บทที่ 5
ความแปลกสถานที่ และเกือบจะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้นอนที่นอนสบาย นุ่มแบบนี้ มันสบายเกินไป ขยับตัวอย่างไรก็ไม่ค่อยถนัด ได้แต่นอนพลิกไปพลิกมา คิดนั่นคิดนี่จนดึกดื่น แถมด้วยร้องไห้คิดถึงตาบุญของเธอ น้อยจึงกว่าจะหลับตาลงได้ก็เกือบจะตีหนึ่ง ทำให้สาวน้อยตื่นสาย เมื่อลืมตาตื่นและนึกขึ้นได้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน จึงรีบลุกขึ้นแล้วอาบน้ำชำระล้างร่างกาย กุลีกุจอลงมาด้านล่าง ตาบอกว่าให้ขยัน...ทำงานให้หมอรัญชน์ แต่เธอกลับมัวนอนสบายจนตื่นสายเสียแต่วันแรก
เมื่อลงมาแล้วก็ไม่เจอใครเลยสักคน เธอเดินหาเขาไปทั่วบ้าน ไม่กล้าแม้แต่จะตะโกนเรียกชื่อเขา นี่เพิ่งจะหกโมงเช้า หมอรัญชน์ไปไหนกันนะ เธอเดินไปจนถึงในครัว สายตาสะดุดที่ตู้เย็นขนาดใหญ่ มีกระดานโน้ตแปะไว้ตรงประตูตู้เย็น มีตัวหมีแม่เหล็กติดไว้
น้อย...
วันนี้ฉันคงจะกลับบ้านประมาณสามโมงเย็น ฉันซื้อโจ๊กไว้ให้อยู่ในฝาชี อาหารกลางวันน้อยทำตามสะดวกเลย ตู้เย็นพอจะมีของสด
นี่คือข้อความที่เขาทิ้งไว้ให้ น้อยเดินไปที่โต๊ะที่มีฝาชีสีสดใสครอบถุงพลาสติกใส่โจ๊กไว้ มีปาท่องโก๋ และน้ำเต้าหู้อยู่ด้วย
เห็นอาหารก็ท้องร้องเบาๆ น้อยย่นจมูกน้อยๆ แล้วลูบท้องที่แฟบของตน เมื่อวานเย็นเธอกินอะไรไม่ค่อยลง เพราะมัวแต่เศร้าเสียใจเรื่องต้องจากกับตาบุญ
งานยังไม่ทันทำเลยนะน้อย กินเสียแล้ว
สาวน้อยบ่นกับตนเองเบาๆ แต่ก็เทโจ๊กใส่ชามพลางตักกินอย่างอร่อย เธอตั้งใจจะเก็บปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้ไว้กินมื้อเที่ยง เพราะคงไม่กล้าเอาของสดมาทำรับประทานอย่างที่เขาบอกแน่ๆ
อิ่มแล้วก็เริ่มหันซ้ายหันขวา
อยู่บ้านท่านก็อย่าให้นิ่งดูดาย
เธอมาที่นี่เพื่อมาทำงาน หยิบจับอะไรได้ น้อยก็จะทำ
น้อยจึงตกลงใจเริ่มงานแรกของเธอด้วยการทำความสะอาดบ้านให้กับเขา สาวน้อยเดินหาอุปกรณ์ทำความสะอาดมันถูกเก็บไว้ในห้องเก็บของใต้บันใด ทุกชิ้นยังอยู่ในถุงพลาสติกมีฝุ่นจับ เหมือนไม่เคยถูกแกะออกมาใช้งาน ทั้งไม้กวาดไม้ม็อบถูกพื้น น้ำยาทำความสะอาดต่างๆ น้อยจึงค่อยแกะออกมา แล้วเริ่มทำงานของตนไปเรื่อยๆ
บ้านที่ได้รับการกวาดถูอาทิตย์ล่ะหน สภาพฝุ่นและความสกปรกถือว่าไม่นักหนามากนัก เพราะหมอรัญชน์ใช้เป็นแค่ที่พักกับที่นอน เขามักจะออกมาหาอะไรกินนอกบ้าน เพราะขี้เกียจเก็บล้างทำความสะอาด ติดของสดไว้ในตู้บ้างอย่างไข่กับเครื่องกระป๋อง บะหมี่สำเร็จรูป เผื่อทำอะไรง่ายๆ เวลาที่เกิดร้านแถวบ้านปิด หรือกลับมาจากเวรดึกแล้วหิว
น้อยเริ่มที่บริเวณห้องรับแขกก่อน ถึงจะตัวเล็กแต่ก็ทำไปเรื่อยๆ ไม่หยุดเหมือนมดงาน น้อยตั้งใจขัดถูทำความสะอาด จัดเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบ ตั้งอกตั้งใจกับงานของตน จนเวลาล่วงไปเกือบบ่าย เธอก็ทำงานเสร็จไปแล้วสองห้อง ทั้งปัดกวาดเช็ดถู เก็บข้าวของ และปลดผ้าม่านลงมาซักเพราะเห็นว่ามันมีฝุ่นเกาะ
น้อยกินน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋เป็นอาหารกลางวัน แล้วก็เริ่มงานของตนต่อที่ห้องครัวที่ต้องออกแรงมากหน่อย เพราะอุปกรณ์ครัวบางอย่างฝุ่นจับหนา เธอต้องเอามขัดล้างใหม่ทั้งหมด ทำงานไปก็ฮัมเพลงไปด้วยอย่างเพลินๆ
มือน้อยนั้นทำงานไม่หยุด ออกแรงจนหน้าแดงก่ำ เหงื่อชื้นตามร่างกาย เสื้อผ้าของน้อยเปียกโชกเพราะลุยซักผ้าม่านและมาขัดพื้นห้องครัวต่อ เธอตั้งหน้าตั้งตาขัดให้มันขาวสะอาดเงาวับเลยทีเดียว
แม่นกกระจิบตัวน้อย ที่ได้รังใหม่คุ้มหัว กำลังทำงานแลกกับข้าว แลกกับน้ำ อย่างตั้งใจ ให้สมกับคำสั่งสอนของตาบุญที่นำเธอมาฝากฝังไว้กับเขา
.......................................................................................................................
