ตอนที่ 1 หมอดูเป็นเหตุสังเกตได้ (3)
“มุกนี้แม่เลิกใช้แล้ว เพราะแกไม่หลงกลสักที” นางบ่นพลางมองค้อนลูกชายตัวดี ซึ่งอีกฝ่ายก็ได้แต่หัวเราะ นางจึงได้แต่ถอนหายใจ ไหน ๆ ก็เปิดเรื่องดูตัวขึ้นมาแล้วก็ขอพูดหน่อยละกัน “ถ้าแกไม่อยากให้แม่ยุ่งเรื่องนี้ ก็ช่วยหาแฟนแต่งงานสักคนสิ”
“เหมือนเมื่อก่อนผมจะเคยพามานะครับ แต่แม่เล่นขอวันเดือนปีเกิดพวกเธอไปให้หมอดู กลับมาก็ติโน่นตินี่เยอะแยะไปหมด” และด้วยเหตุผลนี้เองทำให้เวลาคบใครที่ไม่มั่นใจจริง ๆ เขาจะไม่พามาเจอคนเป็นแม่อีกเลย และจนถึงทุกวันนี้คนคนนั้นมันก็ยังไม่เคยมีเช่นกัน
“ก็โหงวเฮ้งไม่ดีสักคนนี่ แถมแต่ละคนก็เข้ากับคนราศีสิงห์อย่างแกไม่ได้ด้วย พูดง่าย ๆ คือไม่ใช่เนื้อคู่”
“รู้ได้ด้วยว่าใครคือเนื้อคู่ ไม่ใช่เนื้อคู่” สิงหาแขวะเสียงกลั้วหัวเราะพลางส่ายศีรษะ
“ก็หมอดูเขาทักมาอย่างนี้” นางบอกอย่างเชื่อมั่น ก่อนจะชี้นิ้วปรามเมื่อเห็นลูกชายจะอ้าปากเถียง “อะ ๆ แกอย่ามาโทษแม่สุดท้ายผู้หญิงพวกนั้นก็เลิกกับแกเอง ไม่เกี่ยวกับแม่สักหน่อย”
สิงหาพยักหน้ารับ ไม่ได้แย้งอะไร เพราะเอาเข้าจริง ๆ แม่ก็ไม่เคยพูดเรื่องทำนายทายทักอะไรนั่นต่อหน้าผู้หญิงเหล่านั้นเลย แต่จะมาบ่นกับเขาแค่ฝ่ายเดียว
“ครับ น่าจะเพราะผมเองแหละ”
“เพราะเขาไม่ใช่เนื้อคู่แกไง” นางกันยาบอกพลางยักไหล่
“ถ้ารู้ขนาดนี้บอกชื่อที่อยู่เนื้อคู่ผมมาเลยดีไหม จะได้ตามไปจีบถูก” สิงหาท้าคนเป็นแม่ยิ้ม ๆ และก็โดนถลึงตาใส่จนเขาอดหัวเราะไม่ได้
“แกนี่มัน รู้ขนาดนั้นก็มหาเทพแล้ว ว่าแต่ตอนนี้แกไม่มีคนที่คบเลยเหรอ”
“ไม่ครับ” ชายหนุ่มตอบแบบไม่ต้องคิด เพราะเขารู้สึกว่าการคบแบบไปเรื่อย ๆ มันคงยังสนุก และไม่ต้องมาคอยเอาอกเอาใจงอนง้ออะไรมากมาย ผู้หญิงเองก็รู้ขอบเขต เขาเองก็สบายใจ สนุกกับชีวิต สนุกกับงาน ตอนนี้คำว่าแฟนจึงแทบจะไม่มีอยู่ในหัว
“ดีเลยเดี๋ยวพรุ่งนี้ แม่จะไปดูให้ว่าแกจะเจอเนื้อคู่เมื่อไหร่ ได้ข่าวว่าหมอดูคนนี้แม่นมาก”
“ผมเห็นแม่บอกว่าแม่นทุกคนนี่ครับ” สิงหาพูดแย้งขึ้นทันที เพราะเท่าที่ได้ยินคนเป็นแม่พูดถึงหมอดูไม่เคยบอกว่าไม่แม่น สำนักไหนก็แม่นไปหมด
