บทที่ 1 ซุกซนและตัวปัญหา (2/2)
“ข้าสัญญา ท่านรีบ ๆ คลายอาคมให้ข้าเถอะ” อวี่ทู่ในร่างกระต่ายหยัดยืนด้วยสองขา ก่อนจะผงกหัวให้หยวนหยุนแทนคำสัญญา
หยวนหยุนเซียนน้อยร่นเท้าถอยห่างจากกรงอาคมระยะหนึ่ง ก่อนที่เขาจะวาดมือจนเกิดลำแสงสีขาวรอบกายของอวี่ทู่ เมื่อแสงสลายไปนางก็เป็นอิสระ
อวี่ทู่มีหรือจะรอช้า ในยามนี้ท่านเซียนน้อยหมดประโยชน์แล้ว นางหันหลังแล้วออกวิ่งด้วยสี่เท้าหายลับไปกับตา ปล่อยให้หยวนหยุนยืนนิ่งหน้าเหวออยู่กับที่ ก่อนจะส่ายหน้าอมยิ้มน้อย ๆ “ข้าเสียรู้ให้กระต่ายเช่นเจ้าอีกแล้วหรือนี่”
ชื่อเสียงเรียงนามของอวี่ทู่ สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งเผ่ากระต่าย มีนางที่ไหนย่อมมีความวุ่นวายเกิดขึ้นที่นั่น เท่านั้นยังไม่พอหนีการฝึกบำเพ็ญตัวเดียวมันจะไปสนุกอะไร
อวี่ทู่ยกระดับตัวเองขึ้นเป็นผู้นำ มักพากระต่ายตัวอื่น ๆ ออกจากการฝึกบำเพ็ญตบะอยู่บ่อยครั้ง เมื่อโดนจับได้นางก็โยนให้กระต่ายตัวอื่นรับเคราะห์แทนอยู่เป็นประจำ
หากนางไม่พอใจผู้ใดขึ้นมา ทั้งสวนแครอทหรือแม้กระทั่งโพรงหญ้า นางก็รื้อถอนจนหมดสิ้น ทั้งหมดหาใช่เพราะนางเป็นกระต่ายเกเรเสียเมื่อไหร่ แต่นางถูกรังแกด้วยคำพูดต่าง ๆ นานา มีหรือที่นางจะยอม
ระหว่างที่อวี่ทู่วิ่งหนีการกักบริเวณ ก็มีเสียงหลายเสียงจากบรรดากระต่ายที่พบผ่านดังเข้าสู่โสตประสาทจนนางต้องหยุดนิ่ง
"เป็นเพราะนางไร้ซึ่งบิดามารดาคอยอบรม นางถึงได้มีนิสัยที่ก้าวร้าวเช่นนี้"
"โชคดียิ่งนักที่ข้าเกิดมาไม่ไร้บิดามารดาเช่นนาง"
"นางเป็นกระต่ายที่เป็นตัวปัญหาที่สุดในเผ่า ไม่รู้ว่าท่านเซียนยังคงให้นางอยู่ภายในเผ่าได้อย่างไร"
ทั้งเผ่ากระต่ายต่างครหาว่านางไม่มีบิดามารดาคอยอบรมสั่งสอน นางถึงได้มีนิสัยที่โลดโผนเช่นนี้
อวี่ทู่ได้แต่ยืนนิ่ง อุ้งมือที่เต็มไปด้วยก้อนขนกำเข้าหากันแน่นด้วยความเดือดดาล
"ข้าเกิดมาไม่มีบิดามารดาก็จริงอยู่ แต่อย่างน้อยข้าก็ไม่เคยให้ร้ายใครอย่างเช่นพวกเจ้า หากพวกเจ้ายังไม่หยุดปาก ข้าจะถอนฟันกระต่ายของพวกเจ้าออกมาโยนเล่นเสียให้รู้แล้วรู้รอด"
เพีงแค่นางตวัดสายตากลมโตที่ดูแข็งกร้าว พวกกระต่ายที่รุมต่อว่าอวี่ทู่ ก็พากันกระจายตัวออกไป ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะต่อกรกับนาง
"อวี่ทู่..." เสียงหวานใสกังวานหยุดอุ้งเท้าเล็กปุกปุยที่กำลังก้าวเดินให้หยุดอยู่กับที่
"ทะ...ท่านเซียน" อวี่ทู่หมุนตัวกลับมาประจันหน้ากับคนที่นางทั้งกลัวทั้งเคารพมากที่สุดในเผ่า
หยวนเฟย หรือท่านเซียนแห่งเผ่ากระต่าย นางเป็นเซียนชั้นสูงที่มีรูปโฉมงดงาม อ่อนช้อย แต่แววตากลับมีความเด็ดขาดและเด็ดเดี่ยว
"เจ้าอย่าคิดมากไปกับคำพูดของผู้อื่นเลยนะ เจ้าก็มีบิดามารดาดังเช่นกระต่ายตัวอื่น ๆ เพียงแต่พ่อและแม่ของเจ้ามีภาระหน้าที่ที่ต้องกระทำเพื่อตอบแทนสวรรค์ จึงไม่อาจอยู่เลี้ยงดูอบรมเจ้า" นัยน์ตาหวานหยดย้อย จ้องมองกระต่ายขนปุยสีชมพูด้วยความรักและความเอ็นดู แม้อวี่ทู่จะดื้อรั้นจนต้องเข้มงวดกับนางไปบ้างก็ตาม
"แต่ข้าเป็นตัวปัญหา..." อวี่ทู่กดหน้าลง และเอื้อนเอ่ยในสิ่งที่ทุกคนครหา
"อีกไม่นาน เจ้าจะเป็นเกียรติยศของเผ่ากระต่ายที่ใคร ๆ ต่างสรรเสริญ ขอเพียงเจ้าอดทนฝึกบำเพ็ญตบะให้แน่วแน่...."
"แต่ข้าเกียจคร้านเกินกว่าจะมีจิตใจตั้งมั่นนะเจ้าคะ ท่านเซียน" อวี่ทู่บอกความสัจจริงออกไปให้ท่านเซียนได้รีบฟัง
"ทุกอย่างถูกสวรรค์ลิขิต เมื่อทุกอย่างมาถึง เจ้าจะนึกถึงคำพูดของข้า..."
แล้วหยวนเฟยก็เดินจากไป พร้อมกับปริศนาชวนให้คิด ที่อวี่ทู่พยายามคิดเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก คนเกียจคร้านเช่นนางนะหรือจะเป็นเกียรติยศให้กับเผ่ากระต่าย....เห็นทีหยวนเฟยคงคาดการณ์บิดเบือนไปแล้วกระมัง
[1] กุ่ยเซียน เซียนชั้นผู้น้อย