EP : 4 จิ้งจก
“เอ่อ รุ้งเลือกเองค่ะ” รวีรุ้งเอ่ยบอก พลางมองหาชุดไปอย่างช้าๆ
“อย่างน้อยต้องได้สิบชุดนะ” ภูผาบอกทันที เมื่อเห็นรวีรุ้งเลือกมาแค่เสื้อกับกางเกงสองตัว
“เอ่อ มันเยอะเกินไปค่ะ” รวีรุ้งบอกเสียงเบา พลางหลบสายตาของภูผาไปด้วยอย่างกลัวๆ
“เสื้อเธอมีนิดเดียว” ภูผาเอ่ยบอก ก่อนจะมองหาชุดให้รวีรุ้ง
“รุ้งใส่ได้ค่ะ” รวีรุ้งเอ่ยบอกเสียงเบา พลางกัดริมฝีปากของตัวเองอย่างอดไม่ได้
“ถ้าดื้อ จะไม่พามาเที่ยวแล้วนะ” ภูผาขู่ทันที เพราะเขารู้สึกว่าเธอจะชอบเดินตลาดนัด
“ก็ได้ค่ะ” รวีรุ้งตอบรับอย่างรวดเร็ว โดยไม่คิดอะไรมาก พร้อมกับหาชุดมาได้อีกสามชุด
“อีกห้าชุด” ภูผาบอกคนตัวเล็ก เมื่อเห็นว่ารวีรุ้งเอาชุดทั้งหมดไปให้แม่ค้า
“ไปดูร้านอื่นด้วยสิคะ” รวีรุ้งเอ่ยบอก เมื่อเห็นว่าภูผากำลังบอกให้เธอเลือกชุดอีก
ภูผาไม่พูดอะไรอีกนอกจากพยักหน้ารับ ก่อนจะจ่ายเงินให้กับแม่ค้า แล้วพารวีรุ้งเดินไปดูเสื้อผ้าร้านอื่นๆ
“เสื้อตัวนี้เข้ากับพี่ภูนะคะ” เมื่อเดินผ่านร้านชายเสื้อผ้าผู้ชาย รวีรุ้งก็พูดขึ้นพร้อมกับชี้นิ้วบอกภูผา
“เลือกมาให้พี่สามตัว” ภูผาชะงักแล้วหันไปมองก่อนจะเอ่ยบอก พลางมองรวีรุ้งที่พยักหน้ารับแล้วเลือกเสื้อให้กับเขา ปกติเขาไม่ใช้เงินเปลืองกับของพวกนี้หรอก
“พี่ภูเอากางเกงด้วยมั้ยคะ” รวีรุ้งเอ่ยถาม หลังจากที่เลือกเสื้อให้ภูผาได้แล้ว
“ไม่เอา” ภูผาบอกก่อนจะส่งเงินให้กับพ่อค้าไปด้วย จากนั้นก็พากันเดินหาชุดที่ร้านต่อไป
เมื่อเห็นร้านที่ถูกใจ รวีรุ้งก็หยุดแล้วเลือกชุดอย่างรวดเร็ว เพราะไม่อยากให้ภูผารอนาน แถมเขายังถือของอีกมากมาย เธอเลยกลัวว่าเขาจะหนัก
ภูผาส่งเงินให้แม่ค้า ก่อนจะชี้ยังร้านขายชุดชั้นใน เขามองหน้ารวีรุ้งที่หน้าแดง ก่อนจะส่ายหน้าไปมา
“เอ่อ ชุดชั้นในพวกนี้มันไม่ค่อยดีเท่าไรนะคะ” รวีรุ้งอึกอัก ก่อนจะเข้าไปประซิบบอกภูผา เพราะเพื่อนของเธอเคยบอกเอาไว้ ซื้อมาใส่ได้ไม่นานยางมันก็หมดสภาพแล้ว
“งั้นที่ไหนถึงดีล่ะ” ภูผาเอ่ยถาม พลางมองใบหน้าแดงๆ ของรวีรุ้งไปด้วย
“ที่ห้างค่ะ” รวีรุ้งเอ่ยบอกเสียงเบา เพราะกลัวว่าภูผาจะว่าอะไรกับความเรื่องมากของเธอ
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนบ่ายพี่พาไป” ภูผาเอ่ยบอก เพราะตอนเช้าเขาต้องไปทำงานที่ไร่ ตอนบ่ายถึงจะว่างพาคนตัวเล็กไป