“แต่คนนี้แม่นสุด ๆ เพื่อนแม่คอนเฟิร์มมาแล้ว”
“เอาที่สบายใจเลยครับ” สิงหาบอกก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่มแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้
“คืนนี้ไม่ออกไปไหนใช่ไหม”
“ไม่ครับ” สิงหาเอี้ยวตัวกลับมาบอกคนเป็นแม่ยิ้ม ๆ แล้วเดินผละออกไป คืนนี้เขาตั้งใจจะนอนให้เต็มที่ เพราะพรุ่งนี้มีประชุม แม้จะเที่ยวเก่ง แต่เขาก็ให้ความสำคัญกับงานมากเช่นกัน
“ว้าว ดีใจจังลูกชายฉันเป็นเด็กดีแล้ว” นางกันยาพูดติดประชดนิด ๆ
“ทำไมต้องดีใจขนาดนั้นด้วย ทำอย่างกับลูกไม่เคยอยู่บ้าน” นายกรณ์ที่กินข้าวเงียบ ๆ ฟังสองแม่ลูกคุยกันมาตลอดเอ่ยขึ้น
“อยู่ค่ะ แต่กลางคืนแทบจะไม่นอนบ้านแล้ว แอบขายทิ้งดีไหมคอนโดน่ะ” นางบอกพลางถอนหายใจอย่างรู้ดีว่าที่นั่นไม่ใช่แค่เอาไว้นอนพัก แต่ลูกชายตัวดีชอบพาสาว ๆ ไปค้างด้วย
ทำไมถึงรู้นะเหรอ เคยไปเห็นกับตามาแล้ว จะด่าแรง ๆ ก็ทำไม่ได้ ที่ทำได้ก็แค่บ่นแล้วก็บ่นเท่านั้น
“ของลูก เขาซื้อของเขาเองคุณจะไปแอบขายได้ไง” นายกรณ์บอกเสียงกลั้วหัวเราะ
“ก็พูดไปงั้นแหละค่ะ ลอยชายอยู่อย่างนี้ เมื่อไหร่ฉันจะได้อุ้มหลานเสียที”
“เจ้าพ่อเจ้าแม่คุณช่วยไม่ได้เลยเหรอ” นายกรณ์เลิกคิ้วมองคนเป็นภรรยายิ้ม ๆ
“พรุ่งนี้ฉันจะไปให้ท่านดูให้ คนนี้แม่นสุด ๆ เพื่อนฉันหลายคนคอนเฟิร์มมาแล้ว” นางกันยาบอกอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม
“ขอให้โชคดีครับ” นายกรณ์อวยพร ยกน้ำขึ้นดื่มก่อนจะลุกขึ้นเดินผละหนีออกไปอีกคน นางกันยาได้แต่มองค้อนแล้วบ่นคนเดียวว่า “ไม่เชื่อล่ะสิ”
หลังจากลูกชายออกไปทำงาน คนเป็นสามีก็หมกตัวอยู่กับต้นไม้ นางกันยาที่กินข้าวเช้าเรียบร้อยแล้วก็จัดการแต่งตัวจะออกไปข้างนอก อย่างหวังว่าวันนี้นางต้องได้อะไรดี ๆ มาแน่ ๆ
“ส้มวันนี้ฉันคงไม่ได้กลับมากินข้าวเที่ยงที่บ้าน บอกคุณกรณ์ให้ด้วยนะ อย่าลืมเตือนเขาให้กินข้าวตรงเวลาด้วย อยู่กับต้นไม้ทีไรลืมเวลาทุกที” นางกำชับแม่บ้านเก่าแก่ที่อยู่ด้วยกันมานานอย่างคุ้นเคย
“ได้ค่ะ”
“ฉันไปล่ะ ลุงสามไปกันค่ะ เราต้องแวะไปรับเพื่อนของฉันอีก”
“ครับ”
