องไห้คนเดียวเพราะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่แม่ของเธอทิ้งไปโดยที่ไม่เอาเธอไปด้วย ถึงเธอจะโตมากับคำว่าครอบครัวที่มีฐานะมีพ่อเลี้ยงที่รักใคร่เอ็นดูเธอเหมือนกับลูกแท้ๆ แต่นั่นมันก็ไม่ได้ทำให้เธอมีความสุขเลย บางครั้งเธอยังแอบคิดว่าชีวิตนี้ไม่มีใครต้องการเธอเลยแม้กระทั่งญาติที่เธอสมควรจะไปอยู่ด้วยมากที่สุด
ใครจะไปรู้ว่าภายนอกของเด็กที่แสนจะสดใสน่ารักคนนี้มันแอบซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้ด้านใน ยากนักที่ใครจะสามารถหยั่งถึงมันได้ เพราะเธอไม่เคยเปิดเผยเรื่องนี้ให้ใครรับรู้เลย
เวลาดำเนินผ่านไปเรื่อยๆและก็ยังไม่มีใครรับรู้ถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งของทั้งสอง จนวันหนึ่งทั้งสองได้มีอะไรกันอีกครั้งอย่างเต็มใจทั้งสองฝ่าย มันไม่ใช่ความรักเพียงแต่มันยังอยู่ในช่วงเวลาที่สับสนของทั้งสอง
แต่แล้ววันนึงแฟนเก่าของชายหนุ่มที่เคยรักมากก็หวนกลับมาพบเจอกันอีกครั้ง เรื่องราวทั้งหมดมันจึงอลวนมากขึ้น อีกคนก็ยังลืมไม่ได้ ส่วนอีกคนก็ทั้งรักทั้งหวงแต่ไม่กล้าปริปากบอกไป
......
“แต่งตัวไปไหนอีกเจ้าขา”
“ไปเที่ยวกับเพื่อนค่ะ จะได้ไม่ต้องอยู่เป็นก้างขวางคอใคร”
“พี่ไม่ให้ไป!!”
“คุณพ่อให้พี่เป็นคนดูแลเจ้าขา เป็นผู้ปกครองเจ้าขา แต่ไม่ได้ให้มาเป็นเจ้าชีวิตของเจ้าขานะคะ”
“เจ้าขา!!”
“ขอตัวค่ะ”
เด็กสาวสะบัดแขนที่ถูกมือของชายหนุ่มจับเอาไว้ออกแล้วเดินออกมาที่หน้าบ้านทันที ชายหนุ่มรีบวิ่งตามมาก่อนจะอุ้มเด็กสาวพาดบ่าแล้วพากลับเข้าไปในบ้านทันที
“พี่พรานปล่อยนะ!!”
“พี่ไม่ปล่อย และพี่ก็ไม่อนุญาตให้เจ้าขาไปเที่ยวด้วย อายุเท่าไหร่เองแต่กลับเที่ยวผับเที่ยวบาร์ได้แล้ว”
“เจ้าขาจะไป ปล่อย!!”
“....”ชายหนุ่มไม่ได้สนใจคำพูดของเด็กสาวเลย เค้าพาเธอกลับขึ้นมาบนห้องทิ้งตัวเธอลงบนเตียงอย่างแรงแล้วรีบเดินออกมาล็อกประตูห้องของเธอทันที
ปัง ปัง ปัง
“เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะพี่พราน พี่จะมาขังเจ้าขาแบบนี้ไม่ได้นะ เปิด!!”
ปัง ปัง ปัง
เด็กสาวพยายามทุบประตูอย่างแรงจนสองมือของเธอแดงเป็นสีเสือดสด
“พี่บอกแล้วไงว่าพี่ไม่อนุญาต พี่บอกเราแล้วเราไม่ฟังพี่เองพี่ก็ต้องจัดการแบบนี้แหละ”
“ไม่!! ปล่อยเจ้าขาเดี๋ยวนี้ เปิด!!”
