บท
ตั้งค่า

14. คู่หมายท่านแม่ทัพ

“อื้อ!..เจ็บนะเจ้าคะ แกล้งอยู่ได้” บ่นให้เขาไม่จริงจัง ก่อนจะเดินถือเจ้าตัวน้อยไปให้ผู้ติดตามของคนพี่ดู รวมถึงมู่ชิงสาวใช้คนสนิทที่ตามมาคอยดูแลด้วยเช่นกัน ยามนี้จึงเกิดกลุ่มคนมุงขนาดย่อม

“อย่างไรเสีย เจ้าก็ยังดูมิต่างจากแต่ก่อนอยู่ดีนะจางจื่อ” เอ่ยแล้วก็หันไปหาคนของตน ซึ่งแบกไม้ไผ่มาให้ตามที่เขาสั่ง ไป่เหอจึงลงมือทำกรงให้คนน้องใส่กระรอก มีผู้ติดตามคอยช่วยเหลาไม้ไผ่ให้เพื่อจะได้เสร็จเร็วขึ้น

ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม กรงไม่ไผ่พอหิ้วได้ก็เสร็จเรียบร้อย จางจื่อยิ้มดีใจจนตาหยี ก่อนจะรีบหาเศษผ้ามารองให้เจ้ากระรอกน้อยทั้งสองตัว ทว่ามิลืมหันมาขอบคุณทุกคน โดยเฉพาะแม่ทัพหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างกัน

“ขอบคุณพี่ไป่เหอนะเจ้าคะ” เอ่ยบอกเขา ดวงตาสวยเปล่งประกายจนคนพี่ยิ้มตาม ความสดใสของจางจื่อมันทำเอาแม่ทัพหนุ่มเริ่มรู้ตัวแล้วว่ามิได้คิดกับนางเช่นแต่ก่อน ทว่าเขาจะมีสิทธิ์หรือไม่ก็ยังมิรู้ได้

“อืม เจ้ามีความสุขพี่ก็ดีใจแล้ว” ตอบไปอย่างที่คิด “พี่ไปอาบน้ำก่อน เจ้าก็อย่ามัวแต่เล่นกับกระรอกเพลิน ค่ำมาจะหนาวนะรีบอาบเสีย อาหารคงสุกพอดีกับที่ฝ่าบาทเสด็จมา อย่าให้ผู้ใหญ่ต้องรอนานเข้าใจหรือไม่”

บอกพร้อมกับทำหน้าดุ แต่คนน้องไหนเลยจะกลัว ทว่าจางจื่อก็รับคำเขาแล้วหิ้วตะกร้าไม้ไผ่กลับเข้าห้องพัก มีมู่ชิงเดินตามไปมิห่าง ไป่เหอยกยิ้มมองคนน้อง

“บทจะง่ายก็ง่ายขึ้นมาเชียว ปากก็บอกว่าตนนั้นโตแล้ว” เอ่ยแค่นั้นเขาก็เดินไปยังห้องพักซึ่งอยู่คนละฝั่ง จนกระทั่งผ่านไปหนึ่งเค่อก็ออกมาด้วยอาภรณ์ชุดใหม่

“ท่านแม่ทัพ เอ่อ..คือ” กวนหย่งอึกอักที่จะพูด แต่ผู้เป็นนายก็เห็นแล้วว่ามีคนมาที่นี่ และมิใช่ฮ่องเต้

“ใคร!” ถามสั้นๆ ด้วยเสียงกดต่ำ

“คุณหนูเกาจินจูขอรับ มากับใต้เท้าเกาผู้พี่” ยังมิทันได้เอ่ยสิ่งใดต่อ คนที่ผู้ติดตามเอ่ยถึงก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าพอดี แล้วเสียงหวานใสดังขึ้นทักทาย

“คำนับท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ” เกาจินจูย่อตัวลงด้วยท่าทางอ่อนน้อม ซึ่งไป่เหอก็พยักหน้ารับ

“นั่นคุณหนูเกานี่เจ้าคะ ท่านแม่ทัพคงมิได้นัดให้มาด้วยกระมัง ร้ายมิเบาเลยนะเจ้าคะ ไหนบอกว่าจะไม่แต่งกับนางอย่างไรล่ะ” มู่ชิงเอ่ยอย่างที่คิด ซึ่งมันก็ไม่ได้ต่างจากจางจื่อนัก นางจึงเดินเลี่ยงไปนั่งที่ท่าน้ำ เพราะรู้สึกใจหวิวๆ อย่างไรบอกมิถูกในยามนี้

หลังจากน้องสาวเอ่ยจบ เกาฟางก็กล่าวมิต่างกัน “คำนับแม่ทัพหลินขอรับ” คำทักทายของสองพี่น้องดูมีมารยาทยิ่งนัก ไป่เหอเองก็พยักหน้ารับตามมารยาทเช่นกัน ก่อนที่เขาจะมองตามสายตาของเกาฟาง ถึงได้รู้ว่าจางจื่อนั้นออกมาจากเรือนแล้ว และนางกำลังนั่งอยู่ริมน้ำซึ่งเป็นสถานที่จัดเลี้ยงสำหรับพวกเขาคืนนี้

