ตอนที่ 10 ช่างสำคัญต่อแม่ทัพจ้าวเสียจริง
เรือนฮุ่ยอัน เรือนหลักของจวนอ๋อง มีความสงบเงียบ รายล้อมไปด้วยต้นใม้ใหญ่แผ่กิ่งก้าน ให้ความร่มรื่น เย็นสบาย
ภายในเรือน ปรากฏบุรุษรูปงามกำลังนั่งตวัดปลายพู่กัน เขียนอักษรลงบนแผ่นกระดาษด้วยท่าทีนิ่งสงบ
แววตาเย็นชาคู่นั้น ช่างสุขุม ลุ่มลึก จนน่าค้นหา คิ้วหนา ดกดำเสริมให้ใบหน้าคม ดูมีเสน่ห์และดูทรงอำนาจ น่าเกรงขามรูปงามดุจเทพเซียนในคราบจอมมาร
ขณะนั้นเอง ก็ปรากฏองครักษ์ข้างกาย ก้าวเข้ามาหยุดลงตรงหน้าบุรุษผู้นั้น แล้วเอ่ยรายงานด้วยสีหน้าเรียบเฉยเย็นชา
" เรียนท่านอ๋อง ในคุกใต้ดินมีข่าวลือออกมา ว่าผีพระชายาเหี้ยนหนัก หลอกทหารยามจนหวาดกลัว หนีอลหม่านกันหมดแล้วขอรับ "
ได้ยินดังนั้น ร่างสูงใหญ่ที่นั่งนิ่งสงบ ก็หยุดความเคลื่อนไหวในมือแล้วเอ่ยเสียงเย็นด้วยวาจาอันเลือดเย็นไร้ซึ่งความเมตตา
" ไร้ประโยชน์ เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ ถ่ายทอดคำสั่งลงไป ทหารนายใดที่ขี้ขลาด ขยันสร้างข่าวลือ จับประหารทันที "
" รับทราบขอรับ "
องครักษ์ตอบรับคำสั่งด้วยน้ำเสียงกระชับหนักแน่น ใบหน้ายังคงความเย็นชาเช่นเดิม
จากนั้นอ๋องอี้เฉินจึงถามต่ออย่างสุขุมเช่นเดิมพร้อมกับเขียนอักษรลงบนกระดาษต่อราวกับคนไร้ความรู้สึก
" ข่าวการตายของชายาข้า แพร่สะพัดออกไปทั่วเมืองหลวงแล้ว ทางจวนตระกูลจ้าว ไม่มีความเคลื่อนไหวใดเลยหรือ "
" มีขอรับ วันนี้ในคุกใต้ดิน ทหารองครักษ์จับหน่วยสอดแนมของแม่ทัพจ้าวที่แฝงตัวเข้ามาในจวนได้สี่คน คาดว่าน่าจะมาสืบข่าวพระชายา "
ได้ยินองครักษ์ข้างกายเอ่ยรายงานเช่นนั้น สีหน้าของอี้เฉินอ๋องแลดูมีชีวิตชีวาขึ้น
" ชายาข้าผู้นี้ ช่างสำคัญต่อแม่ทัพจ้าวเสียจริง สมกับเป็นแก้วตาดวงใจที่แม่ทัพจ้าวจริงๆ ข้าชักอยากรู้แล้วสิ ว่าแม่ทัพจ้าวจะทนเฉยต่อไหวแค่ไหน เมื่อรู้ว่าบุตรสาวที่เปรียบดังแก้วตาดวงใจไปปรโลกแล้วเช่นนี้ "
ทุกอย่างเป็นไปตามแผนการณ์ของอี้เฉินอ๋อง เขาคาดเดาแต่แรกแล้ว ว่าผลลัพธ์ต้องเป็นเช่นนี้ บุตรสาวแม่ทัพใหญ่ตายในจวนเขา ซ้ำยังถูกทิ้งร่างในคุกอย่างอนาถ การยั่วยุนี้ จะไม่ทำให้แม่ทัพจ้าวเคลื่อนไหวได้เช่นไร
" ท่านอ๋อง แล้วหน่วยสอดแนมสี่คนนั้น จะให้ทำเช่นไรขอรับ "
" ปล่อยกลับไปหนึ่ง ที่เหลือ ฆ่าทิ้งให้หมด "
มีเพียงทำแบบนี้ ถึงจะยั่วโมโหคนอย่างแม่ทัพจ้าวได้ เขาจะรอดู ว่าการถูกหยามเกียรติครั้งแล้วครั้งเล่า แม่ทัพจ้าวผู้สุขุมจะยังทนนิ่งเฉยได้อยู่ไหม
" ขอรับ แล้วข่าวผีพระชายาจะทำเช่นไร จะปล่อยให้แพร่สะพัดแบบนี้ต่อไปหรือขอรับ "
องครัษ์หนุ่มตอบรับคำสั่งแล้วถามต่อ เพื่อที่จะได้จัดการเรื่องทั้งหมดทีเดียว
อี้เฉินอ๋องยกมุมปากยิ้มเย็นออกมาอย่างสุขุมด้วยแววตาอันเยือกเย็น แล้วเอ่ย
" ข่าวแพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงเร็วเช่นนี้ ดูแล้วตระกูลซูคงจะอดทนรอไม่ไหวแล้ว
ดีเหมือนกัน ข้าจะให้พวกเขาสมหวัง ถือโอกาสนี้ แต่งตั้งซูเม่ยเป็นพระชายาแทนบุตรสาวตระกูลจ้าว
ทำเช่นนี้ถึงจะสร้างความไม่พอใจให้แม่ทัพจ้าวได้ ด้วยนิสัยของแม่ทัพจ้าว ข้ามั่นใจ ว่าเขานิ่งเพื่อรอจังหวะเวลาเท่านั้น
ฉะนั้น เราต้องเตรียมความพร้อมให้ดี "
