บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2.บ้านใหม่กับเพื่อนบ้านใหม่ๆ..

“รสาทำได้แล้วค่ะ” ฉันคุยฟุ้ง ลงทุนออกแรงเพิ่มอีกหน่อย รถจักรยานที่ฉันปั่นวิ่งตรงไปข้างหน้าและมีเสียงกระซิบให้กำลังใจดังอยู่ข้างหลัง

ฉันเอะใจหน่อยๆ เสียงที่ได้ยินเหมือนอยู่ไกลตัวเหลือเกิน ฉันเอี้ยวตัวกลับไปมองด้านหลัง รถจักรยานแฉลบเกือบล้ม เพราะทั้งพี่ชายของฉันและเพื่อนของพี่ชายยืนอยู่ไกลๆ

ขาฉันยกขึ้นเองแบบอัตโนมัติ รถจักรยานยังวิ่งตรงไปข้างหน้า

“น้องสาวคนเก่ง อย่าเสียสมาธิสิค่ะ ปั่นต่อไปเถอะ เธอทำได้” เสียงตะโกนดังๆ ฉันกัดฟันวางเท้าไว้ที่เดิมและพยายามประคองทั้งตัวและแฮนต์จักรยานเลี้ยวกลับมาที่จุดที่พี่ชายทั้งสองคนยืนอยู่

“พี่ยังไม่ได้สอนรสาหยุดรถเลยนะคะ” ฉันแหกปากร้องเสียงหลง

พี่ชายคนใหม่กระโจนเข้ามาใกล้และจับทั้งแฮนต์รถจักรยานและมือของฉันไว้ แรงรั้งมหาศาลทำให้จักรยานหยุดสนิท เสียงพี่ชายแท้ๆ ฉันหัวเราะร่วน ฉันเอียงคอมองลอดวงแขนของพี่ชายคนใหม่ ย่นจมูกใส่พี่ชายแท้ๆ

“เก่งเหมือนกันนะเรา” คำชมผสมกับรอยยิ้มที่ฉันชอบมอง ฉันเลยเลิกสนใจเสียงหัวเราะเยาะเย้ยนั่น

“พี่จะปล่อยมือทำไมไม่บอกรสาก่อนคะ” ฉันอดต่อว่าไม่ได้ พี่ชายคนนี้ทำเอาฉันใจหายใจคว่ำ

“พี่อยากรู้ไงคะ รสาทำด้วยตัวเองได้ไหม”

“คราวหลัง พี่อย่าแกล้งรสาแบบนี้อีกนะคะ” ฉันก็ยังไม่วายทักท้วง

พี่ชายคนใหม่อมยิ้มแล้วก็ตอบเสียงนุ่ม “ครั้งต่อไปน้องสาวไม่ต้องให้พี่ช่วยแล้วนะ”

“ทำไมคะ รสายังไม่เก่งสักหน่อย”

“เก่งแล้ว แค่ตัดความกลัวทิ้งไป เรื่องแค่นี้น้องทำได้เชื่อพี่สิ” คงเพราะฉันเชื่อแววตาคู่นั้นละมั้ง หลังจากพี่ชายแสนดีสอนวิธีหยุดรถจักรยานจนฉันเข้าใจ จากนั้นแรงยั่วยุของพี่ชายแท้ๆ ก็ทำให้ฉันฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง ฉันตั้งใจมั่น ฉันจะต้องเก่งกว่านี้เพื่อลบคำสบประมาทของคนบางคน

“อย่าให้ท้ายยัยเด็กนั่นมากนัก แค่นี้ก็แทบไม่เห็นหัวฉันแล้ว” เมฆาบ่นพึมพำ มีทั้งความริษยาและหมั่นไส้รวมอยู่ในประโยคบอกเล่านั้น

“อิจฉาน้องสาว?” ลุคถามแบบไม่ได้หวังคำตอบ

“รำคาญ” เมฆาตอบ มองเลยไปที่ลานกว้าง น้องสาววัยห่างกันเกือบแปดปีกำลังตั้งใจปั่นจักรยานด้วยความตั้งใจ

“น้องยังเด็ก รอโตกว่านี้อีกหน่อย นายจะไม่พูดแบบนี้”

เมฆาไม่ได้ตอบ เขากระแทกลมหายใจเป็นคำตอบแทน

ไม่มีทางที่เขาจะเลิกรำคาญน้องสาว เมื่อคนทั้งบ้านรุมโอ๋ จนความสำคัญของเขาลดลง

“ฉันอยากมีน้องสาวแบบนี้สักคนเหมือนกันนะ” ลุคเปรยลอยๆ

เพราะสุขภาพมารดาที่อ่อนแอและขี้โรค ลุคเลยเป็นแค่บุตรชายคนเดียวของบ้าน หลายครั้งที่เขานอนอยู่ท่ามกลางความมืดคนเดียวในบ้านหลังใหญ่ เนื่องจากบิดาและมารดาออกไปข้างนอกพร้อมกันสองคน

“ตอนที่นายมีน้องสาวขี้โรค วันนั้นนายจะคิดเหมือนฉัน”

เมฆาพึมพำ แล้วก็เดินหนีไปดื้อๆ

“จะไปแล้วเหรอ?” ลุคตะโกนถาม

“อืม จะไปอ่านหนังสือต่อ” ใกล้สอบเข้าไปทุกวัน เมฆาอยากได้เกรดสวยๆ ก่อนที่เข้าจะเปลี่ยนสถานะเป็นนักศึกษา ซึ่งลุคเองก็เช่นกัน แต่ทว่าเพราะลุคเป็นนักกีฬามาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น เขาได้โคตานักกีฬาเลยไม่ทุกข์ร้อนเท่าไหร่

“อย่าหักโหมนักเลย ระดับนายน่าจะเลือกที่เรียนได้หลายที่”

เมฆาไม่ได้ตอบ เขามองเลยไปที่ลานบ้าน เขาเบื่อน้องสาวอยากหนีไปไกลๆ เขาเลยเลือกมหาวิทยาลัยที่ไกลออกไป เลยต้องใช้คะแนนมากขึ้น

ตอนที่ 3.ว่าที่นักศึกษาแพทย์

ฉันชะเง้อคอมองผ่านรั้วบ้านทุกวันและหวังจะได้เห็นพี่ชายคนนั้นอีกสักครั้ง แต่กลับไม่เป็นเหมือนที่คิดไว้ ทั้งที่รั้วบ้านติดกันแท้ๆ แต่ฉันแทบจะได้เจอพี่ชายคนนั้นนับครั้งได้ ฉันยืนเกาะรั้ว สอดส่ายสายตามองเข้าไปด้านใน

“มาทำอะไรตรงนี้!!” เสียงคุ้นหูดังอยู่ด้านหลัง

ฉันก้มหน้าลง มองแค่ปลายเท้าตัวเองแต่ไม่ยอมตอบ

“ไอ้ลุคมันไม่อยู่หรอก ที่บ้านนั้นมีเรื่อง” พี่ชายฉันบอกแบบนั้น ซึ่งฉันไม่เข้าใจเลยสักนิด จนกระทั่งมื้อเย็นที่มีแค่ฉันกับแม่เท่านั้น พ่อไม่รู้ไปไหน พี่ชายฉันก็ด้วย

“พ่อไปไหนเหรอคะแม่?” ฉันถามแม่แล้วก็รอคำตอบ

“ไปวัดกับพี่เมฆไง” แม่ตอบ พลางตักกับข้าวใส่จานให้ฉัน

“ไปวัด ไปทำไมคะ?” ฉันถามต่อ

เสียงแม่ถอนใจ “ไปฟังพระ คนข้างบ้านเรา แม่เขาเสียแล้ว”

ฉันนิ่งอึ้ง นึกถึงแววตาเศร้าๆ ของพี่ชายข้างบ้าน วงหน้าของเขาช่วงหลังบอกถึงความหดหู่ ฉันมาถึงบางอ้อเอาก็วันนี้เอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel