3
ลู่เมียนเปาอยากชมเมืองต้าถัง จะงดงามรึไม่ นางอยู่ในโลกแห่งนี้ อีกทั้งยังต้องเตรียมตัวเป็นพระสนม ช่างน่าเบื่อยิ่งนัก หญิงสาวมองหอน้ำชา กระนั้นจึงขึ้นไปจิบน้ำชาบนชั้นสอง พบเจอกับคนที่คุ้นหน้าเสียเหลือเกิน
นี่มัน ไอ้หน้าไข่เต่าเทียน เทียน
นางเดินชนบุรุษผู้นั้น
"นี่เเม่นางช่างไร้มารยาทนัก เดินชนคุณชายของข้า" บ่าวชายผู้นั้นต่อว่า นาง
"ข้ามิเป็นไร" บุรุษชุดฟ้ามิถือสาหาความกับสตรีแปลกหน้า เขาสะบัดอาภรณ์แล้วเดินลงบันได
"คุณหนูเหตุใด ท่านต้องไปชนคุณชายผู้นั้นด้วย" เสี่ยวชุยยังแปลกใจ กับการกระทำเจ้านาย
ลู่เมียนเปาไม่สนใจสาวใช้ นางนั่งลงแล้วสั่งอาหารกับเสี่ยวเอ้อร์ ในสมองจำภาพบุรุษผู้นั้น เหมือนเทียน เทียนมาก
พลบค่ำหลังจากที่นางเดินชมเมืองต้าถังจนหนำใจ จึงได้กลับมาที่จวนสกุลลู่ สาวใช้ดักรอนาง รายงานว่า นายท่านลู่ต้องการพบนาง จึงรอที่ห้องโถงของเรือนหลัก
ลู่เมียนเปาเดินทอดน่องเข้าไปอย่างช้า ๆ ในสมองขบคิดถึงน้องสาวคนดีทั้งสองคน
นายท่านลู่มองบุตรสาวที่เพิ่งฟื้นคืนชีพ ก็พลันก่อเรื่องทะเลาะกับน้องสาวทั้งสองคนอย่างลู่ซินและลู่หราน
"ลู่เมียนเปา เหตุใดเจ้าผลักน้องสาวทั้งสองคนตกน้ำด้วย" ในตอนที่มาถึงจวนอนุหงซิววิ่งโล่เข้ามาฟ้องนายท่านลู่ทันที
"ท่านก็ถามพวกนางสิ พูดจามิเคารพข้า ข้าเป็นพี่ใหญ่ บุตรสาวภรรยาเอก มีสิทธิ์สั่งสอนพวกนาง" นางมิสนใจหรอกว่าบิดาจะรักใคร
"เจ้านิสัยเยี่ยงนี้ เจ้าจะเข้าไปในวังหลวงได้อย่างไร"
"ใครว่าข้าอยากเข้าไปเป็นสนมเล่า ท่านก็ไปยกเลิกรายชื่อเสียสิ"
ยกเลิกรายชื่อไม่ทันเเล้ว ในตอนที่เขารู้ว่านางฟื้นขึ้นมา เขาดีใจมาก ที่บุตรสาวมีชีวิตรอด เขาอยากจะเกี่ยวดองกับราชวงศ์
"ท่านก็รู้ว่าข้ารักท่านแม่ทัพเสิ่นหยาง เหตุใดถึงต้องส่งข้าไปเป็นสนมเล่า"
ฝ่ามือหนาของบิดาฟาดลงบนใบหน้างามอย่างแรง
"ท่านพี่!!!" ลู่ฮูหยินย่างกรายเข้ามาพอดี เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง
"ท่านตบหน้านาง" ลู่ฮูหยินกอดลู่เมียนเปา บุตรสาวเปรียบดั่งของล้ำค่าของนาง แต่ชายชั่วตบหน้าบุตรสาวนาง
"ท่านไม่รักนาง ข้าไม่ว่า แต่เหตุใดต้องทำร้ายนางด้วย"
"นางไม่อยากเป็นสนม นางอยากรักกับเเม่ทัพเสิ่นหยาง เจ้าว่าข้าควรทำอย่างไร อีกหนึ่งเดือนนางก็ต้องส่งตัวเข้าวังหลวง"
ลู่ฮูหยินมองบุตรสาว
"ท่านแม่"
"แม่จะพาเจ้ากลับเรือน" ลู่ฮูหยินโอบกอดบุตรสาวมุ่งหน้าไปที่เรือนนอน นายท่านลู่มองมือหนาใหญ่ แล้วพลันปวดใจ ที่ตบหน้าบุตรสาว
"เจ็บมากรึไม่" ลู่ฮูหยินทาแผลที่รอยแดง แล้วมองบุตรสาวผู้น่าสงสารของนาง
