ตอนที่ 9 เดิมทีก็ไม่ใช่คนอ่อนแอ
[ ฟังจากถ้อยคำและน้ำเสียงของคุณหนู บทเรียนครั้งนี้ น่าจะทำให้คุณหนูตาสว่างแล้วจริงๆ ]
เมื่อคิดเช่นนั้นแล้วลี่ฉุนจึงเอ่ยขึ้นนเบาๆด้วยความโล่งใจ
" เห็นคุณหนูคิดได้เช่นนี้ บ่าวอย่างข้ารู้สึกดีใจมากเจ้าค่ะ "
เอ่ยจบ นางก็หลับตาลงอย่างสบายใจ นางรู้จักคุณหนูของนางดีที่สุด แม้ภายนอกจะอ่อนโยน เช่นคุณหนูตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง แต่ภายในกลับเข้มแข็ง ไม่ยอมคน หากตั้งใจทำการใดแล้ว ไม่สำเร็จจะไม่มีวันล้มเลิก
เมื่อเห็นว่าสาวใช้หลับไปแล้ว ตันหยงก็ไม่ได้รบกวนอีก เธอมองหน้าสาวใช้แล้วเอ่ยพึมพำในใจอย่างยอมรับชะตาที่เปลี่ยนไป
[ อยู่ที่นี่ คงมีแต่สาวใช้คนนี้ ที่รักและห่วงใยเจ้าของร่างเดิม ในเมื่อโชคชะตา กำหนดให้ชีวิตเราเปลี่ยนเป็นเช่นนี้ คงทำได้เพียง ยอมรับความจริง เป็นคนใหม่ที่มีนามว่า จ้าวลู่ชิง ดังนั้น เราต้องอาศัยอยู่ในภพนี้ให้มีความสุข อยู่รอดให้ได้ในทุกวัน และต่อจากนี้ไป จะไม่มีตัวตนของตันหยงอีกต่อไป จะให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาด ว่าเราไม่ใช่แม่นางลู่ชิง ]
เธอคิดว่า หากมีใครรู้ ว่าแท้จริงแล้วเธอมาจากต่างภพ คงหนีไม่พ้น ที่จะถูกคนในภพนี้กล่าวหาว่าเป็นผีสาง การใช้ชีวิตที่ควรจะปกติ อาจจะไม่ราบรื่นอีกต่อไป
นับว่าตันหยงฉลาด รู้จักปรับตัวตามสถานณการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ยึดติดกับอะไร ที่ก่อให้เกิดความเบื่อหน่ายและความคิดถึงภพที่จากมาจนมันบั่นทอนจิตใจ
เมื่อคิดตกจนตัดสินใจแน่วแน่แล้ว จึงมองรอบๆพร้อมกับเอ่ยพึมพำออกมา
" ที่นี่ชื้นและหนาวเย็นมาก หากปล่อยให้ลี่ฉุนนอนในสภาพแบบนี้ เกรงจะติดเชื้อจนรักษาชีวิตเอาไว้ไม่ได้ "
หลังจากพึมพำแล้วนางก็ลุกขึ้นยืน มองออกไปนอกกรงขังอย่างเงียบๆ โดยที่ไม่อาจรู้ได้ว่านางคิดจะทำอะไร
และในตอนนั้นเอง ก็มีทหารกลุ่มใหม่เดินลาดตระเวน ตรวจดูความเรียบร้อยในคุก ผ่านหน้านางไป นางจึงเอ่ยเรียกขึ้นด้วยวาจานุ่มนวล
" ท่านทหารกล้า ผู้ภักดี ได้โปรด ช่วยสาวใช้ข้าทีเถอะ นางจะไม่ไหวแล้ว "
แน่นอนว่านางไม่ได้คาดหวัง ว่าจะได้รับความเมตตาจากทหารพวกนั้น ที่เรียกเพราะนางก็มีแผนการในใจเช่นกัน
ทหารกลุ่มนี้หันมาตามเสียงของพระชายาจ้าวลู่ชิง โดยไม่มีทีท่าว่าจะตกใจกลัวเหมือนกลุ่มก่อนหน้า มีหนึ่งคนเดินเข้ามาหานาง ส่วนที่เหลือก็พยักหน้าให้กันแล้วลาดตระเวนต่อ
จ้าวลู่ชิงเห็นแบบนั้น ก็ถึงกับพูดพึมพำด้วยความรู้สึกประหลาดใจอย่างคาดไม่ถึง
[ ทหารกลุ่มนี้ ไม่มีท่าทีตกใจสักนิดเลย หรือจะรู้ ว่าเรายังไม่ตาย เลยไม่ได้ประหลาดใจเลย ]
ทหารคนที่เดินเข้ามาหาจ้าวลู่ชิง พร้อมกับเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้านิ่งอย่างนอบน้อมและรักษาระยะห่างตามความเหมาะสม