“โอ้ว! มีงานเลี้ยงหรือขอรับ เช่นนั้นขอข้าน้อยกับน้องสาวอยู่ด้วยได้หรือไม่ อย่างน้อยเราจะได้ทำความรู้จักคุ้นเคยกัน อีกมินานเราก็จะเกี่ยวดองกันแล้ว”

“ที่นี่มิได้มีแค่ข้า อีกอย่างน้องเจ้าเป็นสาวเป็นนาง ที่นี่มีแต่บุรุษมิเหมาะที่อิสตรีจะมาอยู่ดื่มกินด้วย” บอกออกไปตามความเหมาะสม โดยลืมไปว่าในเรือนนี้ก็มีสตรีอยู่ด้วยเช่นกัน แต่ก็อย่างว่าจางจื่อคือข้อยกเว้นทุกอย่าง

จินจูถึงกับหน้าเสียเมื่อได้ยินแม่ทัพหนุ่มเอ่ยเช่นนี้ ทว่าเกาฟางก็หาทางออกให้กับน้องสาวได้

“แต่ข้าน้อยเห็นว่าคุณหนูหยวนก็อยู่ที่นี่นะขอรับ ไยมิให้จินจูอยู่เป็นเพื่อนนางเสียเลย ทั้งคู่รุ่นราวคราวเดียวกัน จะได้มิน่ารังเกียจจนเกินไปหากมีแค่คุณหนูสกุลหยวนลำพัง เพราะถึงอย่างไรท่านแม่ทัพก็เป็นบุรุษที่ยังมิทันแต่งงาน” ถ้อยคำกึ่งตำหนิเปล่งออกมา ไป่เหอหรี่ตามองอีกฝ่าย ก่อนจะชักสีหน้าเป็นปกติ แล้วตอบกลับไป

“เช่นนั้นก็แล้วแต่เถอะ ข้าเตือนพวกเจ้าแล้ว” บอกแค่นั้นเขาก็เดินหนีออกจากตรงนี้ เพื่อไปหาคนตัวเล็กซึ่งนั่งมองออกไปยังทะเลสาบเบื้องหน้า ด้วยอาการเหม่อลอยเล็กน้อย สายตาก็ยังทอดยาวไปสุดคุ้งน้ำ

แสงจากอาทิตย์อัสดงกำลังลาลับขอบฟ้า สะท้อนกับผืนน้ำส่องประกายระยิบระยับ ช่างดูงดงามและเศร้าหม่นไปในตัว ทว่าในใจจางจื่อยามนี้กลับรู้สึกว้าวุ่นแปลกๆ ตั้งแต่เห็นคู่หมายของแม่ทัพหลิน นางมิกล้าหันไปมองด้วยซ้ำว่าเขาทำหน้าเช่นไรยามได้เจอกับคุณหนูเกา

“นั่งเหม่อเชียวคิดเรื่องใดอยู่หรือ” เสียงทุ้มดังขึ้น ใบหน้างามหันกลับมาหาต้นเสียง ก่อนจะมองเลยผ่านไปยังร่างของสตรีอีกคนที่กำลังเดินตามเขามา

“เปล่าเจ้าค่ะ กำลังรอพี่จูโม่เอานมมาให้” ตอบเลี่ยงไปเช่นนั้นเอง จะบอกได้เช่นไรว่านางคิดเรื่องเขากลับสตรีอื่น

“คงมาพร้อมฝ่าบาทกระมัง อีกประเดี๋ยวก็คงถึง” ว่าพร้อมกับนั่งลงบนพื้นล่างข้างตั่งของจางจื่อ ใช้แขนวางแนบชิดติดกับขาของนางจนคนน้องส่งสายตาตำหนิ เกรงว่าคนข้างหลังจะเข้าใจผิดเอาได้ ทว่าแม่ทัพหนุ่มกลับยิ้มส่งให้ ซ้ำยังชี้ไปที่ดวงอาทิตย์ซึ่งกำลังคล้อยต่ำลงทุกที ราวกับเป็นคู่รักกันนั่งชมตะวันตกดินเสียอย่างนั้น

“ดีจริง ได้ดูพระอาทิตย์ตกกับเจ้าด้วย” น้ำเสียงนี้อ่อนโยนเป็นอย่างมาก จางจื่อมองใบหน้าคมคายของพี่ชายต่างสายเลือดเล็กน้อย

ก่อนจะมองตามนิ้วเรียวของคนพี่ ซึ่งแสงสีแดงส้มกำลังจะลับทิวเขาไป มันสวยมากและดึงดูดได้ดีทีเดียว นานแล้วที่มิได้เห็นภาพเช่นนี้ ถูกขังให้อยู่แต่ในจวนจนมิได้ออกมาเห็นธรรมชาติอันงดงาม จางจื่อเผยยิ้มบางๆ เมื่อหันกลับมาเห็นแม่ทัพหนุ่มเอาแต่จ้องภาพเบื้องหน้า มิคิดว่าคนพี่จะมีอารมย์สุนทรีกับเขาด้วย 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel