ตอนที่1.วันที่ฉันย้ายบ้าน....
“เปิดกูเกิ้ลแมปไงยัยเด็กโง่ ปักหมุดไว้ ทำไมพวกเขาจะมาไม่ถูก” พี่ชายฉันเป็นคนตอบ ทันทีที่รถจอด พี่ชายของฉันก็ทำท่าจะลงจากรถยนต์
“เมฆ คราวหลังอย่าว่าน้องแบบนี้อีกนะ” แม่ฉันปรามเสียงแข็ง
ฉันอมยิ้ม เบ้ปากให้ แล้วก็เปิดประตูด้านข้าง วิ่งตามบิดาที่เดินนำหน้าไป ไม่วายหันมาแลบลิ้นให้พี่ชายที่เดินหน้ายับตามมาด้านหลัง
“แม่ ยัยเด็กนั่นแลบลิ้นให้ผม” เสียงพี่ชายตะโกนลั่น ชี้มือมาที่ฉัน ฉันยกมือปิดปากและหัวเราะคิกคัก แล้วก็วิ่งตามพ่อไปติดๆ
“รสา อย่าวิ่งลูกเดี๋ยวเหนื่อย” เสียงแม่ตะโกนห้าม
ฉันขมวดคิ้ว อากาศที่นี่ดีเกินคาด ฉันไม่ได้รู้สึกอึดอัดเหมือนตอนที่อยู่ที่บ้านเก่า ฉันหยุดวิ่งกางมือออก สูดอากาศเข้าปอดเต็มแรงแล้วก็หัวเราะ แม่ที่เดินมาถึงฉันมองหน้าฉัน ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล ฉันลืมตา เงยหน้ามองสบตาแม่
“แม่ขา นี่เป็นครั้งแรกที่รสาหายใจได้เต็มอิ่มเลยค่ะ”
แม่ฉันยกมือปิดปาก น้ำตาไหลเอ่อ หลังจากนั้นก็ถามฉันพร้อมกับยิ้มที่ค่อยคลี่ขยาย “ใช่มั้ย ดีใช่มั้ย?”
ฉันฉีกยิ้ม กึ่งเดินกึ่งวิ่ง ไม่มีเสียงห้ามของมารดาดังขึ้นอีก ยกเว้น…
“ระวังขี้หมานะ ฉันเห็นขี้หมาเต็มทางเดินไปหมดเลย” ฉันชะงัก ก้มมองพื้นแล้วเสียงหัวเราะด้านหลังก็ทำให้ฉันรู้ ‘ฉันถูกหลอก’
ตอนที่ 2.บ้านใหม่กับเพื่อนบ้านใหม่ๆ
ฉันชอบบ้านหลังนี้ บ้านที่มีพื้นที่กว้างๆ มีพื้นที่ให้ฉันมากพอที่จะเดินเล่นได้ ไม่ต้องทนอุดอู้อยู่แค่ในห้องนอนแคบๆ ฉันเลือกห้องนอนด้านหน้า ด้านที่แสงแดดยามเช้าส่องผ่านม่านหน้าต่าง ฉันชอบนั่งมองพระอาทิตย์ขึ้น ชอบมองพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งหากฉันอยากนั่งสบายๆ มองพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขา ฉันต้องไปนั่งมองที่ระเบียงห้องของพี่ชาย แต่หากพี่ชายอยู่ เลิกฝันถึงเรื่องนั้นได้เลย เพราะประตูห้องของพี่ชายมักจะปิดสนิท และล็อกเพื่อไม่ให้คนนอกเข้าไปได้
แต่นั่นเกิดขึ้นไม่บ่อยหรอก