"ไม่เจ้าค่ะ" ลู่เมียนเปา ถ้านางไม่เห็นว่าตาแก่ลู่เป็นบิดาของเจ้าของร่างเดิม นางใช้วิชามวยไทยไปแล้ว
"เจ้าตัดใจจากแม่ทัพเสิ่นเถอะ ถึงอย่างไร เจ้ากับเขาก็ไร้วาสนาต่อกัน" คนเป็นมารดาปลอบใจบุตรสาว
นางแค่หาข้ออ้างไม่อยากเข้าไปเป็นสนม นางมิได้รักเเม่ทัพเสิ่นเสียหน่อย ลู่เมียนเปาคิดในใจ
"ท่านแม่ ท่านไม่ช่วยข้ารึเจ้าคะ"
ลู่ฮูหยินพลันถอนหายใจกังวลอย่างหนัก เรื่องนี้มันเป็นไปได้ยากเหลือเกิน เพราะบุตรสาวมีรายชื่อเป็นสนมฮ่องเต้องค์ใหม่เเล้ว
"เปาเอ๋อร์ แม่ไม่สามารถช่วยลูกได้เลย"
ลู่เมียนเปามิอาจหลีกเลี่ยงชะตากรรมนี้ได้จริง ๆ ใช่รึไม่
นางทำหน้ามิพอใจ มารดาเห็นบุตรสาวอารมณ์มิดีจึงกลับเรือนใหญ่ รอให้บุตรสาวของนางอารมณ์ดีกว่านี้ ถึงจะพูดเรื่องการเป็นนางสนม
ลู่เมียนเปาจิบน้ำชาคิ้วทั้งสองข้างผูกเป็นปม นางมาจากอีกโลก ต้องมาเป็นนางสนม อยากจะบ้าตายเสียเหลือเกิน เหตุใดสวรรค์จึงต้องใจร้ายกับนางด้วยเล่า
ลู่เมียนเปาคนเก่าก็ตายไปแล้ว ส่วนนางคนใหม่ต้องมารับเคราะห์แทน
ไม่รู้ว่าวังหลวงจะเป็นเช่นไรในภายภาคหน้า เสี่ยวชุยได้แต่สงสารคุณหนู ที่มิอาจครองคู่กับแม่ทัพเสิ่นหยางได้
"คุณหนู"
"เจ้าออกไปเถอะ ข้าจะนอนคนเดียว" ค่ำคืนนั้นลู่เมียนเปาหาทางที่จะไม่เข้าวังหลวง
หรือว่า นางจะต้องหนี ใช่ ทางเดียวที่จะรอดจากการที่มิได้เป็นนางสนม คือการหนีออกจากจวนเเห่งนี้
ยามเช้าของวันถัดมาอากาศแจ่มใส่ยิ่งนักไร้เเสงสุริยัน เพราะมีเมฆหมอกบังบดไว้
ลู่เมียนเปารับสำรับอาหารเช้าคือข้าวต้มปลาที่แสนจะอร่อย คืนนี้คือคืนที่นางจะหนี เพราะหลังจากที่นางไล่เสี่ยวชุยกลับไปแล้ว นางแอบไปสำรวจจวนลู่คนเดียวพบว่าหลังจวนมีช่องลอดเล็ก ๆ น่าจะเป็นช่องหมาเสียมากกว่า
"คุณหนูอารมณ์ดีจริงนะ เจ้าคะเช้านี้" เสี่ยวชุยช่างสังเกตเจ้านาย
เมื่อคืนใบหน้าเจ้านายเศร้าราวกับคนไม่มีความสุข
"เจ้าอย่าได้พูดมากเลย ไปยกอาหารว่างผลไม้มาให้ข้า"
คล้อยหลังเสี่ยวชุย สาวใช้จากเรือนใหญ่ก็พลันย่างกรายเข้ามารายงานว่า คนจากวังหลวงมาสอนมารยาทให้นาง อย่าบอกนะตาแก่ลู่ไปสรรหานางข้าหลวงมาสอนมารยาทให้นาง
ลู่เมียนเปารีบย่างกรายมาที่เรือนใหญ่ พบว่ามีหวังมามา อดีตนางข้าหลวงข้างกาย มาสอนมารยาทให้นางเองกับมือ
หวังมามามองคุณหนูลู่อย่างเอ็นดู นายท่านลู่กับลู่ฮูหยินได้ฝากฝังให้หวังมามาสอนมารยาทบุตรสาว
ลู่เมียนเปาคิดว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายเเละวันเดียวเท่านั้น ที่นางจะเรียนมารยาท