"เลิกพร้อมกันวันนี้ ไปก๊งกันหน่อยไหมหมอรัญชน์ วันเกิดป้าสุด"
เสียงเพื่อนหมอด้วยกันทัก เมื่อเขาถอดเสื้อกาว์นออก หลังจากเลิกงานแล้ว ถ้าเป็นวันอื่น เขาอาจจะตอบรับไป แต่วันนี้เขามีคนรออยู่ที่บ้าน ไม่รู้ว่าป่านนี้จะหาข้าวหาปลากินหรือยัง แล้วก็กำลังทำอะไรอยู่นะ เขาคิดอยู่ว่าจะให้น้อยทำงานอะไรให้เขาบ้าง คงจะให้ทำงานเล็กๆ น้อยๆ นั่นแหละ ตัวเล็กผอมแบบนั้น เขาคงไม่กล้าใช้งานหนัก แล้วก็จะดูว่าน้อยจะทำอะไรได้บ้าง วันนี้คงจะได้คุยกัน เมื่อเช้าเขาก็ออกมาแต่เช้าซื้อของกินให้เธอแล้วก็ออกมา
"งานหน้าดีกว่า วันนี้ไม่ว่าง"
เขาปฏิเสธ แล้วโบกมือให้กับเพื่อนหมอ ที่ยังตื้ออีกสองสามคำ เมื่อเห็นว่าหมอรัญชน์ไม่ไปจริงๆ ก็ยอมจากไป
ชายหนุ่มขี่รถออกจากโรงพยาบาล เขาใช้มอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะ เพราะมันสะดวกและคล่องตัวถ้าเข้าเวรเช้า ยกเว้นถ้าฝนตกหรือมาเข้าเวรฉุกเฉิน ก็จะใช้รถยนต์ เขาแวะที่ตลาดเพื่อหากับข้าวถุงซื้อกลับบ้าน ถ้าเป็นปรกติออกเวรไว เขาก็จะตรงกลับบ้านไปนอน ดึกๆ เย็นๆ ค่อยออกมาหาอะไรรับประทาน แต่ตอนนี้ตารางชีวิตของเขามันกำลังเริ่มเปลี่ยนไป เพราะมีคนคอยที่บ้าน
อืม...
หมอหนุ่มย่นจมูกน้อยๆ แล้วยิ้มเมื่อนึกถึงเด็กสาวตัวผอม ตอนนี้ชีวิตเขาก็มี 'อะไร' ให้คิดถึงมากขึ้นนอกจากงาน ก็คือหล่อนสินะ
เขาเลือกกับข้าวสามชนิด เอาแบบที่เด็กคงจะกินได้...เด็ก...เอ...หล่อนก็ไม่เด็กแล้ว อายุสิบหกจะสิบเจ็ดล่ะแล้วตามคำบอกของตาบุญ แต่ก็ตัวเล็กแกร็นมาก หล่อนน่าจะสูงแค่ร้อยห้าสิบนิดๆ กระมัง ถึงได้ตัวอยู่แค่ระดับอกเขา เขาถึงมองหล่อนเป็นเด็กน้อย เด็กน้อยที่น่าสงสาร
เด็กที่กลายเป็นที่หมายปองอันแสนอันตราย
คิดแล้วก็ถอนใจ ตัณหา...บางทีก็ไม่เข้าใครออกใคร แถมเข้าไปแล้ว ก็บงการสมองและความคิด จนทำให้คิดร้ายคิดเอาเปรียบคนไปได้ถึงขนาดนั้น เพื่อตัวเอง...
ตัณหาทำให้คนลืมศีลธรรมจรรยา ทำให้ทุกอย่างเพื่อความสุขของตนเอง
คิดแล้วเขาก็สั่นหน้าน้อยๆ นึกถึงหน้ากำนันปรุงได้แบบเลือนๆ จำได้ว่าเคยคุยด้วยแค่สองสามหน หมู่บ้านของน้อยค่อนข้างไกลจากที่พักของเขา หวังว่ากำนันนั่นคงจะไม่มายุ่งเกี่ยวแล้ว ถ้าเกิดว่าน้อยย้ายออกไปเสีย
เขาภาวนาให้เป็นเช่นนั้น เมื่อนึกถึงสภาพเด็กสาวผอมแห้ง ตาโตแป๋วคนนั้น ก็หวังใจให้กำนันปรุงไม่ได้ติดใจอะไรกับหล่อนนัก จนหาที่หมายใหม่ และลืมหล่อนไปเสีย ตาบุญและเด็กสาวจะได้ไม่เดือดร้อนอีก
หมอหนุ่มคิดขณะที่ขี่รถกลับไปที่บ้านพักแพทย์