บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2.บ้านใหม่กับเพื่อนบ้านใหม่ๆ

ครั้งสุดท้ายที่รถจักรยานล้ม

ฉันนอนแผ่ น้ำตาไหลเป็นทางกับความไม่เอาไหนของตัวเอง ฉันยกมือปิดหน้า ร้องไห้จนหัวไหล่สั่น ฉันไม่ได้ป่วยเหมือนเมื่อก่อน แต่ฉันก็ยังเป็นคนเดิมที่อ่อนแอและไม่เอาไหน

“มีอะไรให้พี่ช่วยไหมคะ?” เสียงแหบห้าวไม่คุ้นหู

ฉันปรือตามองผ่านแสงแดดสีส้มที่ทอดแสงพาดผ่านหน้าตัวเอง คิ้วฉันขมวดมารวมกันอยู่ที่กลางหน้าผาก ฉันมองปอยผมที่ตกลงมาเกือบถึงจมูกของคนแปลกหน้าที่จู่ๆ ก็โผล่พรวดเข้ามาในอาณาเขตบ้านของฉัน

“โทษที พอดีบ้านพี่อยู่ตรงนั้นน่ะ มองเธอมาพักใหญ่แล้ว เลยอยากจะช่วย” ปลายนิ้วชี้เรียวสวย สวยเท่าที่เคยเห็นบนมือของผู้ชาย ฉันทรงตัวนั่ง กะพริบเปลือกตาปริบๆ พยายามก้มมองที่พื้นเพราะเริ่มรู้สึกอาย

ฉันคงน่าสมเพชในสายตาของเขามากสินะ เขาเลยทนไม่ไหวลงทุนลอดรั้วเข้ามาในอาณาเขตบ้านของฉัน

“ไม่เป็นไรค่ะ” ฉันพึมพำตอบ

“ดูเหมือนว่า พี่กับพี่ชายของเธอจะเป็นเพื่อนเรียนห้องเดียวกันนะ” เสียงพี่ชายแปลกหน้าพึมพำ ฉันแหงนมองเขาคอตั้งบ่า

“คะ”

“เห้!! ลุค นายมาทำอะไรที่นี่” เสียงพี่ชายฉันตะโกน แล้วเสียงฝีเท้าก็ตามมาติดๆ ฉันมองพี่ชายของฉันสลับกับชายแปลกหน้าที่ดูดีจนเกือบลืมหายใจ ใจฉันเต้นตึกๆ ฉันก้มมองนิ้วมือตัวเองเหมือนไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้ทำ

“ยัยเด็กโข่ง แค่ปั่นจักรยานยังทำไม่ได้อีกเหรอ?” เมฆาเดินมาหยุดใกล้น้องสาวแล้วก็อดกระเซ้าไม่ได้

ฉันเบะปากทำท่าจะร้องไห้ แต่เสียงทุ้มนุ่มของคนแปลกหน้าทำให้ต่อมน้ำตาของฉันหยุดไหลแบบอัตโนมัติ “อย่าปากเสียสิเมฆ น้องใจเสียแล้วนะ นายไปซ้ำเติมแบบนั้น น้องจะกล้าลุกขึ้นมาปั่นจักรยานได้ยังไง”

ฉันทรงตัวยืน มีพี่ชายแปลกหน้าช่วยพยุง ฉันหันไปแยกเขี้ยวให้พี่ชาย “ถ้ารสาปั่นจักรยานได้ พี่เมฆต้องเลี้ยงไอติมรสาด้วยนะคะ”

“ใช่เรื่องไหม ตัวอยากเจ็บตัวมากกว่านี้ก็เชิญเถอะ”

นอกจากไม่ให้กำลังใจ พี่ชายของฉันยังจ้องจะสมน้ำหน้าซ้ำอีก

“ให้พี่ช่วยไหมคะ?” ฉันเงยหน้ายิ้มประจบให้เพื่อนของพี่ชาย

“ค่ะ”