เด็กสาวพยายามโวยวายแต่ก็ไม่เป็นผล เธอหันหลังกลับไปนั่งลงบนเตียงแล้วตั้งสติ ก่อนจะนึกอะไรได้บางอย่าง เธอเดินออกไปที่หน้าระเบียงห้องพร้อมกับก้มลงมองที่ด้านล่างก่อนจะเดินมาคว้ากระเป๋าที่ด้านในแล้วรีบปีนลงไปจากหน้าระเบียงทันที
ตุบบ
“หึ!! คิดว่าขังเจ้าขาไว้ในห้องแล้วจะห้ามเจ้าขาได้เหรอคะ”เธอกระตุกยิ้มอย่างสะใจก่อนจะรีบวิ่งออกไปที่หน้ารั้ว แล้วขึ้นแท็กซี่ไปทันที
@ผับ
“เบาๆดิวะอีเจ้าขา แดกอย่างกับน้ำเปล่าแบบนี้เดี๋ยวก็เมาตายห่าพอดี”เพื่อนของเธอรีบห้ามปราม ทันทีที่เด็กสาวมาถึงยังผับที่ได้นัดกับเพื่อนๆเอาไว้เธอก็กระดกเหล้าเพียวๆอย่างเดียวเลย ไม่สนใจแม้คำห้ามปรามของเพื่อนสนิท
“กินแม่งไปเหอะ ตายไปเลยได้ยิ่งดีจะได้หมดเวรหมดกรรม”
“เห้ย!! มึงพูดอะไรของมึงวะอีเจ้าขา อย่าพูดแบบนั้นดิ”เพื่อนอีกคนพูดขึ้นมา ทำให้เพื่อนที่เหลือของเธอต่างพากันตกใจเมื่อเห็นเพื่อนสนิทพูดออกมาแบบนี้
“มึงเป็นอะไรหรือเปล่าวะเจ้าขา เก็บกดอะไรมาหรือเปล่าเล่าให้พวกกูฟังได้นะเว้ย”
ตอนแรกเพื่อนของเธอคิดว่าเธอพูดออกมาเพราะความเมา แต่พอได้มองหน้าเจ้าขาดูแล้วมันกลับไม่ใช่แบบนั้น
“กูไม่รู้ว่าจะอยู่ไปทำไมว่ะ กูเคยมีความสำคัญในชีวิตของใครบ้างหรือเปล่าวะ”
“มีดิวะ มึงยังมีพวกกูมีพี่ชายมีพ่อ”
“เหอะ!!พี่ชายที่เห็นแก่ตัวเอาแต่ได้น่ะเหรอ”เธอกระตุกยิ้มมองอย่างน่าสมเพช
“.....”เพื่อนๆของเธอหันมองหน้ากันและกันอย่างงงๆ เพราะไม่มีใครเข้าใจในสิ่งที่เธอพูดออกมาเลย
.......
ตัดมาทางด้านชายหนุ่ม
หลังจากที่ขังเด็กสาวไว้อยู่ในห้องเรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินกลับมาที่ห้องของตัวเองอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนเพื่อที่จะพักผ่อน เด็กสาวเข้าใจว่าชายหนุ่มพาแฟนเก่ามาอยู่ที่บ้านด้วยแต่ความเป็นจริงเธอแค่ไปมาหาสู่ระหว่างวันแค่นั้นเองไม่ได้มานอนค้างหรือมากินอยู่ที่นี่
ครืด ครืด ครืด
ในขณะที่เขากำลังจะลมตัวลงนอนบนเตียงก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาทันที
“มีอะไร?”
( นายครับ ผมเห็นคนคล้ายๆคุณเจ้าขาอยู่ที่ผับเลยครับ )
“คนหน้าเหมือนหรือเปล่า เจ้าขาเธออยู่ที่บ้านไม่ได้ออกไปไหน”ชายหนุ่มตอบกลับลูกน้องไป
( เหรอครับ ถ้าอย่างนั้นผมคงตาฝาดไปจริงๆ ขอโทษด้วยนะครับนาย )
“เออๆไม่เป็นไร”
ชายหนุ่มกดวางสายจากลูกน้องไปจากนั้นก็ลุกเดินไปที่ห้องของเด็กสาว เพื่อที่จะไปดูว่าเธอนั้นนอนหลับไปหรือยัง
แต่พอไขกุญแจแล้วเดินเข้าไปด้านในเท่านั้นแหละ เค้ารู้ได้ทันทีว่าที่ลูกน้องเค้าเห็นไม่ใช่คนหน้าเหมือนแนน่อน เพราะเด็กสาวไม่ได้อยู่ในห้องแถมกระจกหน้าระเบียงก็เปิดเอาไว้อีก
เขารีบเดินกลับมาที่ห้องแล้วหยิบโทรศัพท์โทรกลับไปหาลูกน้องคนนั้นทันที
“มึงจับตาดูเจ้าขาเอาไว้กูจะรีบไปเดี๋ยวนี้”
พูดจบชายหนุ่มก็กดวางสายไปทันที จากนั้นก็คว้ากุญแจรถหรูของตัวเองแล้วขับออกไปทันที