เพราะพี่ชายของฉันวิ่งวุ่นเกี่ยวกับเรื่องเรียนที่ฉันยังไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ ฉันเพิ่งอยู่ชั้นมัธยมต้นนี่นะ การเปลี่ยนที่เรียนไม่ทำให้ฉันทุกข์ร้อนอะไรเลย แถมโรงเรียนใหม่ก็อยู่ใกล้บ้าน ฉันไม่ต้องนั่งรถนานๆ เหมือนที่เก่า
พ่อกับแม่เองก็ค่อนข้างยุ่ง มีฉันคนเดียวที่ใช้ชีวิตเหมือนเดิม
แม่เปิดร้ายขายอาหารเหมือนที่บ้านเก่า แต่ครั้งนี้แม่ไม่ต้องตื่นแต่เช้ามืด หรือนอนดึกเหมือนเก่า เพราะร้านอาหารที่แม่เปิดตั้งอยู่หน้าบ้านฉันนั่นเอง ตอนเปิดแรกๆ ไม่ค่อยมีลูกค้ามากนัก คงเพราะอยู่ห่างจากตลาด พออยู่ไปสักพัก รสชาติและราคากลับเป็นตัวดึงดูดลูกค้าให้กลับมาอุดหนุนเพิ่มนั่นเอง
ฉันแวะไปช่วยแม่บ่อยๆ ส่วนคำสัญญาที่พ่อเคยบอก ฉันเลิกใส่ใจนานแล้ว พ่อที่เป็นหัวแรงหลักจะมีเวลามาปลีกตัวสอนฉันปั่นจักรยานได้ยังไง พ่ออยู่หน้าเตา สาละวนอยู่แบบนั้นจนหมดวัน ท่าทางเหน็ดเหนื่อยของพ่อทำให้ฉันไม่อยากพูดมาก ฉันกะจะลงทุนขอร้องพี่ชาย แต่สีหน้าอิดโรย กับกองตำราที่กองท่วมศีรษะพี่ชายบนโต๊ะที่ฉันมักจะเห็นพี่ชายนั่งอยู่ตรงนั้นประจำ ก็ทำให้ฉันเลิกคิดเรื่องของตัวเองไปเลย
แต่ฉันก็ไม่ได้หยุดคิดที่จะหัดปั่นจักรยานหรอกนะ
ฉันนั่งจ้องจักรยานคันใหม่ที่จอดไว้เฉยๆ ได้ครั้งละเป็นชั่วโมง
วันหนึ่ง...หลังกลับจากโรงเรียน ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้า และตัดสินใจเป็นมั่นเป็นเหมาะ มันไม่น่ายาก กับการลองหัดปั่นจักรยาน ในเมื่อฉันสูงพอที่จะนั่งบนอานจักรยานโดยที่ขาฉันยันถึงพื้นแล้ว
“แม่ขา รสาเล่นอยู่หลังบ้านนะคะ” หลังบ้านเป็นลานกว้าง ไม่มีหญ้ารก เพราะพ่อฉันสั่งกรวดเม็ดเล็กๆ มาโรยไว้เต็มพื้นที่เพื่อป้องกันไม่ให้หญ้าขึ้น แถมดูแลสะดวกด้วย
ฉันตะโกนบอกแม่แล้วก็วิ่งตื๊อไปทางทิศนั่นเลย แม่ชะเง้อมองไม่ได้ว่าอะไร
ฉันเดินอ้อมมา หลังปล่อยเวลาให้ผ่านไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง
แล้วก็จัดการจูงจักรยานออกไปอย่างทุลักทุเล ฉันพยายามทรงตัวและออกแรงปั่น เหมือนเหตุการณ์ไม่เป็นใจ ฉันทรงตัวไม่ได้ รถจักรยานล้มลงบนพื้นหลายครั้ง แต่นั่นไม่ทำให้ฉันถอดใจ ฉันยังคงพยายาม ฉันล้มแล้วลุก ซ้ำไปซ้ำมา แต่ก็ไม่ได้ทำให้ฉันสามารถประคองตัวนั่งบนอาน และปั่นจักรยานออกไปจากจุดที่ฉันพยายามอยู่ได้เลยสักครั้ง