" ขอรับ ทว่าตระกูลซู มีนิสัยทะเยอทะยาน มักใหญ่ใฝ่สูง แม้จะดูซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อฮ่องเต้ แต่กลับหาความจริงใจไม่ได้ คนเช่นนี้ ถ้าแต่งตั้งบุตรสาวขึ้นเป็นพระชายา จะไม่นำความวุ่นวายมาให้จวนและราชสำนักหรอกหรือ "
องครักษ์หนุ่มผู้เย็นชาถามเจ้านายด้วยความกังวลใจเกี่ยวกับตระกูลขุนนางชั้นสูงเช่นตระกูลซู คนผู้นี้เพื่อลาภยศสรรเสริญแล้วสามารถทำได้ทุกอย่าง
อี้เฉินอ๋องเข้าใจความกังวลขององครักษ์ผู้ภักดีดี จึงเอ่ยอธิบายว่า
" แม้ตระกูลซู จะมีความทะเยอทะยานสูง ลุ่มหลงในอำนาจลาบยศ แต่กลับไม่น่ากลัวเท่าตระกูลจ้าว
ที่มีอำนาจทางทหารในมือจำนวนมาก ทั้งยังมียอดฝีมือที่จงรักภักดีคอยคุ้มครอง พร้อมที่จะก่อกบฏได้ทุกเมื่อ คนเช่นนี้ ควบคุมยาก ต้องระวังยิ่งกว่าตระกูลซู
ที่ข้าจะให้อำนาจตระกูลซู ก็เพื่อเลี้ยงเอาไว้ใช้งาน หากจะก่อความวุ่นวาย คงหนีไม่พ้นเรื่องยกตนเหนือผู้อื่นเท่านั้น
คนเช่นนี้ ผู้ใดเขาสนใจกัน มีเพียงพวกขี้ประจบประแจงด้วยกันเท่านั้น ที่จะสนใจกัน ไม่มีอะไรให้กังวลใจ "
พอได้ฟังที่เจ้านายเอ่ย องครักษ์หลี่จิ้งก็เข้าใจความคิดและแผนการอันล้ำลึกของเจ้านายทันที จากนั้นอี้เฉินอ๋องจึงเอ่ยต่อว่า
" ส่วนจ้าวลู่ชิง เดิมที ข้าแต่งนางเข้าจวน เพียงจะใช้เป็นเครื่องมือในการยั่วยุบิดานาง
ให้เกิดโทสะจนทำผิดต่อกฏหมายบ้านเมืองเท่านั้น จะได้ง่ายต่อการยึดอำนาจทางทหาร
แต่ผิดคาด นอกจากแม่ทัพจ้าวจะนิ่งเฉยแล้ว ยังไม่มีท่าทีทุกข์ร้อนใจใดๆเลย
ทั้งที่บุตรสาวอันเป็นแก้วตาดวงใจ ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่สมเกียรติ บ่าวไพร่เมินเฉย ทั้งยังไร้บ่าวไพร่รับใช้ในเรือน
ฉะนั้น ไม่ว่าจ้าวลู่ชิงจะเป็นคนหรือผีสาง ก็ไม่ได้มีค่าอะไรอีกต่อไป "
องครักษ์แอบรู้สึกเห็นใจจ้าวลู่ชิงเล็กน้อย นางมีใจให้ท่านอ๋องมาตลอด แต่ท่านอ๋องกลับมองนางเป็นเพียงเครื่องมือชิ้นหนึ่งเท่านั้น
ความเห็นใจของหลี่จิ้งเกิดขึ้นเพียงแวบเดียว จากนั้นจึงเอ่ยรายงานต่อผู้เป็นเจ้านายต่อ ด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเย็นชา
" แม่ทัพจ้าวสุขุม รอบคอบกว่าที่คาดไว้มากก็จริง แต่ครั้งนี้ แม้ท่าทีที่แสดงออกมาจะนิ่งเฉย แต่หน่วยข่าวกรองของเรากลับพบว่า ทั่วเมืองหลวง มีหน่วยสอดแนมของแม่ทัพจ้าวแฝงตัวอยู่มากมาย หาดว่าถูกสะกิดใจอีกเพียงน้อยนิด ก็น่าจะทำเรื่องอึกทึกครึกโครมได้ขอรับ "
อี้เฉินอ๋องเผยความพอใจออกมาผ่านใบหน้าด้วยรอยยิ้มมุมปาก แล้วเอ่ย
" ดี เช่นนั้นก็นำร่างของจ้าวลู่ชิงกับสาวรับใช้ออกมา จับใส่กรง แล้วแห่ประจานรอบเมือง ประกาศออกไป ว่านางลอบคบชู้สู่ชาย ทั้งยังใจแคบ ขี้อิจฉาริษยา มักมากในกามจนคบชู้สู่ชายกับบ่าวในจวน ครานี้ หากแม่ทัพจ้าวยังนิ่งเฉย เห็นทีข้าจะต้อง ส่งศีรษะบุตรสาวอันเป็นแก้วตาดวงใจกลับไปหาที่จวนแล้ว "
" ขอรับ กระหม่อมจะรีบไปจัดการตามที่ท่านอ๋องรับสั่งเดี๋ยวนี้ "
อี้เฉินอ๋องพยักหน้าอนุญาต หลี่จิ้งองครัษ์ข้างกายจึงโค้งคำนับแล้วหมุนตัวเดินออกไปจากเรือน
*** ขอบคุณคุณนักอ่านมากค่ะ 1 คอมเมนต์ เท่ากับ 1 กำลังใจ สามารถคอมเมนต์พูดคุยได้นะคะ ***