นางกันยานั่งรถออกจากบ้านมุ่งหน้าไปรับเพื่อนสนิท จากนั้นก็ตรงไปที่สำนักหมอดูคนใหม่ ที่พอเข้าไปแล้วเหมือนจะธรรมดากว่าที่คิด เพราะปกติในห้องพิธีที่เคยไปมันจะดูขลัง และมีโต๊ะหมู่บูชาอลังการการงานสร้างมาก ๆ แต่ที่นี่ไม่มีโต๊ะหมู่บูชา และไม่ได้มีคนเยอะอยากที่นางกังวล
“แน่ใจนะว่ามาถูกบ้าน” นางกันยาถามเพื่อนขณะที่นั่งรอพ่อหมออย่างเริ่มไม่มั่นใจ
“แน่นอนสิ”
“ทำไมดูธรรมดาไม่ค่อยขลังเลย แถมไม่มีคนสักคน” นางพูดพลางกวาดสายตาไปรอบ ๆ
“เธอจะรู้อะไร สมัยนี้เขานัดมาเป็นคิวย่ะ”
“อ๋อ โอเค ดูทันสมัยมากเลยนะ” ว่าพลางปิดปากหัวเราะอย่างชอบใจ
“แต่แม่นมากเลยนะ”
“ฉันจะรอดู”
“สวัสดีครับ”
เสียงทักดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของพ่อหมอที่แต่งตัวด้วยชุดสูทดูภูมิฐานราวกับนักธุรกิจมากกว่าหมอดูเสียอีก แต่ภายใต้ความภูมิฐานนั้นเหมือนจะมีความนุ่มนิ่มซ่อนอยู่เหมือนกัน
“สวัสดีค่ะ”
“ขอโทษที่ให้รอนานนะครับ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า”
“ไม่ต้องมีพิธีอะไรเหรอคะ” นางกันยาถามอย่างสงสัย
“พิธีไหว้ครูผมทำมาแล้วเรียบร้อยก่อนมาพบพวกคุณแล้วครับ ผมแยกคนละห้อง แบบอยากให้ในห้องนี้บรรยากาศสบาย ๆ เป็นกันเองน่ะครับ”
“อ๋อค่ะ” นางกันยายิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะวางกระดาษเล็ก ๆ แผ่นหนึ่งลงบนโต๊ะแล้วเลื่อนไปตรงหน้าพ่อหมอคนใหม่
“ฉันอยากรู้เมื่อไหร่ลูกชายของฉันจะได้แต่งงาน และเนื้อคู่เขาเป็นคนแบบไหนคะ เมื่อไหร่จะได้เจอกัน”
พ่อหมอยิ้มแล้วเขียนอะไรยุกยิก ๆ อยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดแนะนำหลายอย่างยืดยาวพอสมควร แต่หลัก ๆ แบบสรุปคือ คนที่จะนำพาเนื้อคู่มาให้พบคือบุพการี และเท่าที่ฟังพ่อหมอพูดถึงความเข้ากันได้ของลูกชายและหญิงสาวในแต่ละราศีแล้ว นางกันยารู้สึกว่าคนราศีกุมภ์คือผู้หญิงที่ดีที่สุดสำหรับลูกชายของนาง เพราะจะนำพาแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต แต่ราศีอื่น ๆ ก็ไม่ได้เลวร้าย แต่ก็ไม่ได้ดีมากมาย แถมบางราศียังจะนำพาความโชคร้ายมาให้ด้วย แม้ตอนท้ายพ่อหมอจะสรุปว่าพวกเขาจะพากันก้าวข้ามมันได้ก็ตาม