EP : 5 ผัวเมียก็ต้องนอนด้วยกันสิ
“พี่ภูไปกันเถอะ” รวีรุ้งที่พันผ้าเช็ดตัวเสร็จก็เอ่ยบอก ตอนแรกเธอว่าจะเปลี่ยนชุดที่นี่ แต่ดูแล้วไปเปลี่ยนที่ห้องนอนจะดีกว่า เพราะเธอกลัวว่าจิ้งจกตัวนั้นมันจะกลับมาในตอนที่เธอเปลี่ยนชุดนะสิ รีบหนีก่อนที่มันจะกลับมาน่าจะดีกว่า
“ทำไมไม่ใส่ชุดละ” ภูผาที่หันไปมองก็ต้องตกใจกับสภาพของรวีรุ้ง ก่อนจะเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ
“รุ้งกลัวว่ามันจะกลับมาอีกรอบค่ะ” รวีรุ้งเอ่ยบอกเสียงเบา พลางมองไปรอบๆ ห้องน้ำไปด้วยความหวาดระแวง
“อืม รีบเข้าบ้านเถอะ” ภูผาครางรับก่อนจะพูดบอกคนตัวเล็ก ที่ตอนนี้เอาแต่มองไปยังรอบๆ ด้วยท่าทางหวาดกลัว
“ค่ะ อ๊ะ!” รวีรุ้งตอบก่อนจะเดินสะดุดต้นอะไรสักอย่าง ทำให้ชนเข้ากับแผ่นหลังของภูผาเต็มแรง
“เป็นอะไร” ภูผาหันไปถาม ก่อนจะหันไปมอง ก็พบว่าเท้าของรวีรุ้งเดินไปเกี่ยวกับต้นหญ้าที่พันกันอยู่ แถมยังถูกใบหญ้าบาดอีกด้วย
มาวันแรกก็เสียเลือดแล้วสิ สงสัยต้องตัดหญ้าพวกนี้ทิ้งแล้ว ห้องน้ำก็ต้องทำใหม่ย้ายมันไปติดกับบ้านน่าจะดี ภูผาคิดพร้อมช้อนร่างบางขึ้นมาอุ้มเข้าบ้านไป
“พะ…พี่ภู ไม่ต้องอุ้มรุ้งก็ได้ค่ะ” รวีรุ้งเอ่ยบอกด้วยความตกใจ พร้อมกับเอาชุดปิดหน้าอกของตัวเองไปด้วย
“เดี๋ยวทำแผลก่อนแล้วค่อยไปใสชุด” ภูผาส่ายหน้าไปมาแล้วเอ่ยบอก ก่อนจะวางรวีรุ้งที่เก้าอี้ไม้แล้วเดินไปยังห้องนอน จากนั้นก็หากล่องที่เขาเอาไว้ทำแผล
“เดี๋ยวรุ้งทำเองก็ได้ค่ะ” รวีรุ้งเอ่ยบอก เมื่อเห็นว่าภูผานั่งลง แล้วเอาเท้าของเธอวางไปที่ขาของเขา ก่อนจะเอาสำลีที่ใส่น้ำเกลือเช็ดไปตามบาดแผลของเธอ
“อยู่นิ่งๆ ก็พอ” ภูผาเอ่ยบอก พลางมองรอยบาดที่ไม่ลึกมากเท่าไร ก่อนจะติดพลาสเตอร์ให้กับรวีรุ้ง อย่างเบามือที่สุด
“เจ็บมากมั้ย” ภูผาเอ่ยถาม เพราะกลัวว่าคนตัวเล็กจะเจ็บ
“ไม่เท่าไรค่ะ เอ่อ รุ้งขอตัวไปใส่ชุดก่อนนะคะ” รวีรุ้งตอบก่อนจะเอ่ยบอกกับภูผา รู้สึกเธอเกรงใจและเขินอายที่ต้องอยู่ในสภาพแบบนี้ต่อหน้าของคนตัวโต
“ไปเถอะ” ภูผาบอกก่อนจะเก็บของ แล้วลุกเอากล่องไปวางไว้ที่โต๊ะ เขาถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ เพราะเขาดูแลรวีรุ้งได้ไม่ดีพอเหมือนอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ เขาไม่น่าพาเธอมาลำบากเลยจริงๆ พากลับบ้านใหญ่ดีหรือเปล่านะ
“พี่ภูไม่ไปอาบน้ำเหรอคะ” รวีรุ้งเอ่ยถาม เพราะเดี๋ยวมันจะมืดแล้ว
“อืม” ภูผาครางรับ ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องนอนพร้อมกับเดินออกมา โดยมีผ้าเช็ดตัวพาดกับไหล่ของตัวเอง