" พระชายา ท่านช่างมีเมตตา ห่วงใยกระทั่งสาวใช้ต่ำต้อย "
ทหารผู้นั้น เดินเข้ามาหยุดลงตรงหน้าจ้าวลู่ชิง ใช้สายตาอันแหลมคม เพ่งมองใบหน้านางอย่างละเอียด
จ้าวลู่ชิงเองก็ยืนให้ทหารสำรวจ โดยไม่มีท่าทีหวั่นเกรงใดๆ แต่กลับลอบพึมพำในใจด้วยความสงสัย
[ ทหารผู้นี้เป็นใครกัน นอกจากจะไม่กลัวข้าแล้วยังมีท่าทีนอบน้อมเคารพต่อข้าราวกับว่า ข้าเป็นนายพวกเขาแหน่ะ ]
เมื่อเพ่งมองจนแน่ใจ ว่าคนในคุก คือพระชายาอี้เฉินอ๋องจริงๆ เขาก็เข้าใจเรื่องราวทันที
[ คุณหนูยังไม่ตาย ดูแล้วข่าวที่แพร่สะพัดออกไปข้างนอก คงจะเป็นแผนการของท่านอ๋องโหดผู้นั้น ]
เขาก้าวเข้ามาชิดกรงแล้วเอ่ยเบาๆ เมื่อเห็นว่าพระชายาจ้าวลู่ชิงก็จ้องตนเช่นกัน
" คุณหนู ท่านอย่ามัวแต่ยืนสงสัยอะไรเลย รีบรับยาแล้วเอาให้แม่นางลี่ฉุนกินเถอะ นางถูกโบยด้วยแส้หวายอาบยาพิษ หากไม่รีบทานยาถอนพิษ เกรงจะไม่รอด "
เมื่อจ้าวลู่ชิงได้ยินทหารเรียกนางว่าคุณหนู นางเข้าใจในทันที ว่าทหารนายนี้มาจากจวนตระกูลจ้าว
นางเลยรีบรับยาจากมือทหารผู้นั้น
" ขอบใจเจ้ามาก "
แล้วนางก็นำยามาป้อนสาวใช้ทันที ทหารคนนั้นจึงเอ่ยต่อว่า
" ข้างนอกลือกันสะพัดว่าท่านตายแล้ว ทันทีที่ท่านแม่ทัพรู้ข่าว ท่านเสียใจและโกรธแค้นท่านอ๋องมาก
จึงให้ข้าแฝงตัวเข้ามาในจวนอ๋อง เพื่อสืบให้กระจ่าง ตอนนี้มีทหารเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ด้านนอก ตามจุดต่างๆ
รอเพียงท่านแม่ทัพสั่งการ พวกเขาก็พร้อมบุกเข้ามาช่วยคุณหนูออกไปจากที่นี่ขอรับ "
จ้าวลู่ชิงอึ้งมาก เมื่อได้ฟังที่ทหารสอดแนมเอ่ยเช่นนั้น นางสัมผัสได้ถึงความห่วงใยจากผู้เป็นบิดาอย่างแท้จริง จึงเอ่ยออกมาด้วยความซาบซึ้งใจ
" ข้าซาบซึ้งในความห่วงใยของท่านพ่อมาก ฝากไปบอกท่านว่า ไม่ต้องห่วงข้า บุตรสาวท่านผู้นี้ เดิมทีก็ไม่ใช่คนอ่อนแอ เพียงแค่ตาบอดชั่วขณะ ยามนี้ตาสว่างแล้ว จะไม่ทำให้ท่านต้องห่วงอีกแล้ว"
" ขอรับ "
ตอบรับคำแล้ว ทหารผู้นั้นก็หมุนตัวเดินจากไป คล้ายเดินตรวจตราความเรียบร้อยของนักโทษ เช่นทหารกลุ่มอื่น
ส่วนจ้าวลู่ชิงก็มานั่งลงข้างกายสาวใช้ แล้วค่อยๆเทยาลงบนแผลที่ปริแตก
แม้ในมิตินี้ จิตใจผู้คนจะโหดเกินนางรับไหว ทั้งยังแบ่งแยกชนชั้นชัดเจน
แต่ก็ถือว่ายังโชคดี ที่ทะลุมิติมาในร่างของบุตรสาวแม่ทัพใหญ่ แม้ชีวิตก่อนหน้านี้จะรันทด แต่ชีวิตหลังจากนี้
[ ไม่อยากจะคิดเลย หากว่าเราทะลุมิติมาในร่างสาวชาวบ้านธรรมดา ชีวิตจะลำบากขนาดไหน ขนาดเป็นบุตรสาวแม่ทัพใหญ่ เป็นถึงชายาอ๋อง ยังลำบากขนาดนี้ พอพูดถึงอี้เฉินอ๋อง ชักอยากจะเห็นหน้าเขาแล้วสิ จะหล่อสักแค่ไหนกันเชียว ]
แม้ชีวิตในก่อนหน้านี้ จะน่าสงสาร ไร้การเหลียวแล ไม่เป็นที่โปรดปราน แต่ชีวิตหลังจากนี้ นางจะไม่สนใจอ๋องผู้นั้นแม้แต่น้อย เน้นใช้ชีวิตให้คุ้มกับที่ได้มาเกิดในร่างใหม่ ในร่างพระชายาอ๋อง