“จริงเหรอคะ” รวีรุ้งเอ่ยถาม อย่างตื่นเต้นพร้อมกับยิ้มนิดๆ เพราะเธอจะได้ซื้อของบางอย่างจากที่ห้าง
“อืม” ภูผาครางตอบ ก่อนจะพากันเดินรอบตลาดนัด แล้วก็เดินไปขึ้นรถเพื่อกลับบ้าน
ทั้งสองใช้เวลาไม่นาน ก็ขับรถกลับมาถึงบ้านในช่วงเย็น ทั่วทั้งบริเวณก็เงียบสงัดแล้ว
“พี่ภูจะกินข้าวเลยมั้ยคะ” รวีรุ้งเอ่ยถาม เมื่อพวกเธอเข้ามาในบ้าน
“แล้วรุ้งหิวหรือยังละ” ภูผาไม่ได้ตอบแต่เลือกเอ่ยถามคนตัวเล็กแทน เพราะเขายังไม่หิว แต่ถ้ารวีรุ้งหิวแล้วเขาจะได้กินเป็นเพื่อน
“ยังค่ะ แหะๆ” รวีรุ้งตอบพร้อมหัวเราะแห้ง เพราะเธออยากกินขนมที่ซื้อมาต่างหาก แถมระหว่างทางยังกินไส้อั่วกับภูผาจนหมดแล้ว
“งั้นก็ไปอาบน้ำก่อน ที่ห้องน้ำไฟมันเสียพี่ยังไม่ได้ซ้อม” ภูผาเอ่ยบอก เพราะเดี๋ยวมืดแล้วจะอาบน้ำลำบาก
“ค่ะ” รวีรุ้งตอบรับอย่างว่าง่าย ก่อนจะเดินเข้าห้องเพื่อจะหยิบชุดและผ้าเช็ดตัว แล้วเดินออกจากตัวบ้านไปยังห้องน้ำ ที่อยู่ห่างจากตัวบ้านไปไม่ไกลเท่าไรนัก แต่ว่ามันให้ความรู้สึกน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้
รวีรุ้งเปิดประตูห้องน้ำที่ทำขึ้นจากไม้ผุๆ แถมยังมีรูอีกต่างหาก มันทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อย ตัวของห้องน้ำทำจากอิฐบล็อก ใบหน้างามเงยหน้ามองขึ้นไปด้านบน ที่เป็นหลังคาทำจากสังกะสีและมีรอยรั่ว
ร่างบางรู้สึกกลัวแต่ก็ต้องทำใจ เธอมองโอ่งที่สูงไม่ถึงเอวของเธอ ในนั้นมีน้ำเกือบเต็มโอ่ง แล้วก็ขันหนึ่งใบ อีกมุมหนึ่งก็มีตะกร้าที่เอาไว้ใส่สบู่แล้วแปรงสีฟันและหลอดยาสีฝันเก่าๆ
รวีรุ้งรีบถอดชุดเพื่อที่จะได้อาบน้ำ เธอคว้าขันมาตักน้ำ ก่อนจะเทลงมาที่ตัวของเธออย่างช้าๆ เพราะไม่เคยทำมาก่อน เพียงแต่เคยเห็นในหนังบางเรื่องเท่านั้น
ยิ่งคิดแบบนั้น มันก็ทำให้เธอนึกถึงฉากบางฉากขึ้นมา หวังว่ามันคงไม่เกิดขึ้นกับเธอหรอกนะ
ตุ้บ!
แปะ!
ในขณะที่รวีรุ้งกำลังเอื้อมมือไปคว้าเอาสบู่เพื่อมาถูตัว เธอก็ต้องหยุดชะงักด้วยความตกใจกับสิ่งที่เธอต้องเผชิญหน้าในตอนนี้
ดวงตาสวยเบิกตากว้าง เมื่อเห็นสิ่งที่เกาะติดอยู่บนหัวไหล่ของตัวเอง และในเวลาต่อมาเธอก็ส่งเสียงกรี๊ดดังลั่น
“กรี๊ด!!!”
เสียงกรี๊ดของรวีรุ้ง ทำให้ภูผาที่กำลังจะเดินเข้าห้องนอนตกใจ พร้อมกับวิ่งออกไปข้างนอกด้วยความรวดเร็ว เพราะกลัวว่ารวีรุ้งจะเป็นอะไรไป
“รุ้งเป็นอะไร เปิดประตูให้พี่หน่อย” ภูผาร้องถามเสียงดังเพราะเป็นห่วง แต่เพราะความใจร้อนเขาก็กระชากประตูห้องน้ำผุๆ ออกอย่างแรง
ปัง!!
“พะ…พี่ภู ช่วยรุ้งด้วย” รวีรุ้งหันไปบอกคนที่เข้ามาในห้องน้ำ เธอยืนนิ่งไม่กล้าขยับตัวเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะกลัวว่าจิ้งจกมันจะวิ่งเข้ามาหาเธอ
“ไม่ต้องร้อง เดี๋ยวพี่เอาออกให้” ภูผาบอกพลางปัดเจ้าจิ้งจกให้ออกไป
“กรี๊ด! พี่เอามันออกไปจากห้องน้ำด้วยสิคะ” รวีรุ้งกรี๊ดขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะพุ่งเข้าไปกอดภูผาแล้วบอกอีกฝ่ายไปด้วย เพราะกลัวว่ามันจะเข้ามาเกาะเธออีก
ภูผายืนนิ่งเมื่อถูกรวีรุ้งกอดแน่น มันทำให้เขาพึ่งสังเกตเห็นว่าสภาพของรวีรุ้งในตอนนี้เป็นยังไง
เขามองไปตามแผ่นหลังเนียนขาว แล้วไล่ลงไปล่างด้านจนถึงเท้าอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะหันหนีพร้อมกับพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองไปด้วย
“พี่ภูมันไปหรือยังคะ” รวีรุ้งเอ่ยถามด้วยความไม่แน่ใจ เธอยังคงกอดภูผาอยู่แบบนั้น เพราะกลัวว่าจิ้งจกมันจะยังไม่ไปไหน
เสียงของรวีรุ้งทำให้ภูผามีสติขึ้นมาอีกครั้ง เขามองหาจิ้งจกที่ตอนนี้ได้หายไปแล้ว สงสัยมันรีบหนี เพราะกลัวถูกเขาจัดการแน่ๆ
“ไปแล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยบอก พลางยืนนิ่งให้รวีรุ้งกอดอยู่แบบนั้น เพราะมันให้ความรู้สึกไม่เลวเลยทีเดียว
“พี่หาทั่วหรือเปล่าคะ” รวีรุ้งยังคงถาม ใบหน้างามก็ยังคงแนบกับอกแกร่งของภูผาแน่น
“อืม รีบอาบน้ำเถอะ” ภูผาบอกเรียบๆ เพราะเดี๋ยวมันจะมืดเสียก่อน
“อ๊ะ ขอโทษค่ะ พี่ออกไปข้าง...นอกเลย” รวีรุ้งร้องอย่างตกใจเมื่อได้สติ ก่อนจะเอ่ยบอกภูผา พร้อมกับเพิ่งเห็นว่าประตูของห้องน้ำได้หายไปแล้ว เธอรีบหันหลังให้กับภูผาอย่างเขินอาย
“เดี๋ยวพี่ยืนรออยู่ด้านนอก รีบอาบน้ำเถอะ” ภูผาเอ่ยบอก พลางเดินออกไปยืนรออยู่หน้าประตูห้องน้ำ โดยยืนหันหลังให้กับรวีรุ้ง
คนตัวเล็กมองคนตัวโตอยู่สักพัก ก่อนจะตัดสินใจรีบอาบน้ำอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าเจ้าจิ้งจกตัวนั้นมันจะกลับมาหาเธออีก
ภูผาที่ยืนหันหลังให้กับรวีรุ้งก็ ได้แต่นึกภาพเปล่าเปลือยของคนตัวเล็กไม่หยุด ไม่ว่าจะเป็นต้นคอขาวๆ แผ่นหลังที่เรียบเนียน
จนเขาอยากจะเอื้อมมือไปสัมผัส บั้นท้ายกลมกลึงที่เขาอยากลองขย้ำแรงๆ แล้วไหนจะขาเรียวสวยนั้นอีก
ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนหื่นกามอย่างไม่น่าให้อภัย