รวีรุ้งมองตามหลังของภูผาก็ถอนหายใจ เพียงแค่วันเดียวมันก็เกิดเรื่องมากมายขึ้นกับเธอ จนตั้งรับไม่ทัน แต่มันมีบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกสบายใจเมื่อมีภูผาอยู่ด้วย แม้ตอนแรกเธอจะกลัวเขามากก็ตามที
แต่เมื่อได้มีโอกาสได้อยู่ด้วยกัน แม้ระยะเวลามันจะสั้นแต่เธอรู้สึกปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก
รวีรุ้งเปิดดูถุงเสื้อผ้าที่ซื้อมา ก่อนจะคิดว่าแล้วเธอจะซักซื้อผ้ายังไงล่ะทีนี้ เพราะที่นี่ไม่มีเครื่องซักผาเลย แถมเธอยังซักมือไม่เป็นอีกต่างหาก ความจริงที่ได้รับรู้ทำเอาเธออยากจะร้องไห้ ถ้าหากเธอบอกภูผาไปเขาจะว่าเธอโง่หรือเปล่านะ
“มีอะไรหรือเปล่า” ภูผาที่เดินเข้ามาก็เอ่ยถาม เมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของรวีรุ้ง หรือว่าเธอเสียใจที่ต้องมาอยู่กับเขา
“คือว่า เอ่อ” รวีรุ้งเงยหน้าขึ้นเพื่อที่จะพูดก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อเห็นภูผายืนอยู่ตรงหน้า โดยมีเพียงผ้าเช็ดตัวพันอยู่รอบเอว
สายตาของเธอรีบย้ายไปมองที่อื่นทันที แต่ถึงแม้จะทำแบบนั้นก็ไม่ได้อะไร เพราะในหัวของเธอยังคงมีภาพของภูผาเต็มไปหมด
รูปร่างของภูผานั้นดีเป็นอย่างมาก ดีกว่าพวกนายแบบเสียอีก ยิ่งผิวสีแทนเพราะตากแดดเป็นประจำยิ่งทำให้เขาดูดีขึ้นไปอีก เธอไม่เคยเห็นใครที่ดูดีแบบเขามาก่อนเลย
“พี่ภูไปใส่ชุดก่อนเถอะค่ะ” รวีรุ้งบอกอีกฝ่าย ที่ยังคงยืนอยู่ตรงหน้าของเธอไม่ยอมไปไหนสักที
“ถ้าหิวก็กินข้าวไปก่อนเลยนะ” ภูผาบอก ก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไป
ส่วนรวีรุ้งก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างโล่งออก ก่อนจะก้มหน้าลงมือทั้งสองข้างก็ยกขึ้นมาปิดใบหน้าของตัวเองอย่างเขินอายกับความคิดก่อนหน้านี้ของตัว
“เป็นอะไรหรือเปล่ารุ้ง หรือว่าไม่สบาย” ภูผาที่เดินออกจากห้องมา ก็เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นท่าทางของรวีรุ้ง
“เอ่อ เปล่าค่ะ” รวีรุ้งสะดุ้งอย่างตกใจ ก่อนจะเอ่ยบอกพร้อมกับส่ายหน้าไปมา
“กินข้าวกันเถอะ” ภูผาบอก พร้อมกับเดินไปเอาจานที่ครัวมาใส่อาหาร
รวีรุ้งไม่พูดอะไรได้แต่พยักหน้ารับ ก่อนจะช่วยภูผาเทอาหารที่ซื้อมาใส่จาน
ทั้งสองกินข้าวเงียบๆ เนื่องจากไม่รู้จะชวนอีกฝ่ายพูดอะไรดี และในที่สุดอาหารทั้งหมดที่ซื้อมาก็หมดลง