มีเสียงกระแอมเบาๆ กับมุมปากของพี่ชายที่คว่ำลง

“นายมาหาฉันไม่ใช่หรือไง?” เมฆาถามเพื่อนใหม่ที่เรียนที่โรงเรียนเดียวกัน แถมผลการเรียนของเขาอยู่ในระดับหัวกะทิเสียด้วย ทั้งรูปหล่อ ทั้งนิสัยดี แถมบ้านค่อนข้างมีฐานะ เป็นผู้ชายที่สาวทั้งโรงเรียนตามกรี๊ด

“เปล่า” ลุคตอบหน้าตาย “ฉันมาหาน้องสาวคนนั้น”

เมฆากลอกตามองบน แม้แต่ลุคที่เป็นคนไม่สนโลกก็ยังถูกยายเด็กหน้าตาใสซื่อนี่ตกเอาจนได้

“นายเป็นพี่ชายประสาอะไรวะเมฆ น้องสาวอยากปั่นจักรยานทำไมไม่สอนหะ” ลุคปรายตามองเพื่อนแล้วก็บ่นหน้าตาย

เมฆากลอกตามองบนรอบที่สอง “ฉันอ่านหนังสืออยู่โว้ย!!” แล้วก็ตอบเสียงแข็ง

“นายอ่านรอบที่เท่าไหร่แล้ว กลัวสอบไม่ติดหรือไงวะ?”

เมฆาพ่นลมหายใจแรงๆ จ้องหน้าน้องสาวที่มองเพื่อนสนิทตนเองตาปรอย “อย่างฉันถ้าสอบไม่ติด ยัยเด็กโง่นี่คงหาที่เรียนไม่ได้”

ฉันเงยหน้าส่งยิ้มแหยๆ ให้ทั้งสองคน ฉันหัวสมองทึบ ฉันเลยเถียงไม่ออก การจดจำตำราเรียนหรือการอ่านหนังสือเพื่อทบทวนวิชาที่เรียนมาเป็นเรื่องอยากสำหรับคนที่สอบได้อันดับเกือบท้ายสุดของห้องแบบฉัน ในขณะที่พี่ชายสอบติดท็อปไฟว์เสมอ

“ถ้ามั่นใจขนาดนั้น จะอ่านไปทำไมให้เสียเวลา มาผ่อนคลายดีกว่า ปะ น้องสาวเดี๋ยวพี่ลุคคนนี้จะสอนเราปั่นจักรยานคันนี้ให้ก็ได้ค่ะ” ฉันมองตาค้าง รอยยิ้มสว่างสดใสนั่นทำเอาฉันพูดอะไรไม่ถูก หัวใจในช่องอกเต้นกระหน่ำจนกลัวคนใกล้ๆ ได้ยิน

พี่ชายเดินมาช่วยรั้งให้ฉันลุกขึ้นยืน ฉันยื่นมือให้และลุกขึ้นยืนตามแรงรั้ง

“คราวนี้ลองขึ้นไปนั่งบนอานนะ เดี๋ยวพี่จะช่วยจับให้ ไม่มีทางล้มอีกแน่นอนค่ะ”

คงเป็นเพราะฉันรู้สึกไว้ใจพี่ชายคนนี้ ความกล้าๆ กลัวๆ ก่อนหน้านี้หดหายไปทั้งหมด ฉันเขย่งปลายเท้าตวัดขาคร่อมรถจักรยานไว้ และพยายามนั่งบนอานจักรยานทรงตัวให้นิ่งที่สุด ฉันรู้สึกถึงความมั่นคงตอนที่หย่อนก้นนั่งบนอานจักรยานคันนั้น พี่ชายจับช่วงท้ายจักรยานและช่วยฉันประคองไว้จริงๆ

“ทีนี้ลองปั่นจักรยานไปข้างหน้าช้าๆ สิคะ”

ฉันได้ยินเสียงกระแทกลมหายใจแรงๆ จากพี่ชายของฉัน เลยหันไปเบ้ปากให้ แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาออกแรงปั่นจักรยาน สายลมเย็นๆ พัดโชยปะทะใบหน้า จักรยานวิ่งฉิ่วไปข้างหน้า และฉันรู้สึกถึงความสำเร็จ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel