บทที่ 2 ความลับดวงจันทรา (1/2)
พิภพเทพ....
แดนสวรรค์เก้าชั้นฟ้า เป็นที่สถิตย์ของทวยเทพเผ่าสวรรค์ แห่งพิภพเทพ ยามนี้ดาวนพเคราะห์ต่างทำหน้าที่กันสุดกำลัง ไม่เว้นแม้แต่วังจันทรา
ภายใต้ดวงจันทร์สีนวลสุกสกาว มีวังจันทราโอ่อ่าหรูหราภายใต้การปกครองของผู้เฒ่าจันทรานามว่า 'เยว่เล่อ' เทพแห่งตำหรับยาอายุวัฒนะและจัดการดูแลบัญชีเนื้อคู่ (เทพเจ้าด้ายแดง) ประจำพิภพเทพ พิภพเซียน พิภพมนุษย์
เยว่เล่อย่างเท้าออกมาจากวังจันทราด้วยความสง่างาม เมื่อถึงเวลาที่ทิวาสีแสดหยุดทำหน้าที่ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นท้องนภาสีครามเข้มดารดาษไปด้วยมวลหมู่ดาว ท่ามกลางพื้นท้องฟ้าสีนิล
ดวงจันทราทรงกลมแผ่รังสี สีเหลืองทองมีรูปลักษณ์เลอโฉมลอยเด่นเป็นสง่าอยู่กลางนภากาศในคืนวันที่พระจันทร์เต็มดวง
เยว่เล่อทอดสายตาวาววับดุจแก้วอัญมณีไปที่เงากระต่ายบนดวงจันทร์ เซียนกระต่ายแก่ชรากำลังตำยาอยู่บนดวงจันทร์ด้วยท่าทางขะมักเขม้น
เพียงแค่จิตนึกคิด เยว่เล่อก็มาปรากฏกายต่อหน้าของเซียนรับใช้ที่กำลังตำยาด้วยท่าทางเก้กัง
"อี้เฉิน..." เสียงทุ้มของเยว่เล่อเรียกให้เซียนรับใช้เงยใบหน้าขึ้นจากโกร่งบดยา
"ทะ...เทพจันทรา" เซียนกระต่ายแก่ชราค้อมกายเคารพเทพเหนือหัวของเขาด้วยความอ่อนน้อม
"ทำตัวตามปกติเถิดอี้เฉิน เจ้าปรุงยาไปถึงไหนแล้ว" เยว่เล่อนั่งลงบนขอนไม้จันทร์เอ่ยถามอี้เฉินด้วยสายตาเป็นห่วง
"ท่านเทพ อย่าหาว่าข้าเกียจคร้านเลยนะขอรับ แต่เห็นทีข้าคงไม่อาจรับใช้ท่านได้ตลอดกาล ด้วยพลังบำเพ็ญของข้านั้นอ่อนแอ จนไม่อาจผ่านด่านเคราะห์กลายเป็นเทพกระต่ายได้ ข้าขอให้ท่านเทพปลดข้าเถอะ"
เซียนกระต่ายนั่งลงด้วยอาการหอบเหนื่อย เขาเป็นเซียนรับใช้ผู้เฒ่าจันทรา แต่ไม่ว่าอี้เฉินจะตั้งใจบำเพ็ญตบะมากเพียงใด เขาก็เป็นได้เพียงซ่างเซียนเท่านั้น ไม่อาจบำเพ็ญเพื่อเผชิญด่านเคราะห์ให้กลายเป็นเทพได้
"ข้าไม่อยากเลือกกระต่ายตัวใหม่..." เยว่เล่อถอดทอนลมหายใจ เขาเบื่อยิ่งนักที่จะต้องคัดเลือกกระต่ายตัวใหม่มาฝึกฝน
"เผ่ากระต่ายของข้า เห็นทีคงจะไม่ไร้ฝีมือเช่นข้า ไม่แน่ท่านอาจจะได้กระต่ายที่สามารถบรรลุขั้นเซียน ผ่านการทดสอบบนแท่นอัสนีบาต ได้กลายเป็นเทพมาช่วยแบ่งเบาภาระของท่านก็เป็นได้ ลองดูหน่อยไม่ดีกว่าหรือ..."
อี้เฉิน พยายามเกลี้ยกล่อมให้นายเหนือหัวคัดเลือกเซียนรับใช้ใหม่ เพื่อมารับหน้าที่อันทรงเกียรติ
"เอาไว้ข้าจะลองคิดดู..."
ฉันพลันร่างเทพก็เลือนหายไป เยว่เล่อปรากฏกายที่หอดวงดาวแห่งชะตา เพื่อทำหน้าที่จัดการบัญชีเนื้อคู่ให้ทั้งสามภพเกิดความรักที่สมดุล เยว่เล่อปรายมือเรียวงามดุจแท่งเทียนไปยังป้ายรายชื่อที่เขาจะจับคู่ในค่ำคืนนี้ สายใยแห่งความรักเป็นเรื่องซับซ้อนและวุ่นวายเกินกว่าจะเข้าใจ แม้เขาเองจะทำหน้าที่อันทรงเกียรติมานานหลายพันปีแล้วก็ตาม
เทพผู้ควบคุมกำหนดด้ายแดงแห่งโชคชะตา ส่งสายใยแห่งรักนำพาให้ด้ายแดงล่องไปตามสายลมสู่คู่รักที่เหมาะสม หลังจากได้ตรวจทานสมุดบุพเพสันนิวาสของโลกให้ถูกต้องอีกครั้ง
เมื่อเยว่เล่อทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จสิ้นแล้ว ร่างสูงตระหง่านสง่างามก็ย่างกรายออกมาจากหอดวงดาวแห่งชะตา ก่อนจะหย่อนกายงดงามลงบนพื้นหญ้าใต้ต้นไม้ใหญ่
สายลมเย็นลอยปะทะดวงหน้าคมเข้มได้รูป นัยน์ตาเข้มคมทอประกายแสงเจิดจรัสไม่แพ้มวลหมู่ดาว นึกคิดในสิ่งที่อี้เฉินได้บอกกล่าว ก็จริงอยู่ที่อี้เฉินไม่สามารถผ่านด่านเคราะห์เป็นเทพกระต่ายได้ และนั่นก็สื่อความหมายได้ว่าเขาต้องรับภาระที่หนักอึ้ง ภายใต้ดวงจันทราที่เงียบเหงา และน่าเบื่อหน่าย
ภายใต้ดวงจันทร์โฉมงามที่บรรดาสรรพสิ่งในทุก ๆ พิภพมองเห็น ผู้ใดจะคิดเล่าว่าจันทราเฉิดโฉมดวงนี้ จะซ่อนเร้นความเงียบเหงา และความเดียวดายของเทพผู้ครอบครองเช่นเขา