“เดี๋ยวรุ้งไปล้างเองค่ะ” รวีรุ้งเอ่ยบอกเมื่อเห็นภูผากำลังเก็บจาน เธอเอื้อมมือหมายจะถือจานพวกนั้นเอง แต่ก็ถูกภูผาคว้าเอาไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวพี่ล้างเอง รุ้งนั่งพักเถอะ ไม่ต้องขยับเท้ามาก” ภูผาบอกเพราะกลัวว่าบาดแผลจะกระทบกระเทือน หากคนตัวเล็กเคลื่อนไหว
“รุ้งไม่เป็นไรมากสักหน่อย” รวีรุ้งบอก แต่ดูเหมือนคนตัวโตจะไม่สนใจเธอเลยสักนิด แค่แผลเล็กๆ แบบนี้มันทำอะไรเธอไม่ได้หรอก
“นั่งอยู่ตรงนั้นแหละดีแล้ว” ภูผาเอ่ยบอก ก่อนจะเดินเข้าครัวเอาจานไปล้าง พร้อมกับคิดเรื่องต่างๆ ไปด้วย
อืม หรือว่าเขาจะพารวีรุ้งกลับบ้านใหญ่พรุ่งนี้ดี แต่อีกใจหนึ่งเขาก็ยังอยากจะอยู่ที่นี่
รวีรุ้งได้แต่มุ่ยหน้าอย่างขัดใจ ก่อนจะนั่งกินขนมที่ซื้อมารอภูผา ซึ่งมันทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นมาได้บ้างเล็กน้อย
“ยังไม่ง่วงเหรอ” ภูผาที่เดินออกมาจากห้องครัว ก็เอ่ยถามรวีรุ้งที่นั่งกินขนม
“ยังค่ะ” รวีรุ้งเอ่ยตอบ พลางมองภูผาที่เดินไปยังมุมหนึ่ง ก่อนจะถือสมุดอะไรสักอย่างมานั่งข้างๆ กับเธอ
ภูผานั่งเช็คยอดของ ก่อนจะเอาลงกรอกข้อมูลในโน๊ตบุ๊ค แต่น่าเสียดายที่เขาลืมอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ เลยต้องมานั่งเช็คยอดในสมุดพวกนี้ไปก่อน
รวีรุ้งอยากจะถามภูผา แต่ก็กลัวว่ามันจะเสียมารยาท เธอก็เลยนั่งกินขนมไปเงียบๆ โดยที่บางครั้งก็เหลือบมองคนตัวโตทำงานไปด้วย
“ถ้าง่วงก็ไปนอนได้เลยนะ” ภูผาบอกรวีรุ้ง ที่ตอนนี้นั่งเท้าคางมองเขาอยู่ในตอนนี้
“รุ้งอยากไปแปรงฟัน” รวีรุ้งเอ่ยบอก เพราะเธอกลัวว่าเจ้าจิ้งจกมันจะคอยเธออยู่ที่นั่น
“เดี๋ยวพี่พาไป” ภูผาผละออกจากงานที่ทำ ก่อนจะเอ่ยบอกจากนั้นก็เดินเข้าไปอุ้มรวีรุ้ง
“ทำอะไรคะ” รวีรุ้งเอ่ยถามอย่างตกใจ เมื่ออยู่ดีๆ ภูผาก็เข้ามาอุ้มเธอ
“เดี๋ยวหญ้าบาด” ภูผาบอก ก่อนจะพารวีรุ้งเดินออกไปตามทางที่มืดลงไปแล้ว แต่ก็ยังมีแสงจากดวงจันทร์ทำให้พอจะมองเห็นทางอยู่บ้าง
เมื่อพามาถึงห้องน้ำถูผาก็วางรวีรุ้งลง ก่อนจะใช้มือถือเปิดไฟฉายให้คนตัวเล็กที่มองซ้ายขวาอย่างหวาดระแวง
“รีบแปรงฟันเถอะ เดี๋ยวมันจะมาอีกรอบ” ภูผาขู่เล็กน้อย เมื่อเห็นท่าทางระวังตัวของรวีรุ้ง
คนตัวเล็กที่ได้ยินแบบนั้น ก็รีบจัดการแปรงฟันด้วยความเร็วเท่าที่จะทำได้ เมื่อเธอจัดการตัวเองเสร็จแล้วภูผาก็อุ้มเธอกลับเข้าบ้าน
“ให้รุ้งนอนกับพื้นก็ได้นะคะ” รวีรุ้งเอ่ยบอกอย่างเกรงใจ เมื่อถูกภูผาวางตัวเองลงบนเตียง
“ผัวเมียก็ต้องนอนด้วยกันสิ รุ้งนอนก่อนเลย เดี๋ยวพี่จะไปทำงานต่อ” ภูผาเอ่ยบอก ก่อนจะเดินออกมาจากห้องนอน แล้วนั่งทำงานต่อไปจนเกือบเที่ยงคืน